4 เทรนด์ Content Marketing ที่มาแน่ในปีหน้า!

4 เทรนด์ Content Marketing ที่มาแน่ในปีหน้า!

     ปัจจุบันมีแต่คำพูดที่ว่า Content is king ใครอยากทำแบรนด์ให้โดนในลูกค้า ต้องเริ่มจาก Content ที่มีการสร้างเนื้อหาที่โดนใจ เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ไม่เน้นการขาย ขาย ขายและขายอย่างเดียว ซึ่งในอนาคตการทำ Content Marketing จะยังคงอยู่กับเราต่อไปแต่จะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น ทิศทางจะไปแบบไหน ต้องลองไปดูกัน

                                                                                                                                ที่มา www.eaglenews.ph
                                                                                                                                                           


1. Social Publishing
     Social media platforms ไม่ใช่รูปแบบเอาไว้เผยแพร่คอนเท็นต์ออนไลน์แบบธรรมดาอีกต่อไปแต่จะมีพื้นที่เฉพาะสำหรับเหล่าสำนักพิมพ์ สำนักข่าว ให้พวกเขามีการเผยแพร่เนื้อหาได้ง่าย รวดเร็วและเข้าถึงผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ผู้ที่ชนะในรูปแบบนี้คงหนีไม่พ้น Facebook ที่เมื่อช่วงต้นปีได้เปิดตัวเครื่องมือที่ชื่อว่า Instant Articles สำหรับคนทำเพจ บล็อกเกอร์ สำนักข่าวต่างๆ สามารถลงบทความของตนเองได้แบบง่ายๆ สะดวกแถมยังขึ้นในหน้าฟีด Facebook ได้ตามปกติผ่านเครื่องมือนี้ โดยในอนาคตน่าจะมีจำนวนผู้ใช้เครื่องมือนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องเริ่มศึกษาการใช้งานเพื่อให้สื่อสารกับผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่ง

2. Influencer Marketing
     ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคฟังเสียงผู้บริโภคด้วยกันเอง ทำให้การโฆษณาแบบชำระเงินผ่านสื่อต่างๆ มีประสิทธิภาพน้อยลง แต่การโฆษณาผ่าน Influencer หรือผู้มีอิทธิพลในแวดวงต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น Beauty Blogger ดารา นางแบบ จากการสำรวจของ Fluent พบว่า 69% ของผู้ใช้ Snapchat กดข้ามโฆษณา ซึ่งสอดคล้องกับบทความของ CNBC ที่ผู้บริโภคในยุคนี้มักจะกดข้ามโฆษณา 65% เพราะฉะนั้นแล้วในช่วงปีหน้าการทำตลาดด้วย Influencer Marketing ก็ยังคงเป็นอะไรที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญ

                                                                                     ที่มา www.slideshare.net

3. Livestream and Video Content
     การทำคอนเท็นต์ในยุคนี้คงหนีไม่พ้น Video Content ที่กำลังมาแรงมาก หากเลื่อนไปในฟีด Facebook คุณจะได้เห็น Video ที่ถูกนำเสนออย่างน่าสนใจมากมาย แต่การที่จะทำให้ผู้บริโภคถูกดึงดูดอยู่กับ Video ของคุณมันสำคัญมากในช่วง 8 วินาทีแรก ถ้าไม่น่าสนใจหรือดูยืดเยื้อเกินไป ผู้บริโภคก็จะ Skip ในทันที เพราะฉะนั้นตอนเริ่มต้นนั้นสำคัญ ควรเริ่มด้วยคำโปรยที่ดูตื่นเต้น กระชับ ได้ใจความ นำเสนอให้จบ ใช้เพลงหรือ Sound ที่น่าสนใจ ภาพสวยงาม รวมทั้งเป็นเรื่องราวใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครรู้
     นอกจากนี้เครื่องมือ Livestream ก็ยังมาแรงมากเช่นกัน เห็นได้ชัดจากแบรนด์ต่างๆ เริ่มมีการขายสินค้าผ่านทาง Livestream โดย Facebook เองก็ได้ประกาศว่ากำลังมุ่งสู่แพลตฟอร์ม “Video First” ดังนั้นปีหน้า เราน่าจะได้เห็นรูปแบบการนำเสนอ Video ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น

