มาเรียนรู้การหา keyword SEO อย่างง่าย

มาเรียนรู้การหา keyword SEO อย่างง่าย

การเลือก keyword สำหรับทำ บทความ SEO รวมถึงการตั้งชื่อรูปภาพ สำคัญอย่างยิ่งในโลกออนไลน์ ที่ต้องมีการปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับระบบ search engine optimization ที่ Google กำหนด หากเลือก keyword ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้ไม่ตรงกับการสืบค้นของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งยังไม่สามารถสร้างความดึงดูดใจให้เกิดการคลิกเข้ามาซื้อสินค้าและบริการได้




keyword SEO หาได้ง่ายๆ

การเลือก keyword SEO อย่างง่าย เริ่มจากการพิมพ์ในช่อง Google Search ด้วยคำสั้น ๆ ที่เป็นหมวดหมู่ใหญ่ของสินค้าและบริการของคุณ เช่น คุณขายอาหารเสริม ในเว็บไซต์ออนไลน์ สามารถพิมพ์คำว่า อาหารเสริม ลงไป จะมีคำอัตโนมัติขึ้นมาหลายคำ เช่น อาหารเสริมลดน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงสมอง อาหารเสริมบำรุงสายตา อาหารเสริมผิวขาว ฯลฯ ซึ่งเป็นคำที่ตรงกับการสืบค้นจริงของกลุ่มลูกค้า ที่คุณสามารถนำมาเขียนในบทความ SEO ได้

นอกจากนี้ ยังมีอีกตัวช่วยง่าย ๆ นั่นคือ หัวข้อ Search related to ที่จะปรากฏเมื่อคุณทำการคลิกที่ keyword หนึ่ง ๆ ใน Google search เช่น คลิกคำว่า อาหารเสริมลดน้ำหนัก ระบบของ Google ก็จะแสดงผลการสืบค้นเป็นเว็บไซต์จำนวน 10 ถึง 20 เว็บไซต์ แล้วก็ตามด้วยตัวอย่างคำที่อยู่ด้านล่าง ใต้หัวข้อว่า หัวข้อ Search related to เช่น คำว่าอาหารเสริมลดน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี Pantip รีวิวอาหารเสริมลดน้ำหนัก ยาลดความอ้วนที่ปลอดภัย ฯลฯ

คำที่แสดงอย่างอัตโนมัติเหล่านี้ ก็เป็นตัวอย่างของ Long-Tail keyword ที่มีความยาวและจำเพาะเจาะจงของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่กูรูด้านตลาดแนะนำว่า ควรจะใช้มากขึ้นในยุค 2019 เพราะจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จในการขายสินค้าและบริการได้สูงขึ้น โดยหากคุณจำหน่ายสินค้าที่เป็นแบรนด์เนม เช่น กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์กีฬา คอมพิวเตอร์ มือถือ ของใช้ไอที ฯลฯ ก็ควรระบุยี่ห้อและรุ่นของสินค้าใน keyword ด้วย

นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว คุณยังสามารถเรียนรู้แบบลัดสั้นได้ จากการสืบค้นดูว่าเว็บไซต์ที่อยู่ในอันดับต้น ๆ เมื่อพิมพ์ด้วยคีย์เวิร์ดหนึ่ง ๆ มีเทคนิคการตั้งชื่ออย่างไร โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด SEO แนะนำเว็บไซต์ที่ผู้เป็นมือใหม่ในการทำ SEO สามารถใช้งานได้ง่าย

นั่นคือ Ubersuggest ที่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเว็บไซต์ชั้นนำที่เป็นคู่แข่งของคุณใช้ keyword ใด มากน้อยเท่าไร ซึ่งจะแสดงผลเป็นตัวเลขแสดงค่า traffic หรือจำนวนผู้เข้าไปชมในเว็บไซต์เหล่านั้น คุณจะเห็นได้ง่าย ๆ ว่า keyword ใดมีการแข่งขันกันสูง หรือมีความนิยมสูงจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากกว่ากัน ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ

หวังว่า เทคนิคการเลือก keyword แบบง่าย ๆ ที่นำเสนอจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจการทำเว็บไซต์ออนไลน์ในเบื้องต้น ระหว่างการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริงด้วยตัวเองหรืออาจจ้างบริษัททำ SEO ควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำเว็บไซต์ออนไลน์อย่างยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


