การทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราต้องยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสร้างงานออกมาให้ตรงกับ รสนิยมของลูกค้านั้น ต้องทำอยู่บนพื้นพื้นฐานใดถึงจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ เพราะหากตามใจลูกค้าจนไร้ขอบเขต ก็อาจ กระทบต่อระบบการทำงานได้เช่นกัน และการนำเอาทฤษฎีด้านการตลาดมาใช้จริง ๆ จะต้องคำนึงถึงผลที่ตามมาด้วย
1. ดีที่สุด (Better Best) หลายท่านคงทราบกันดีว่า ลูกค้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ไมว่าจะวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็มักได้รับคำตอบนี้เสมอ ทั้งนี้ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร ดังนั้น เราควรวิเคราะห์ว่าการทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า ต้องไม่ใช่ สิ่งที่อยู่บนพื้นฐานแห่งการเพิ่มต้นทุน เราจะต้องทำความเข้าใจว่าลูกค้าของธุรกิจนั้นคือ กลุ่มไหน? เนื่องจากสิ่งที่ดีสุดสำหรับลูกค้า แต่ละกลุ่มนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
2. ถูกที่สุด (Cheaper cheapest) เรื่องราคานั้นมีความสำคัญต่อพฤติกรรมการตัดสินใจซื้อไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าผู้บริโภคจะชื่นชอบสิ่งที่ดีที่สุดก็ตาม แต่งานวิจัย เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคทั่วไปในชีวิตประจำวัน สินค้าและบริการที่มีราคาถูกมักได้เปรียบกว่าเสมอ แม้ว่าจะถูกกว่าเล็กน้อย ก็มีผลเชิงจิตวิทยาเช่นกัน ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องคำนึงการตั้งราคาขาย เพราะหากขายให้กับลูกค้ากลุ่มเดียวกัน ราคาแพงเกินไปก็ไม่น่าจะดี หรือหากถูกกว่าคนอื่นมาก ๆ ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านคุณภาพก็ได้
3. รวดเร็วที่สุด (Faster fastest) เรื่องบริการ ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะความรวดเร็วทันใจนั้นสามารถมัดใจลูกค้าได้ทุกกลุ่ม แม้ว่า ทุกวันนี้ธุรกิจต่าง ๆ จะหันมาเน้นเรื่องการบริการ และนำมาใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญในการผลักดันเรื่องยอดขาย แต่ก็ไม่ควรประมาทเด็ดขาด เพราะหากคู่แข่ง สามารถมัดใจลูกค้าได้ด้วยการบริการที่รวดเร็วกว่า โอกาสที่ลูกค้าจะเปลี่ยนใจก็เป็นไปได้สูงเช่นกัน
ท้ายที่สุดนี้ เราขอฝากไว้ว่าการทำงานเพื่อตามใจลูกค้านั้นจะเป็นผลบวกต่อธุรกิจ แต่เมื่อไรก็ตาม การทำตามใจคนขายจะเป็นผลลบ ธุรกิจทันที
Credit : manager
By : www.SoGoodWeb.com