ถึงจุดนี้คุณๆ ท่านๆ คงประจักษ์แล้วว่าพลังอานุภาพของ infographic ช่างมีมากเหลือล้น อย่างน้อยที่สุดก็ช่วย engage ผู้รับสารให้มาสื่อสารกับคุณ แต่หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงและไม่รู้ว่าจะเอาเนื้อหาจากไหนมา visualize ให้กลายเป็น infographic เชิญลองพิจารณาเคล็ดลับทั้ง 3 เหล่านี้....
1. หัวข้อตามเทศกาล
หัวข้อนี้ก็เป็นแนวคิดคล้ายๆ กับการเป็นนักข่าว เนื้อหาเกี่ยวกับเทศกาลเป็นการเกาะกระแสที่ดี และช่วยส่งเสริมบรรยากาศให้แก่... Community ออนไลน์ที่คุณสร้างขึ้นมาได้ด้วย ทั้งนี้ infographic จะเป็นในแนว “ไหลตามน้ำ” หรือ “ทวนกระแส” ก็ได้ เช่น ช่วงตรุษจีน คุณอาจทำ infographic เกี่ยวกับผลกระทบของการเผากระดาษเงินกระดาษทองที่มีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และ หาวิธีการป้องกัน
ทริปขั้นเทพ: ทั่วไป วันหยุดเทศกาลใหญ่ๆ เช่น ปีใหม่ มักจะมีคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น ล้นหลาม ดังนั้น ลองเปิดปฏิทินและลองหาเทศกาลเล็กๆ น่ารัก อย่าง วันปีใหม่ หรือเทศกาลนอกกระแส เช่น วันอนิเมชั่นโลก หากคุณสามารถสร้างกระแสให้แก่เทศกาลเหล่านั้น คุณก็จะเป็นหนึ่งที่สร้างคอนเทนต์ในช่วงนั้น
2. ด้วยตัวเลข
ความนิยมใน infographic เกิดขึ้นราวปี 2007 และต่อเนื่องมาอย่างเข้มแข็ง เนื่องจากเป็นการแปลง ผลวิจัยยากๆ ให้กลายเป็นภาพที่เข้าใจง่าย รูปแบบเช่นนี้สามารถนำไปปรับใช้กับหัวข้อได้หลากหลาย ตั้งแต่เรื่องชีวิตสัตว์ป่าจนถึงระบบการให้ทุนนักศึกษา และยังสามารถนำไปปรับใช้กับเรื่องทาง เทศกาลตามหัวข้อข้างบน
ทริปขั้นเทพ: ค้นคว้าก่อนว่าหัวข้อที่คุณจะทำเคยมีคนทำมาก่อนไหม ถ้ามีคุณจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้น สิ่งสำคัญที่คุณต้องทำให้ได้คือการเชื่อมโยงตัวเลขมากมายที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกันให้มาอยู่ใน infographic อันเดียวกันผ่านรูปภาพและข้อความที่ชาญฉลาด
3. infographic ต้องมีการอ้างอิง
Infographic บางชิ้นเน้นการบอกเล่าเรื่องราวในตัวมันเอง ขณะที่บางชิ้นเพียงใช้แหล่งข่าวเพื่อ อ้างอิง อย่างไรก็ตาม infographic ทุกชิ้นควรมีการระบุแหล่งข่าวให้ชัดเจน และต้องพยายามให้ทุกอย่างดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน จำไว้ว่า infographic ที่ดีต้องเป็นเหมือนโพสต์ที่คุณสามารถนำ ไปแชร์ต่อเพื่อนบน Facebook และเขาอ่านเพียง 2 วินาทีก็เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับอะไร
ทริปขั้นเทพ: แล้วบริษัทคุณล่ะ ? มีผลสำรวจหรือผลวิจัยอะไรที่เป็นประโยชน์ไหม ? ลองเอาผลงานของบริษัทคุณมาทำเป็น infographic นอกจากจะได้ประชาสัมพันธ์แบรนด์ของคุณไปในตัวแล้ว ยังสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณได้อีกด้วย
Credit : Marketingoops.com
By : www.SoGoodWeb.com