7 ปัญหาการทำ SEO ที่ควรระวังใน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

7 ปัญหาการทำ SEO ที่ควรระวังใน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ

          SEO หรือ Search Engine Optimization คือหนึ่งในกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ Search Engine เช่น Google, Bing, Yahoo ฯลฯ โดยจุดประสงค์หลักของ SEO คือการทำให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปอยู่หน้าแรกหรืออันดับต้นๆของ Search Engine ซึ่งช่วยเพิ่มจำนวน Traffic (ผู้เข้าเว็บไซต์) หรือยอดขายโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อโฆษณา ดังนั้น จึงทำให้การทำSEO เป็นที่นิยมในคนกลุ่มที่ทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจแบบอีคอมเมิร์ซ  และ เมื่อการทำ เว็บอีคอมเมิร์ซ เป็นสิ่งที่สามารถส่งเสริมการทำธุรกิจออนไลน์ได้เป็นอย่างดี ผู้คนมากมายจึงได้หันมาให้ความสนใจ ในการทำSEOโดยที่ไม่ทำการศึกษาให้เข้าใจก่อน จึงทำให้เกิดปัญหาตามมา วันนี้ sogoodweb จะมาบอกถึงปัญหาที่ควรระวังในการทำ SEO จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ

1. อธิบายผลิตภัณฑ์ที่หยาบ (หรือไม่มีเลย)

การใช้คำอธิบายผลิตภัณฑ์ที่หยาบสั้น หรือไม่มีคำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เลย จะทำให้เครื่องมือค้นหามีเนื้อหาที่สามารถใช้งานในการค้นหาได้น้อย เพราะเนื้อหาที่ยาวจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาได้เป็นอย่างดี เมื่อมีการใช้คำอธิบายที่สั้น โอกาสจะใช้คำอธิบายที่ซ้ำกันก็จะเกิดได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อมีคำอธิบายครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมด SEO ของคุณก็จะมีประสิทธิภาพ และทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถค้นเจอผลิตภัณฑ์ของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น

2. ไม่มีหน้ารวมความคิดเห็นของผู้ใช้

ความคิดเห็นของผู้ใช้เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้คนหันมาสนใจเว็บไซต์ของคุณ และยังส่งผลลัพธ์ให้เกิดการค้นหาในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก ผลสำรวจได้รายงานไว้ว่าเว็บไซต์ที่เพิ่มหน้ารวมความคิดเห็นของผู้ใช้เข้าไป สามารถเพิ่มโอกาสให้ผู้คนกดเข้าชมเว็บไซต์ได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 9 เดือน 

3. ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพคำหลัก ที่ไม่มีเครื่องหมายการค้า

ปัญหาที่พบได้บ่อยๆ ในการทำเว็บอีคอมเมิร์ซคือ ไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคำหลัก ที่ไม่มีเครื่องหมายการค้า หรือกล่าวง่ายๆ คือไม่มีการพัฒนาคำที่สามารถสื่อถึงผลิตภัณฑ์ของคุณได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องระบุถึงตรายี่ห้อของสินค้า เพราะผู้ค้นหาบางรายก็เริ่มต้นทำการค้นหา โดยไม่เจาะจงตรายี่ห้อของผลิตภัณฑ์ แต่จะค้นหาด้วยการใส่คำหลักอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการค้นหาลงไปแทน หากคุณต้องการเพิ่มยอดขาย หรือเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นสิ่งที่คุณจะต้องทำคือการค้นหาคำหลัก หรือวลีที่ผู้ค้นหามักใช้ในการค้นหาผลิตภัณฑ์ 

4. เน้นคำหลักในการทำธุรกรรมมากเกินไป และไม่พัฒนาเนื้อหาที่ให้ข้อมูล

การใช้คำหลักที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับการทำธุรกรรม หรือสนับสนุนการขายมากเกินไป โดยไม่พัฒนาเนื้อหาที่ให้ข้อมูลแก่ผู้ค้นหานับว่าเป็นกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์ที่ล้มเหลวในการดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชม ดังนั้นคุณควรใช้คำหลักที่มุ่งเน้นเกี่ยวกับการทำธุรกรรมให้ลดน้อยลง เพื่อนำผู้ค้นหาไปสู่เนื้อหาอันเป็นประโยชน์บนเว็บไซต์ของคุณแทน คุณสามารถทำการลดคำหลักเกี่ยวกับการทำธุรกรรมได้จากการ ค้นหาคำหลักใหม่บนเครื่องมือต่างๆ ที่เปิดให้ใช้บริการฟรี หรือเครื่องมือที่คุณมีความชำนาญ เพื่อทำการค้นหาคำหลักใหม่ๆ ที่สามารถใช้แทนคำหลักที่มุ่งเน้นการทำธุรกรรมที่มากจนเกินไป และสร้างเนื้อหาที่ดี ที่สามารถให้ข้อมูลแก้ผู้เข้าชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ใช้การออกแบบเว็บไซต์ที่วางแผนไว้ไม่ดี

