ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? ใครต้องเป็นคนจ่าย

ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? ใครต้องเป็นคนจ่าย

ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร

          ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า VAT เป็นภาษีอากรประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในทุกการบริโภคที่รัฐบาลเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ ถือเป็นภาษีทางอ้อมโดยที่ผู้ประกอบการนั้นจะเรียกเก็บจากผู้บริโภคจากการซื้อสินค้าและบริการที่บวกลงไปในราคาของผลิตภัณฑ์ มีอัตราการเรียกเก็บอยู่ที่ 7 % และจะนำภาษีนั้นส่งให้กับกรมสรรพากรเพื่อเข้าสู่คลังของประเทศเพื่อการใช้จ่ายและพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่าภาษีนี้จะถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนไว้ใน “ใบกำกับภาษี”  ที่เราได้รับมาตอนชำระเงินเสร็จแล้ว


ใครเป็นคนต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม

         ถึงแม้เจ้าของกิจการและร้านค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบที่ต้องยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ในความจริงแล้วภาษีตัวนี้ “ผู้บริโภค” หรือลูกค้าก็คือคนที่ต้องจ่ายนั้นเอง ซึ่งการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจะมาใน 2 รูปแบบ ก็คือ 

         1.ด้านการซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ภาษีนี้จะถูกรวมมาในราคาสินค้าอยู่แล้ว โดยภาษีจะถูกแจกแจงมาในใบเสร็จรับเงินให้เราทราบอีกครั้ง โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มจากราคาสินค้าเดิม 

         2.ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการรับประทานอาหารตามร้านอาหาร ซึ่งจะไม่ถูกรวมอยู่ในราคาอาหาร แต่จะมีการเรียกเก็บเพิ่ม เมื่อลูกค้าต้องชำระเงิน ซึ่งจะเขียนมาในใบเสร็จว่า VAT 7%


ธุรกิจแบบไหนต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม

          1.ผู้ประกอบกิจการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ให้ยื่นคำขอจดทะเบียน ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับเกิน

          2.ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งมีแผนงานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ได้มีการดำเนินการ และเตรียมการประกอบกิจการอันเป็นเหตุให้ต้องมีการซื้อสินค้า หรือรับบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้างโรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือการติดตั้งเครื่องจักร ให้ยื่นคำขอจดทะเบียน ภายในกำหนด 6 เดือน ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการ เว้นแต่มีสัญญาหรือหลักฐานจะดำเนินการก่อสร้าง ภายในเวลาที่เหมาะสม

          3.ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระ โดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจดทะเบียน


ธุรกิจที่ไม่ต้องจกภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่สามารถยื่นขอจดได้

          1.ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ปุ๋ย ปลาป่นอาหารสัตว์ ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน

          2.ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายและมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

          3.การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน

          4.การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

          5.การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร

ธุรกิจที่ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม

          1.ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

          2.ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย

          3.ผู้ประกอบการที่ให้บริการจากต่างประเทศ และได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจัก

          4.ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 43) ฯ ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2536

วิธีการจดภาษีมูลค่าเพิ่มสามารถทำได้อย่างไร

          1.ยื่นแบบคำขอผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ www.rd.go.th

          2.ยื่นแบบคำขอด้วยกระดาษ ณ หน่วยจดทะเบียนที่ตั้งสถานประกอบการ

             - สถานที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

                1.สถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ สามารถยื่นได้ที่ สำนักงานสรรพกรในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่

                2.สถานประกอบการที่ต้องอยู่นอกพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถยื่นได้ที่ สามารถยื่นได้ที่ สำนักงานสรรพกรในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่

                3.สถานประกอบการที่มีหลานสาขา สามารถยื่นได้ที่ สำนักงานสรรพกรในพื้นที่ที่สถานประกอบการหลักตั้งอยู่

                4.สถานประกอบการที่อยู่ในการควบคุมของสำนักบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถยื่นได้ที่  สำนักงานบริการธุรกิจขนาดใหญ่หรือยื่นผ่านสำนักงานสรรพกรในพื้นที่

             - เอกสารที่ใช้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

                1.สำเนาบัตรประชาชน ผู้จัดการ หรือหุ้นส่วน

                2.สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้จัดการ หรือหุ้นส่วน

                3.แบบคำขอจดทะเบียน ภ.พ.01 จำนวน 3 ฉบับ

                4.หนังสือจดทะเบียนบริษัท

                5.หลักฐานการตั้งสถานประกอบการ

                6.แผนที่ของสถานประกอบการ

         
          สรุป
ภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นภาษีที่สรรพการจะเรียกเก็บจากการขายสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการ โดยผู้ประกอบการที่มีรายรับเกิน 1.8 ล้านต่อปี จะต้องยื่นจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับทางสรรพกร แต่ความจริงแล้วผู้ที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม นั่นก็คือ ผู้บริโภค ซึ่งการยื่นจดภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถยื่นได้ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของกรมสรรพกรหรือหน่วยจดทะเบียนที่ตั้งสถานประกอบการ



ขอขอบคุณแหล่งที่มา:
กรมสรรพกร

โดย :
 5408
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้เราต่างก็ใช้งาน Facebook กันอยู่อย่างมากมาย แต่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website เพราะมีปัญหาในการแสดงผล หาสิ่งที่ต้องการได้ยาก
Target ยักษ์ใหญ่ร้านค้าปลีกอเมริกันโหมโรงสร้างความต่างจากหน้าร้านจริงและร้านออนไลน์ ด้วยการแจ้งเกิด 6 แบรนด์ใหม่เพื่อจำหน่ายเฉพาะบนเว็บไซต์เท่านั้น ถือเป็นอีกกลยุทธ์อนาคตไกลที่มีแนวโน้มว่าจะกระตุ้นการจับจ่ายผ่านเว็บไซต์ ได้อย่างน่าจับตา
Responsive Web Design คือการออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับขนาดหน้าจอสำหรับอุปกรณ์ทุกชนิด ตั้งแต่ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดจอหลากหลาย ไปจนถึง Tablet ซึ่งมีมาตรฐานของขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน และโทรศัพท์มือถือ Smart Phone ต่างๆ พูดได้ว่าออกแบบครั้งเดียวสามารถใช้ได้กับทุกหน้าจอกันไปเลย

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์