การทำโปรโมชั่น กระตุ้น!! ยอดขาย

การทำโปรโมชั่น กระตุ้น!! ยอดขาย

     คงปฏิเสธไม่ได้ใช่มั้ยว่าลูกค้าส่วนใหญ่ชอบสินค้าที่จัดรายการโปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็น ลด แลก แจก แถม ผู้ขายส่วนใหญ่จึงพยายามจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และดึงดูดความสนใจลูกค้าใหม่ๆ ตลอดเวลา โปรโมชั่นมีหลากหลายรูปแบบ เราลองมารู้จักกับโปรโมชั่นรูปแบบอื่นๆ แล้วลองจัดโปรโมชั่นที่หลากหลายเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และกระตุ้นยอดขายให้พุ่งกระฉุดกันดีกว่าค่ะ

1.โปรโมชั่นลดราคา (Price off)
เทคนิคนี้ง่ายๆ ตรงตัวเลยค่ะ คือ ลดราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นลดราคาเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือลดราคาเป็นบาท เช่น ลด 10% หรือ ลดราคา 100 บาท โปรโมชั่นรูปแบบนี้เป็นโปรโมชั่นทั่วๆ ไปที่ใช้ในท้องตลาด ทำได้เรื่อยๆ แต่อาจจะไม่สร้างความตื่นเต้นมากนัก ถ้าทำเป็นประจำ หรือส่วนลดไม่มากพอค่ะ

2.โปรโมชั่นของแถม (Premium)
เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ผู้ขายส่วนใหญ่นิยมใช้กันค่ะ ของแถมอาจจะเป็นสินค้าตัวมันเอง สินค้าอื่น หรือเป็นของแถมอื่นๆ ก็ได้ค่ะ เช่น ถุง แก้ว กระเป๋า กล่อง ฯลฯ สำหรับโปรโมชั่นนี้อย่าลืมเลือกของแถมให้โดนใจลูกค้านะคะ จะมีโอกาสเพิ่มยอดขายให้กระฉูดได้ง่ายๆ เลยค่ะ

3.โปรโมชั่นยิ่งซื้อมาก ยิ่งประหยัดมาก (Buy more save more)
เทคนิคนี้ช่วยจะให้ลูกค้าเพิ่มปริมาณการซื้อ เช่น ซื้อ 2 ชิ้นลด 50 บาท, ซื้อ 3 กล่องประหยัดทันที 100 บาท แนะนำว่าถ้าสินค้าจัดรายการโปรโมชั่น มีหลายกลิ่น หลายสูตร หลายรส ควรจัดรายการให้ซื้อคละกันได้ด้วย ลูกค้าเห็นโปรโมชั่นแบบนี้ต้องอยากซื้อมากกว่า 1 ชิ้นแน่นอนค่ะ

4.โปรโมชั่นแจกสินค้าตัวอย่าง (Sampling)
เทคนิคนี้เหมาะสำหรับสินค้าใหม่ค่ะ มักเป็นสินค้าขนาดทดลอง เราสามารถแถมสินค้าตัวอย่างไปกับสินค้าเดิมที่ลูกค้าซื้อ หรือออกไปแจกสินค้าตัวอย่างตามสถานที่ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หรือถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ก็แนบไปในกล่องที่เราจัดส่งออเดอร์ปกติได้เลยค่ะ ที่สำคัญ!! อย่าลืมเขียนแนะนำสินค้าใหม่ด้วยนะคะ ว่าสินค้าคืออะไร ใช้อย่างไร ไม่งั้นลูกค้างงแน่ๆ ค่ะ

5.โปรโมชั่นสร้างโปรแกรมสำหรับลูกค้าประจำ (Loyalty Program)
เทคนิคนี้เหมาะมากค่ะถ้าอยากให้ลูกค้าขาจรกลายเป็นลูกค้าประจำ กลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการบ่อยๆ เพียงแค่เราสร้างระบบสมาชิก หรือโปรแกรมสะสมแต้มรับส่วนลด แลกของรางวัล แค่นี้ก็ตอบโจทย์แล้วค่ะ

6.โปรโมชั่นคูปอง (Coupon)
โปรโมชั่นคูปองส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบคูปองส่วนลด อาจจะส่วนลดเปอร์เซ็นต์หรือเงินสดก็ได้ค่ะ ตัวอย่างเช่น คูปองส่วนลดเงินสดของเทสโก้โลตัสที่แนบมากับโบว์ชัวร์ คูปองส่วนลดเปอร์เซ็นต์ของเซ็นทรัล สำหรับโปรโมชั่นรูปแบบนี้อย่าลืมกำหนดระยะเวลาการใช้คูปองด้วยนะคะ ลูกค้าจะได้ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นค่ะ วิธีการแจกคูปอง อาจจะแนบไปกับโบว์ชัวร์ของร้าน ถ้าเป็นร้านค้าออนไลน์ก็ใช้เป็น E-coupon ได้เลยค่ะ

