หากปล่อยเว็บไซต์ให้หมดอายุ จะมีผลกระทบหลายอย่างเช่น
การสูญเสียชื่อโดเมน (Domain Loss): หากชื่อโดเมนหมดอายุและไม่ได้ต่ออายุในเวลาที่กำหนด อาจมีคนอื่นจดทะเบียนชื่อโดเมนนั้นแทน ซึ่งทำให้คุณสูญเสียชื่อโดเมนที่สำคัญไป
การหยุดทำงานของเว็บไซต์ (Website Downtime): เมื่อโฮสติ้งหมดอายุ เว็บไซต์จะหยุดทำงานทันที ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาและบริการบนเว็บไซต์ได้
การสูญเสียข้อมูล (Data Loss): หากไม่มีการสำรองข้อมูล (Backup) ข้อมูลที่สำคัญบนเว็บไซต์อาจสูญหายหรือไม่สามารถกู้คืนได้
การลดความน่าเชื่อถือ (Loss of Credibility): เว็บไซต์ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้จะส่งผลให้ผู้ใช้ขาดความเชื่อมั่นในแบรนด์หรือธุรกิจของคุณ
การสูญเสียอันดับในเสิร์ชเอนจิน (Search Engine Ranking Loss): เว็บไซต์ที่หยุดทำงานเป็นเวลานานอาจถูกลดอันดับในผลการค้นหาของเสิร์ชเอนจิน ทำให้ยากต่อการดึงดูดผู้ใช้ใหม่เมื่อเว็บไซต์กลับมาออนไลน์
การสูญเสียรายได้ (Revenue Loss): หากเว็บไซต์เป็นแหล่งที่มาของรายได้ เช่น ร้านค้าออนไลน์ การหยุดทำงานจะส่งผลให้สูญเสียโอกาสในการขายและรายได้
การขาดการติดต่อกับลูกค้า (Loss of Customer Contact): เว็บไซต์ที่หมดอายุอาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถติดต่อหรือรับข้อมูลจากคุณได้ ส่งผลให้สูญเสียลูกค้าไป
การป้องกันผลกระทบเหล่านี้ ควรมีการตรวจสอบวันหมดอายุของโดเมนและโฮสติ้ง และทำการต่ออายุในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการสำรองข้อมูลเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลสำคัญ