Viral Marketing (ไวรอล มาร์เก็ตติ้ง) คือสถาปัตยกรรมทางการตลาดรูปแบบหนึ่งที่แพร่กระจายจากคนหนึ่งสู่อีกหลายๆ คนในรูปแบบโครงข่ายใยแมงมุม หรือที่เรียกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในรูปของข้อมูลข่าวสาร โดยอาศัยอินเทอร์เน็ตเป็น
สื่อกลางในการส่งผ่านข้อมูล ซึ่งดูเผินๆ แล้วคล้ายคลึงกับการตลาดแบบปากต่อปากมาก แต่แตกต่างกันตรงที่ข่าวสารจาก Viral Marketing ไม่ได้ถูกบอกกล่าวด้วยคำพูด แต่เป็นการบอกเล่าด้วยวิธีต่างๆ ผ่านระบบ Social Media อันได้แก่ Facebook, Twitter, Blog ฯลฯ เท่านั้นเอง ซึ่งข้อดีของ Viral Marketing นั้นมีดังนี้
Viral Marketing ใช้ต้นทุนน้อย Viral Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก
เท่าการทำการตลาดรูปแบบอื่นๆ ขอเพียงผู้ประกอบการมีทักษะในการสื่อสารบวกกับไอเดียอันบรรเจิด และคอมพิวเตอร์บวก
กับอินเทอร์เน็ตเท่านั้นก็พอ
Viral Marketing กระจายข่าวได้รวดเร็ว หากเราต้องการส่งต่อคลิปสักอันผ่าน Facebook เราก็แค่กด Share แล้วคลิป
ดังกล่าวก็จะปรากฎบนหน้า Wall ของเราเพื่อให้เพื่อนๆ ในบัญชีรายชื่อได้ชมและส่งต่อได้ การส่งต่อง่ายอย่างที่กล่าวไปนั่นเองทำให้ข้อมูลข่าวต่างๆ ที่สร้างมาเพื่อการตลาดสามารถแพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็วมาก
Viral Marketing เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากกว่า การดำเนินชีวิตในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือการทำงาน
แทบทุกกิจกรรมล้วนพึ่งพาคอมพิวเตอร์ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิด Big Bang ใน Social Media ทำให้ทุกคนมี Account ของสื่อประเภทนี้อย่างน้อยหนึ่งชื่อเป็นของตนเอง ซึ่งหากลองคำนวณดูแล้วจะทราบได้ทันทีว่าการทำ Viral Marketing เป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะการสื่อสารเพียงแค่หนึ่งครั้งสามารถสร้างการรับรู้และเข้าถึงบุคคลได้เป็นจำนวนหลายล้านคน
Viral Marketing ส่งต่อความน่าเชื่อถือ ด้วยความเป็นเพื่อน พี่ น้อง หรือมิตรภาพในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่จะทำให้มิตรภาพยั่งยืนอยู่ได้คือต้องมีความเชื่อใจในกันและกัน ดังนั้นการแนะนำบอกกล่าวสินค้าและบริการจากปากสู่ปาก
ในหมู่เพื่อนฝูงจึงดูมีราคาความน่าเชื่อถือมากเป็นพิเศษ เมื่อเปรียบเทียบกับการตลาดในลักษณะอื่นๆ ดังนั้น Viral Marketing จึงช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจออกมาดูดีหากข่าวสารส่งมาจากญาติมิตรคนใกล้ตัว
Viral Marketing อิสระทางความคิดแบบที่สื่ออื่นไม่มี โดยอาจฉีกกฎทางความคิดเดิมๆ และสร้างผลงานที่แหวกแนว
หรือนอกกระแสขึ้นมาก็ได้ เพราะกฎเกณฑ์จุกจิกบางอย่างที่สื่อทั่วไปมีบางครั้งก็ใช้ไม่ได้กับสื่อบนอินเตอร์เน็ต การสร้างสรรค์งานจึงยังมีอิสระทางความคิดมากกว่า และอิสระทางความคิดที่ว่านี้เองที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
หากผู้ประกอบการลองวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งแล้วจะเห็นได้ว่าการตลาดแบบ Viral Marketing เหมาะสมมากกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เพราะรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปทำให้พวกเขามีทางเลือกมากขึ้น ดังนั้น Viral Marketing จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดแห่งศตวรรศที่ 21 ที่ใบหน้าของผู้คนส่วนใหญ่หันเข้าสู่จอคอมพิวเตอร์มากกว่าที่จะเป็นจอโทรทัศน์อย่างเช่นในอดีตนั่นเอง
Credit : www.incquity.com