                                                                                  ที่มา https://blogs.opentext.com

4. AI-Enhanced Content
ยุค AI is everything จริงๆ เมื่อ AI จะขยับมาสู่วงการคอนเท็นต์ด้วยความฉลาดมากยิ่งขึ้น แม้แต่บริษัทที่ให้บริการด้านการวิจัยตลาดและการวิเคราะห์สำหรับอุตสาหกรรม IT อย่าง Gartner ก็ได้คาดการณ์ไว้ว่าในปี 2018 AI จะรับหน้าที่ในการดูแลเรื่องคอนเท็นต์ถึง 20% โดยเนื้อหาจะยึดตามข้อมูลและการวิเคราะห์จากนั้นจะมีการเขียนออกมาให้มีความเป็นธรรมชาติผ่านเทคโนโลยี เรียกได้ว่าในอนาคต AI จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นโดยเฉพาะในวงการ Content Marketing ที่ตอนนี้แม้แต่การแต่งเพลง AI 1ก็ทำได้แล้วนะ



ที่มา ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

โดย :
 1770
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Will Cathcart ผู้อำนวยการ News Feed ของ Facebook ให้สัมภาษณ์กับ TechCrunch ถึงประเด็นนี้ เขาบอกว่าปัจจุบันผู้ใช้ Facebook เฉลี่ยแล้วมี “โอกาส” เห็นโพสต์จากเพื่อนและเพจประมาณวันละ 1,500 โพสต์ (นี่คือค่าเฉลี่ย ผู้ใช้บางคนที่มีเพื่อนและเพจมากๆ ตัวเลขอาจสูงถึง 15,000 โพสต์) การที่ตัวเลขโพสต์สูงขนาดนี้ทำให้ Facebook ต้องมีอัลกอริทึมในการ “กรอง” โพสต์ให้ผู้ใช้
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆท่าน อาจจะสงสัยว่าเป็นไปได้ยังไง แค่มีเว็บไซต์ จะช่วยให้ขายสินค้าได้ดีขึ้นจริงๆน่ะหรือ
Pay per click เป็นการ โฆษณา ผ่านทางตัวแทนเว็บ เพื่อทำการ โฆษณา เว็บของคุณ โดย ค่าใช้จ่าย จะคิดจากจำนวนคลิกเป็นหลัก หากไม่มีจำนวนของการคลิก ก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่อาจจะมีแตกต่างไปบ้างตามแต่ข้อตกลงแต่ละค่าย เช่น อาจจะมีการคิดเพิ่มเติมในรูปแบบของ ePPM หรือ จำนวนการแสดงโฆษณาต่อการแสดงหนึ่งพันครั้ง ในปี 2550 กูเกิล ได้เสนอระบบใหม่ Pay-Per-Action[1] ซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง โดยเปลี่ยนจากระบบการจ่ายเงินค่าโฆษณาตามจำนวนที่มีคนคลิกเข้าไปดู เป็นการจ่ายเงินตามการกระทำที่กำหนด เช่น ซื้อของอย่างน้อยหนึ่งชิ้น หรือเข้าดูหน้าใดหน้าหนึ่ง โฆษณา PPC นั้นคือการลงโฆษณาผ่าน search engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, MSN ใน keywordที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ วิธีนี้จะคล้ายคลึงกับการทำ SEO (Search Engine Optimization)เพียงแต่เว็บของคุณจะปรากฏอยู่ทางขวามือในส่วนของโฆษณา(ในขณะที่ SEO จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) โดยคุณจะเสียเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้นหากแสดงเฉย ๆ จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์