Social Media Optimization (SMO) คือเทคนิคการปรับแต่งใช้งาน Social Media ให้เกิดความสามารถในการสร้าง Community ที่เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยต้องสัมพันธ์กับกับในส่วนของ บล็อกหรือเว็บไซต์ต้นทาง และเนื้อหาต้องเป็นแบบสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ หรือมีคุณค่าให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้เป็นยุคแห่งการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ นั่นเอง โดยจะต้องทำการปรับแต่งตัวบล็อก หรือเว็บไซต์ให้สามารถแชร์ข้อมูลต่างๆ ผ่านทางสื่อออนไลน์เช่น Rss Feed และปุ่ม Bookmark ต่างๆให้เกิดความสะดวก ในการแชร์ข้อมูล หรือแบ่งปันความรู้ต่างๆผ่านเครือข่ายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงก็เช่น Facebook, Twitter, Youtube เป็นต้น
กฏของ Social Media Optimization (SMO) มีอะไรบ้าง
SMO หรือ Social Media Optimization ถูกใช้เป็นครั้งแรกโดยนักการตลาดชื่อดัง Rohit Bhargava ในปี 2006 (พ.ศ.2549) ซึ่งมีกฏ 5 ข้อของ SMO ดังนี้
1.Create Shareable Content : สร้างเนื้อหาดี(Content)และควรค่าแก่การแบ่งปัน (Share) ในยุคเริ่มต้นเรียกว่า Increase your linkability
2.Make Sharing Easy :ทำให้การแบ่งปันสามารถทำได้ง่ายในยุคเริ่มต้นเรียกว่า Make Tagging and Bookmarking)
3.Reward Engagement: ให้รางวัลกับการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ ในยุคเริ่มต้นเรียกว่า Reward inbound links
4.Proactively Share Content: แบ่งปันเนื้อหา(Content)ในเชิงรุก เนื้อหาดีๆต้องให้การสนับสนุน ในยุคเริ่มต้นเรียกว่า Help your content travel
5.Encourage the Mash up: พยายามตอบโต้กับผู้ใช้อยู่เสมอ
Search engine optimization (SEO) เป็นกระบวนการในการปรับแต่งเว็บไซต์และการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ตั้งแต่การออกแบบ เขียนโปรแกรม และการโปรโมทเว็บ เพื่อให้เว็บไซต์ได้รับความนิยมและมีอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของ Search Engine (Google,Yahoo,Bing,AOL เป็นต้น)
การทำ SEO เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ Search Engine เพื่อเพิ่มรายได้จากการโปรโมทเว็บไซต์ ปัจจุบันการโปรโมทเว็บไซต์ นั้นมีความสำคัญกับทุกธุรกิจเป็นอย่างมากในด้านของการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งผลการค้นหากว่า 37 พันล้านการค้นหาที่เกิดขึ้นทุกเดือนบน Search Engine อย่าง Google! ถ้าคุณต้องการให้ผู้ค้นหา เพื่อที่จะค้นหาธุรกิจของคุณ คุณต้องทำให้เว็บไซต์ปรากฏอยู่อันดับต้นๆจากการค้นหา.ดังนั้นการทำ SEO เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะประสบความสำเร็จที่ผู้ค้นหาจะเห็นเว็บไซต์แล้วเข้าชมเว็บไซต์มีผลทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมมากขึ้น เพื่อผลตอบแทนทางธุรกิจ
การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด.โดย 90% ของผู้ใช้บริการเครื่องมือค้นหาผ่าน Search Engine (Google,Yahoo,Bing,AOL เป็นต้น) จะมาจาก 3 หน้าแรกจากผลการค้นหาของ Search Engine.
ความแตกต่างของ SEO กับ SMO
หัวใจหลักของ SMO ที่ไม่เหมือนกับ SEO คือ แทนที่จะสร้างเนื้อหา (Content) เอาใจ Search Engine (Google,Yahoo,Bing..) แต่เราหันมาสร้างเนื้อหา (Content) ที่เอาใจคนอ่านให้มากขึ้น โดยหวังว่าจะมีการบอกต่อและแบ่งฟันเนื้อหากันต่อไป
SEO = ปรับเว็บให้เข้ากับ Search Engine เพื่อผลการค้นหาใน Search Engine ที่ดีขึ้น
SMO = ปรับเว็บให้เข้ากับ Social media เพื่อสามารถสร้าง Community ใน Social media ที่ดีขึ้น สร้างแบรนด์ + บอกต่อ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา:บริษัท เน็กซ์ทริกซ์ จำกัด