ธุรกิจเล็กใหญ่ธุรกิจไหนได้เปรียบ

ธุรกิจเล็กใหญ่ธุรกิจไหนได้เปรียบ

 

 

 

       หากเราอยู่ในฐานะนักการตลาด ไม่ว่าจะอยู่ในบริษัทขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็เริ่มมีคำถามนี้ในใจตั้งแต่เริ่มคิดแผนการตลาดใดก็ตามแล้ว สิ่งสำคัญ 3 ประการที่ไม่ว่าบริษัทขนาดเล็ก หรือใหญ่ หากทำได้ตามนี้ โอกาสที่จะชนะและประสบความสำเร็จย่อมมีสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เริ่มจากสิ่งแรก คือ 

 

       1. การเข้าใจตนเอง/สภาพตลาด/การแข่งขันรวมถึงลูกค้าของเราอย่างถ่องแท้ 

 

       2. สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน หรือค่อนข้างเบสิกเมื่อได้รับคำตอบ แต่ถ้าถามใจตัวเองว่า เราเข้าใจทั้งหมดข้างต้นแน่แล้วจริงหรือ สิ่งหนึ่งที่บริษัทขนาดใหญ่มักจะพลาดเสมอ นั่นก็คือ ความเคยชินในสิ่งที่เคยปฏิบัติผ่านมา ออกสินค้าใหม่ต้องใช้กลยุทธ์แบบนี้ งบประมาณประชาสัมพันธ์อย่างต่ำต้องเท่านี้ หรือกิจกรรมทางการตลาดต้องครอบคลุมแทบทุกสื่อพร้อมกิจกรรมเสริมรอบด้าน การที่นักการตลาดคิด หรือยืนอยู่บนข้อมูลที่เคยชินและไม่ลงลึกในรายละเอียด มักจะเป็นหลุมพรางของความล้มเหลวอยู่เสมอ ทั้งนี้ เราสามารถเริ่มพิจารณาลูกค้าของเราในแบบใหม่ที่ไม่ใช่ทุกคนมีความต้องการ เหมือนกัน จากกลุ่มใหญ่แยกเป็นกลุ่มย่อย จากการตอบสนองด้านเดียว เป็นการตอบสนองอย่างรอบด้านและต่อเนื่อง สุดท้าย คาถาคำเดียวสั้น ๆ ก็คือ คิดและศึกษาอย่างละเอียด ลงลึก ลงลึก และลงลึกเรื่อย ๆ ความรวดเร็วในการตอบสนอง หรือ Speed To Market 

 

       3. ข้อนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบที่สุดของการเป็นบริษัทขนาดเล็ก การตอบสนองผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว การปรับตัวอย่างทันที เมื่อพบว่าแผนการตลาดของเราเริ่มมีปัญหา บริษัทขนาดใหญ่มักจะมาพร้อมกับความอุ้ยอ้าย และการตัดสินใจก็ซับซ้อนพอสมควร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักการตลาดต้องเข้าใจและตอบสนองอย่างรวดเร็วก็คือ การแปลงความคิด เป็นการปฏิบัติ ทั้งนี้ มีคำพูดของสุภาษิตจีน “ยิ่งใหญ่..ยิ่งต้องทำตัวให้เล็ก” ซึ่งความหมายของมันก็ครบถ้วนและลึกซึ่งอยู่ในตัวเองแล้ว ดังนั้น การช่วงชิงความรวดเร็วในการทำการตลาดเป็น Key success ที่เราพบเห็นอยู่เสมอสำหรับผู้นำตลาด และผู้ที่สามารถโค่นล้มผู้นำการตลาดนั้น ๆ ได้ การบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

       สุดท้ายนี้ ไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ ไม่มีใครได้เปรียบ เสียเปรียบกันทุกประตูเสมอไป 

 

 

 

 

Credit : ประชาชาติธุรกิจ 

โดย :
 1878
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจของเรา เหมาะกับการลงทุนเรื่อง chatbot ไหม
Facebook ได้เพิ่มฟีเจอร์ Report Post เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแจ้งข่าวปลอมให้กับทาง Facebook ตรวจสอบได้แล้ว
จากผลการศึกษาพบว่า Facebook Page ควรเว้นระยะห่างในการโพสต์อย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยบริษัท EdgeRank Checker ได้ทำการวิเคราะห์โพสต์มากกว่า 30,000 โพสต์จาก Facebook Page มากกว่า 500 Page โดย Page เหล่านี้มีคนกด like เฉลี่ย 140,000 ราย พบว่าอายุของโพสต์แต่ละอันนั้นมีค่าเฉลี่ย 3 ชั่วโมง 7 นาที ค่ามัธยฐาน 2 ชั่วโมง 56 นาที อายุของโพสต์นั้นทาง EdgeRank ใช้วิธีการวัดจากการที่มีคนกด Like หรือแสดงความคิดเห็นนับจากเวลาที่โพสต์ โดยเมื่อพ้นไปจาก 3 ชั่วโมงแล้วการโต้ตอบจากผู้ชมจะเหลือน้อยลงไปมากจึงสรุปว่าโพสต์หมดอายุของมันนั่นเอง

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์