ที่มา: napavalleyhoy

โดย :
 2935
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่าน ๆ มา สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างพากันลงทุนจำนวนมากกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการศึกษาในปี 2017 จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "ประชาชาติธุรกิจ" จึงรวบรวมแนวโน้มการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไว้ดังนี้ เยสคอร์ส (YesCourse) ผู้สร้างแพลตฟอร์มการกระจายการศึกษาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้สถาบันการศึกษาทั่วโลกได้ขายหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ของตน โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3,500 สถาบันการศึกษาระบุว่า ในปีที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก และเป็นตัวเสริมให้การศึกษาแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนจากทุกที่ แต่ในปี 2017 ระบบการเรียนออนไลน์แบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น ซึ่งเราอาจได้เห็นและได้ยิน VR ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การบิน การทหาร และเกม แต่ในอนาคต VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในการเรียนรู้มากขึ้น แนวโน้มต่อมา คือ Cloud Migration หรือการเคลื่อนย้ายฐานข้อมูลต่าง ๆ สู่คลาวด์ ซึ่งสถาบันการศึกษานำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบไอทีของตนเองสู่ระบบคลาวด์มากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายเอง ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต จัดการบริหารทรัพยากรของระบบ และสามารถแบ่งทรัพยากรร่วมกันได้ง่าย อีกหนึ่งแนวโน้มที่ YesCourse พูดไว้ คือ การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) และการเรียนเชิงทำนาย (Predictive Learning) ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ผู้เรียนมีการโต้ตอบกับโปรแกรมการศึกษาออนไลน์ พวกเขาทิ้งรอยดิจิทัลไว้ (Digital Footprint) สิ่งนี้ทำให้สถานศึกษา และครูผู้สอนสามารถใช้ทำนายเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน และสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนและเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีต่อการเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ส่วนเว็บไซต์ Pathway to Financial Success บอกว่า แนวโน้มการศึกษาจะเข้าสู่ยุค The Internet of Things (IoT) เพราะอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน โดยบริษัทการ์ตเนอร์ (Gartner Inc.) ทำนายว่า ในปี 2020 จะมีอุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ เชื่อมต่อกันไม่ต่ำกว่า 20.8 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศอังกฤษจึงทุ่มงบฯลงทุนด้านการวิจัยและศึกษาด้าน IoT ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้เรียนได้รับประโยชน์จาก IoT ได้แก่ ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning), รู้จักการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning), กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและยั่งยืน (Self-directed Learning), ส่งเสริมเรียนรู้ผ่านพหุประสาทสัมผัส (Multisensory Learning), สร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (Gender Equality) และสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Creating Smart Classroom) นอกจากนั้น Real-World Case Studies หรือกรณีศึกษาจากโลกแห่งความจริงจะเข้มข้นมากขึ้นในทุกวิชา เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้เรียน และเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าข้อมูลในตำรา กรณีศึกษาในโลกแห่งความจริงยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียน ในขณะที่ "บิล เกตส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายการศึกษาจะน้อยลงและทุนการวิจัยจะมากขึ้น "เป็นที่รู้กันว่างานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการต่อยอดการศึกษา แต่ที่ผ่านมานักวิจัยหลายคนต่างต้องวิ่งเต้นหาทุนวิจัย และหาการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา โดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ฟรีจากระบบการศึกษาที่เรียกว่า MOOCs (Massive Online Open Courses) จึงส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเรียนน้อยลง ผู้เรียนสามารถมีทุนวิจัยของตนเอง" "ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้สอนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องสร้างห้องเรียนหรืออาคารเรียน เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเป็
เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เนื่องจากไอพีแอดเดรสนั้นจดจำได้ยาก และเมื่อเจ้าของเว็บไซต์มีการเปลี่ยนแปลงไอพีแอดเดรส ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องรับรู้หรือจดจำไอพีแอดเดรสใหม่ ยังคงใช้โดเมนเนมเดิมได้ต่อไป
ในกระบวนการ สร้างเว็บไซต์ ไม่ใช่แค่เพียงโปรแกรมเมอร์ดำเนินการเขียนเว็บขึ้นมาแล้วจะประสบผลสำเร็จเลย แต่มีปัจจัยอยู่หลายอย่างที่มีส่วนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยให้เว็บไซต์นั้นประสบผลสำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการและนักพัฒนาได้สิ่งที่ดีที่สุดจากการ สร้างเว็บไซต์ เราจะมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบให้เว็บนั้นสำเร็จผล

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์