ในการทำเว็บไซต์ จำเป็นต้องมีการทำคอนเทนต์ แต่ถ้าจะให้ดีต้องทำ SEO ควบคู่ไปด้วย ซึ่งหากคุณคือคนหนึ่งที่กำลังคิดจะทำ SEO แต่ยังสงสัยว่ามันจะเวิร์กสักแค่ไหน คำตอบก็คือ ถ้าอยากจะทำเว็บให้ปังและมีคุณภาพ ควรเริ่มต้นเรียนรู้และทำความรู้จักกับประเภทของ SEO กันก่อนถึงจะดีที่สุด!
SEO คืออะไร
การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกระบวนการเรียกยอดผู้เข้าชมจากการค้นหาแบบฟรีผ่านเครื่องมือ Search Engine ต่างๆ โดยอาศัยเทคนิคและกระบวนการในการจัดทำข้อมูล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการค้นหาและเข้าถึงสินค้าหรือบริการ
ประเภทของ SEO มีแบบไหนบ้าง
สำหรับประเภทของการทำ SEO นั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือ
- On-Page SEO
- Off-Page SEO
- Technical SEO
On–Page SEO คืออะไร
การทำ On–Page SEO คือ ตัวช่วยเพื่อให้เราสามารถปรับแต่ง แก้ไข และจัดการเว็บไซต์ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้ รวมถึงเพื่อช่วยให้บอทของ Google สามารถทำความเข้าใจกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของเราได้ดียิ่งขึ้น และนำไปประมวลผล แล้วทำการจัดอันดับเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีนี้จะต้องใช้เวลาในการติดอันดับ
เช็คลิสต์สำหรับการทำ ON-PAGE SEO
- ใส่ Keyword เข้าไปใน URL เพราะเมื่อใส่คีย์เวิร์ดเข้าไปใน URL ก็จะช่วยให้ Google ทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าเพจของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่ม CTR แบบออร์แกนิคอีกด้วย
- ใช้ URLs สั้นๆ ยิ่งใช้ URL ที่สั้น ก็จะยิ่งมีอันดับที่ดีบนหน้าเสิร์ชของ Google
- อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดเอาไว้ใน Title Tag และควรวางคีย์เวิร์ดเอาไว้ในคำแรกๆ ของชื่อเรื่อง
- ควรใส่คีย์เวิร์ดในช่วง 1 - 150 คำแรกของคอนเทนต์
- ควรใส่คีย์เวิร์ดใน H1, H2 หรือ H3
- อย่าลืมใส่ Alt tags สำหรับรูปภาพและไฟล์ เพื่อช่วยให้ Google สามารถเข้าใจได้ว่ารูปภาพหรือไฟล์นั้นคืออะไร
- ใส่คำพ้องหรือคำที่ใกล้เคียง (Synonyms) กับคีย์เวิร์ดลงไปด้วย
- อย่าลืมใส่ External Links เข้าไปในบทความ เนื่องจากการใส่ External Links หรือลิงก์จากเว็บไซต์ข้างนอก จะช่วยสร้างการอ้างอิงที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับบทความของคุณ
- ใส่ Internal Links หรือลิงก์จากเว็บไซต์ของคุณ เพราะเมื่อใส่ลิงก์เว็บไซต์ ก็จะช่วยให้ผู้อ่านสามารถกดลิงก์เพื่อไปดูบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน
Off-Page SEO คืออะไร
การทำ Off–Page SEO คือ การทำ SEO นอกเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถจัดการและทำให้คุณสมบัติของเว็บคุณมีค่าสูงขึ้น และแสดงผลใน Search Engine เช่น การทำลิงก์ภายนอกเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ (Backlink) ซึ่งจะช่วยสร้างการจดจำเว็บไซต์จากภายนอกได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เช็คลิสต์สำหรับการทำ OFF-PAGE SEO
- สร้าง Backlinks ที่มีประสิทธิภาพด้วยการเขียนคอนเทนต์และเผยแพร่บนเว็บไซต์อื่นๆ (Guest Posting) เพื่อฝังลิงก์ของเว็บไซต์คุณเอาไว้บนเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งจะช่วยสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ของคุณเอง
- ลิงก์ที่ได้รับนั้นมีลิงก์หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นลิงก์ธรรมดาที่มีการพูดถึงแบรนด์ของคุณในแบบออร์แกนิค หรือจะเป็นลิงก์ที่สร้างขึ้นผ่านการติดต่อกับผู้เผยแพร่ เพื่อขอให้ฝังเว็บไซต์ของคุณลงในบทความนั้นๆ ด้วย
- การสร้าง Backlinks จำเป็นที่จะต้องเลือกเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้ Backlinks ที่มีคุณภาพย้อนกลับมา
- การใช้โซเชียลมีเดียจะช่วยสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ของคุณได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นเป็นวงกว้างแล้ว ยังช่วยสร้าง Traffic ให้กลับมาในเว็บไซต์ของคุณด้วย
TECHNICAL SEO คืออะไร
ในส่วนของ Technical SEO นั้น เป็นการทำ SEO ในเชิงเทคนิค เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของเว็บไซต์ ให้บอทสามารถค้นหา รวบรวม และจัดทำดัชนีหน้าเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยให้ Google สามารถมองเห็นโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ง่ายดายอีกด้วย
บทความนี้จะสามารถช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับประเภทและส่วนประกอบของ SEO ไปได้บ้าง รวมถึงยังได้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของ SEO ในแบบต่างๆ ทั้ง On-Page SEO, Off-Page SEO และ Technical SEO ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร สำหรับใครที่กำลังริเริ่มทำ SEO ด้วยตนเองแนะนำว่าควรทำ SEO ควบคู่กันทั้ง 3 ประเภท เพื่อให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก Google โดยเร็ว
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : primal