คุณไม่ควรเลือกใช้การออกแบบเว็บไซต์ที่วางแผนไว้ไม่ดีมาใช้งานจริงในการสร้างธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะการทำเว็บไซต์ที่ดีและมีประสิทธิภาพจำเป็นจะต้องมีการวางแผน หรือการวางเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้เว็บไซต์สามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกับความต้องการของ SEO และสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้มากที่สุด 

6. การโยกย้ายที่ไม่ดีระหว่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

ส่วนใหญ่การทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซมักถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม หรือเครือข่ายของบุคคลที่สาม ที่มีข้อตกลงอันเอื้อประโยชน์ให้ทั้งสองฝ่าย ที่จะทำให้เจ้าของธุรกิจลดภาระงานในการพัฒนาเว็บไซต์ และหันมาสนใจธุรกิจของตนเองมากขึ้น ซึ่งเว็บไซต์มักมีการเติบโตที่ไว และมีทางเลือกที่มากกว่าหนึ่งแพลตฟอร์มอยู่เสมอ หากแพลตฟอร์มที่ธุรกิจของคุณเลือกใช้อยู่ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ คุณก็สามารถทำการขยายตลาดหรือโยกย้ายแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณไปในที่ที่เหมาะสมกว่า ซึ่งขั้นตอนในการย้ายแพลตฟอร์มนับว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน และมีความละเอียดอ่อนอยู่พอสมควร หากทำไม่ดีปริมาณการเข้าชม หรืออันดับของเว็บไซต์ก็จะลดลงในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นนี้จึงเป็นขั้นตอนที่คุณควรทำการศึกษา และลงมือทำด้วยความรอบคอบที่สุด

7. ไม่เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับคำหลักที่มีแนวโน้มมากที่สุด

นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับคำหลัก ที่ไม่มีเครื่องหมายการค้าแล้ว คุณก็จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับคำหลักที่มีแนวโน้มในการค้นหาสูงด้วย โดยคุณสามารถทำได้ด้วยการค้นหาหน้าที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อหาคำหลักที่สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี และทำการเปลี่ยนแปลงให้คำหลักนั้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากการเปลี่ยนแปลงของคุณสามารถทำออกมาได้ดี การเข้าชมจากการค้นหา รายได้ และกำไรของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก

       จาก 7 ปัญหาการทำ SEO ที่ควรระวังใน เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ ที่คุณได้อ่านไป คงกล่าวได้ว่าเป็นปัญหาที่คุณสามารถพบได้ง่ายหากขาดความใส่ใจ หรือละเลยความสำคัญในการทำ SEO ไป ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำคือการจดจำ 7 ปัญหาเหล่านี้ไว้ เพื่อทำการหลีกเลี่ยง หรือรับมือกับปัญหาเหล่านี้ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : am2bmarketing

โดย :
 2328
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

หลายๆคน เข้าใจว่าการโฆษณาผ่าน Facebook Ads ให้กับ Fan Page นั้น คือ การเพิ่มจำนวนคน Like ของ Page อย่างเดียว บางคนลงงบประมาณโฆษณาเป็นหมื่นๆ แต่ได้สมาชิกมากด Like Fan Page แค่ไม่ถึง 1,000 คน ดังนั้นควรทำความเข้าใจเสียใหม่เกี่ยวกับการโฆษณา
ทุกๆ คำพูดของคนล้วนมีความหมาย ไม่ว่าจะพยายามสื่อสารทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม และปรากฏการณ์การ “พูดอ้อมๆ” นี้เกิดขึ้นทั้งในชีวิตส่วนตัว เรื่องความรัก หรือแม้กระทั่งในการทำงาน
การออกแบบเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน (Web Design หรือ UX/UI Design) เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน หากใครที่กำลังมองหาการออกแบบเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ปี 2022 อยู่ละก็ ต้องติดตามบทความนี้ให้ดี ๆ เลยค่ะ

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์