สร้าง Content Marketing ให้ช้าลง แต่เน้นประสิทธิภาพให้มากขึ้น
การทำการตลาดผ่านคอนเทนต์ในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งผลให้หลายแบรนด์เลือกที่จะสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค ซึ่งการที่จะสร้าง Content ให้ออกมาดีนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของการเขียน หรือการผลิตเนื้อหาที่ดี แต่ต้องผ่านการวางแผน คิด วิเคราะห์ กว่าจะได้มาแต่ละครเทนต์ที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ให้ช้าลง ก็จะได้มาซึ่งประสิทธิภาพของคอนเทนต์นั่นเอง ถึงแม้ว่าวิธีที่คุณกำลังทำอยู่จะแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป แต่ 5 วิธีที่เราได้นำมาฝากในวันนี้จะทำให้การทำคอนเทนต์ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.จ้างนักเขียนในราคาที่แพงกว่า
คอนเทนต์คุณภาพคือสิ่งสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดในยุคนี้ ซึ่งการมีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพภายในเว็บไซต์ นั่นก็แสดงว่าคุณมีกุญแจหลักที่จะนำพาธุรกิจประสบความสำเร็จ ในการจ้างนักเขียนที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้ย่อมจะมีราคาที่สูง แต่พวกเขาสามารถสร้างแนวคิดที่มีคุณภาพกลั่นกรองออกมาเป็นเนื้อหาให้อ่าน และต้องใช้การวิเคราะห์ค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ด้วยการฟังหรือดูมามากพอสมควร ไม่เพียงเท่านี้ การจ้างนักเขียนในราคาที่แพงกว่า พวกเขาจะรู้จักรูปแบบในการเผยแพร่โฆษณา และการเข้าถึงเนื้อหาของผู้ชมมากที่สุด อีกทั้งยังตอบโจทย์ต่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย มีการจัดหน้า การจัดระเบียบของบทความให้น่าอ่าน มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ยิ่งเป็นงานเขียนที่ต้องการดันเว็บไซต์ พวกเขาก็จะต้องหาคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ เมื่อเสิร์ชในระบบเสิร์ชเอนจิ้นก็จะหาพบได้ง่าย เป็นการเร่งยอดของผู้เข้าชมได้อย่างรวดเร็ว
2.หลีกเลี่ยงการทำคอนเทนต์ในสไตล์ Clickbait
การทำคอนเทนต์ในสไตล์ Clickbait ก็คือ การใช้คำหรือรูปภาพชวนให้สงสัย เพื่อจูงใจให้ผู้ชมเข้าไปอ่าน ทั้งที่เนื้อหาในนั้นไม่มีอะไรเลย เรียกง่ายๆ ว่าการพาดหัวให้คนหลงกลเข้าไปคลิกเพื่อเรียกยอด Traffic นั่นเอง ข้อเสียที่ตามมาคือ ภาพลักษณ์ของเว็บไซต์จะดูตกต่ำ และขาดความน่าเชื่อถือไปเลย ในทางกลับกันเมื่อผู้บริโภคคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ พวกเขาย่อมคาดหวังที่จะได้ข้อมูลที่ต้องการกลับไป ถ้าคอนเทนต์ไม่ดึงดูดเหมือนพาดหัว ผู้บริโภคก็อาจจะไม่กลับมายังเว็บไซต์คุณอีกก็ได้ ซึ่งการหลอกล่อให้คลิกเข้าเว็บไซต์นั้นถือได้ว่าผิดจรรยาบรรณของผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างมาก
3.ปรับเปลี่ยนเนื้อหาคอนเทนต์เก่าๆ ให้เข้ายุคเสมอ
ในการทำคอนเทนต์ที่ดีที่สุดไม่จำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ขึ้นมาอยู่เสมอ สำหรับบางคอนเทนต์เมื่อเวลาผ่านไปแน่นอนว่าเราจะคิดว่ามันล้าสมัย แต่ลองหยิบมาปัดฝุ่นแล้วรีไรท์ใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย ก็จะสามารถทำให้คอนเทนต์นั้นกลับมาดูน่าสนใจอีกครั้ง กลยุทธ์นี้รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบคอนเทนต์หรือช่องทางในการสื่อสาร อย่างเช่น คอนเทนต์บางชิ้นของคุณจะยาวยืด ลองเปลี่ยนนำมาทำเป็น infographic หรือทำออกมาในรูปแบบวิดีโอ แล้วแชร์ออกไปในช่องทางอื่นที่คุณยังไม่เคยเผยแพร่ จะทำให้ผู้ใช้เข้าถึงคอนเทนต์เหล่านี้ได้ดีมากขึ้น
4.แบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ออกเป็นหลายส่วน
ในการทำธุรกิจเราต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร มีกลุ่มเดียวหรือมีหลายกลุ่ม แล้วทำการปรับแต่งการเข้าถึงคอนเทนต์ของผู้ชมของคุณ เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มความสนใจได้ลึกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่เคยเข้ามาคลิกอ่านบทความ กลุ่มที่แบ่งปันจดหมายข่าว กลุ่มลูกค้าตามสถานที่ กลุ่มที่สมัครรับข้อมูลข่าวสารผ่านอีเมล เป็นต้นนอก จากนี้ยังสามารถปรับแต่งเนื้อหาของคุณ ถึงแม้ว่าคุณจะเผยแพร่เนื้อหานั้นออกไปแล้วก็ตาม อย่างเช่น คุณอาจจะเพิ่มลิงก์เข้าไปในส่วนท้ายของบทความนั้น หรือเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนเข้าไปในบทความนั้น ก็เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าซื้อแบรนด์ของเราเมื่อต้องการซื้อ หรือกลับมาดูข้อมูลเมื่อสนใจนั่นเอง ดีไม่ดีอาจจะได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นมาก็ได้
5.เพิ่มกลยุทธ์การกระจายสินค้า
แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายสินค้าของคุณนั้นมีหลายแนวทาง แต่แนวทางที่จะประโยชน์ที่ดีที่สุดของการสร้างคอนเทนต์ แล้วสอดแทรกสินค้าของคุณเข้าไปในเนื้อหานั้นด้วย และเผยแพร่ข้อมูลออกไป อาจจะแนะนำผ่านบล็อก หรือ Social Media ต่างๆ ถ้าเราสามารถดึงดูดผู้บริโภคให้เข้ามามีส่วนร่วมใน Content ของเรา และกระตุ้นให้มีการตอบสนองต่อแคมเปญการตลาดของเรา เมื่อลูกค้ามีการตอบสนองหรือถูกใจเนื้อหาของเราก็จะทำให้เกิดการส่งต่อเนื้อหานั้นออกไป ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้บริโภครู้จักสินค้าของคุณมากขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณกำลังทำธุรกิจ เป้าหมายของคุณคือการสร้างโอกาสในการขาย คุณไม่จำเป็นต้องสร้างเนื้อหาให้มากขึ้นแต่จะต้อง สร้าง Content Marketing ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้นเอง
ขอบคุณแหล่งที่มา : Am2b marketing Co., Ltd