ทำ Popup หน้าเว็บ อย่างไร? ให้ลูกค้าสนใจและซื้อของที่หน้าเว็บ

Popup คืออะไร?

       Popup หน้าเว็บ คือ ภาพหรือสัญลักษณ์ ที่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ ที่มีขึ้นเพื่อใช้สั่งงานระบบ ผู้ใช้งานเพียงแค่เลือกรายการคำสั่งบนภาพหรือคลิกที่ภาพที่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์Popup ที่แสดงบนหน้าเว็บมีหลากหลายขนาดและรูปแบบ เช่น แสดงกลางหน้าจอ เต็มหน้าจอ หรือด้านข้าง แต่ทุก Popup จะแสดงเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ใช้งานโดยตรง เพื่อให้มีปฏิกิริยาตอบกลับ Popup หน้าเว็บจึงนับว่าเป็นเครื่องมือการตลาดอย่างหนึ่งที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและไว้ที่สุด แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะหาไม่แล้วอาจจะส่งผลเสียกับเว็บไซต์หรือธุรกิจได้

ประเภทต่างๆ ของ Popup หน้าเว็บไซต์

Popup ตอนเปิดหน้าเว็บ (Entry Popup)

       เป็น Popup ที่จะเด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เมื่อผู้ใช้งานเข้ามาในเว็บเพจครั้งแรก ส่วนมาก Entry Popup จะใช้เพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบ มากกว่าการเชิญชวนให้ทำอะไรสักอย่าง (จะเชิญชวนทำกิจกรรมก็ได้ แต่ไม่จริงจังถึงขั้นว่าต้องทำ ณ เดี๋ยวนั้น)

Popup จากการคลิก (Click Popup)

       Popup นี้จะแสดงขึ้นเมื่อผู้ใช้งานเว็บวางลูกศรเหนือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งหรือคลิกพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องคลิกในเว็บเพื่อเปิดหน้าต่างใหม่ เป้าหมายของ Click Popup ส่วนใหญ่คล้ายกับ Entry Popup ตรงที่เพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบ แต่จะแนะนำให้ผู้ใช้งานกระทำบางอย่างด้วย ตามพื้นที่หรือการคลิกที่ผู้ใช้งานได้คลิกเข้าไปจนเจอ Popup นี้

Popup จากการเลื่อนหน้าเว็บ (Scroll Popup)

       หากผู้ใช้งานเว็บไซต์ใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บเพจ โดยมีพฤติกรรมเลื่อนลงเพื่อดูรายละเอียด ก็อาจสันนิษฐานได้ว่า ผู้ใช้งานสนใจในเนื้อหาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บนั้น  พฤติกรรมนี้ถือว่าเป็นโอกาสทอง ที่เว็บไซต์จะสามารถใช้เวลาที่ผู้ใช้งานเว็บให้ความสนใจอยู่ โชว์ Popup นำเสนอข้อมูลที่อยากโฆษณา เช่น โปรโมชั่นที่กำลังจัดอยู่ ส่วนลดพิเศษสำหรับสมาชิก ฯลฯ

Popup แบบจับเวลา (Timed Popup)

       ลักษณะคล้ายกันกับ Popup ด้านบน แต่ Timed Popup จะยึดเอาเวลาที่ผู้ใช้งานอยู่บนหน้าเว็บ เป็นเกณฑ์ชี้วัดความสนใจ ก่อนจะแสดง Popup โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 60 วินาที แต่ทางที่ดีที่สุด ควรดูข้อมูลของเว็บไซต์ใน Google Analytics ประกอบด้วย เพราะผู้ใช้งานของแต่ละเว็บไซต์ก็มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน

Popup ก่อนปิดหน้าเว็บ (Exit Popup)

       Popup ประเภทสุดท้ายนี้เป็น Popup ยอดนิยมของคนทำเว็บ เพราะเป็นจุด Conversion ที่ได้ผลดีมากที่สุดจุดหนึ่ง คือเปลี่ยนจากคนที่กำลังจะปิดหน้าเว็บให้หันกลับมาดูข้อเสนอที่ Popup มอบให้ หรือฉุกคิดตามคำทักท้วงใน Popup

ใช้ Popup ต้องนึกถึงเรื่องอะไรบ้าง?

       พอทราบลักษณะและประเภทของ Popup กันแล้ว ถ้าเวลาจะนำมาใช้จริง ตั้งแต่เนื้อหา สี ขนาด และตำแหน่ง เว็บไซต์ต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง

ความเกี่ยวข้อง

       Popup ที่ดีไม่ควรรบกวนการใช้งานเว็บ ยกเว้นแต่ว่า Popup นั้นจะมีความเกี่ยวข้องหรือมีคุณค่าต่อผู้ใช้งานเว็บในเวลานั้น เช่น Popup ให้ส่วนลด 10% ของเว็บโรงแรมควรแสดงบนหน้าเว็บที่พูดถึง รายละเอียดห้องพัก มากกว่าแสดงบนหน้า เกี่ยวกับโรงแรม (About us) เพราะแม้ข้อเสนอที่เว็บไซต์มอบให้จะมีมูลค่า แต่หากให้ในโอกาสที่ไม่เหมาะก็ไม่สร้างคุณค่าให้กับฝ่ายใด

จังหวะเวลา

       การเลือกจังหวะเวลาแสดง Popup ปกติแล้ว ผู้ใช้งานเว็บใช้เวลาในแต่ละหน้าเว็บเพจไม่เท่ากัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ถ้าผู้ใช้งานอยู่บนหน้าเว็บเพจสินค้าและราคานานกว่า 30 วินาที มีแนวโน้มสูงที่จะสนใจถึงขั้นต้องการซื้อ หากเว็บแสดง Popup ในหน้าเว็บนี้หลังจากผ่านไป 30 วินาที ก็อาจกระตุ้นความอยากได้ให้มากขึ้นหรือถึงขั้นเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าจริงๆ

ความชัดเจน มีความหมาย

       เนื้อหาที่ชัดเจนตรงประเด็น มีส่วนช่วยในการตัดสินใจอย่างมาก เว็บไซต์จำนวนไม่น้อยเลยที่มอบส่วนลดให้กับลูกค้า แต่ไม่บอกว่า ส่วนลดนี้มีความหมายหรือคุณค่าที่น่าสนใจอย่างไร แม้ส่วนลดจะมีมูลค่าสูงแค่ไหนก็คงไม่สามารถเฉิดฉายได้เข้าถึงความรู้สึกของลูกค้า

ความมีชีวิตชีวา ความเป็นมนุษย์

       การตลาดคือการเข้าใจพฤติกรรมและธรรมชาติของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นลูกค้า ทว่าพอนำการตลาดมาลงมือปฏิบัติจริง หลายคนหลงลืมการใส่อารมณ์แบบมนุษย์ลงไปด้วย ควรสื่อสารโดยการใส่ความรู้สึกลงไป เช่น ข้อความสนุกๆ ชวนคุย หรือการใช้สรรพนามที่สุภาพแต่เข้าถึงได้ง่าย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการผูกมิตรแต่ยังช่วยสานต่อการพูดคุยมีส่วนร่วมกับธุรกิจได้ในระยะยาว

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : we on web, popupsmart