7.โปรโมชั่นเพิ่มปริมาณแต่ไม่เพิ่มราคา (Bonus Pack)
เป็นรูปแบบที่เหมาะกับผู้ขายซึ่งเป็นผู้ผลิตค่ะ หลักการง่ายๆ คือ เพิ่มปริมาณสินค้าแต่ยังคงราคาเดิม เช่น ซีเรียลเพิ่มปริมาณ 50% แต่ราคาเท่าเดิม เทคนิคนี้จะเหมาะกับสินค้าที่มีคู่แข่งใกล้เคียงกัน เมื่อลูกค้าเห็นสินค้าของเราปริมาณมากกว่าแต่ราคาเท่ากัน ลูกค้าก็จะตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้นค่ะ

8.โปรโมชั่นแลกซื้อ (Redeem Offer)
หลักการง่ายๆ คือ ซื้อครบ xxx บาท มีสิทธิ์แลกซื้อสินค้าอื่นในราคาที่ถูกลงค่ะ เช่น ซื้อสินค้าครบ 500 บาท สามารถแลกซื้อตุ๊กตาหมีในราคา 79 บาท จากปกติราคา 299 บาท โปรโมชั่นนี้เราต้องเลือกสินค้าแลกซื้อให้น่าสนใจ และตั้งราคาแลกซื้อให้โดนใจด้วยนะคะ

9.โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 (Buy One Get One Free)
ง่ายๆ ตรงตัวเลยค่ะ ซื้อ 1 ชิ้น แถม 1 ชิ้น หรือ ลดราคา 50% นั่นเอง โปรโมชั่นแบบนี้แนะนำให้นานๆ ทำครั้ง เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นยอดขาย ไม่ควรเป็นโปรโมชั่นที่ทำประจำ เพราะถ้าวันใดหยุดทำโปรโมชั่นนี้ ยอดขายจะหายฮวบไปอย่างน่าตกใจเลยค่ะ

10.ชิงโชค (Lucky Draw)
เคยเห็นกันบ่อยๆ ใช่มั้ยคะ โปรแกรมส่งชิงโชคเพื่อแลกของรางวัลใหญ่ ทั้งบ้าน รถยนต์ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ฯลฯ การทำโปรโมชั่นแบบชิงโชค หลักการง่ายๆ คือ ของรางวัลต้องมีมูลค่า และต้องโดนใจลูกค้าสุดๆ แค่นี้ลูกค้าบางคนก็ซื้อสินค้ามูลค่ามากขึ้น หรือจำนวนมากขึ้นเป็นพิเศษเพราะอยากลุ้นรับรางวัลแล้วค่ะ

ตอนนี้เรารู้แล้วว่าโปรโมชั่นที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้มีอะไรบ้าง ลองเลือกรูปแบบที่เหมาะสม แล้วนำไปปรับใช้กับสินค้าหรือบริการของเรา เพื่อเพิ่มยอดขายให้พุ่งกระฉูดนะคะ

ที่มา: bdithailand

โดย :
 21560
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปี 2017 นับเป็นปีที่มีการเปลี่ยนแปลงใน Social Media อย่างเห็นได้ชัด โดยการเกิดขึ้นใหม่ ๆ ของ Features ต่าง ๆ มากมายและการปรับเปลี่ยนวิธีการคิดของ Social Media จนถึงการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มการใช้งานที่เกิดขึ้นใน Social Media ต่าง ๆ ทั้งนี้ในปี 2018 นี้เริ่มเห็นได้ชัดเช่นกันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมา ซึ่งสำหรับคนทำ Agency แล้วคงไม่ยากที่จะตามการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ถ้าคุณเป็น SME แล้วจะทำอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งวันนี้ผมรวม 6 เรื่องที่น่าสนใจในเรื่อง Social Media ที่จะมีผลในปี 2018 ที่เกิดขึ้นมา
เราสามารถแบ่งประเภทของสื่อ Social Media มี 2 รูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ สื่อที่เราสร้างขึ้นเอง (Owned Media) และ สื่อที่คนอื่นสร้างให้ (Earned Media)
คำว่า Content หลายคนคงจะนึกถึงแต่เนื้อหาบทความ แต่จริงๆ Content นั้นรวมถึง รูปภาพ วิดิโอ หรืออะไรก็ตามที่รวมเป็นเนื้อหา ทั้งหมดนี้คือ Content ทั้งสิ้น หากแฟนเพจไหนมี Content ดีก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์