7วิธีง่ายๆ การสร้างความน่าเชื่อถือบนร้านค้าออนไลน์

7วิธีง่ายๆ การสร้างความน่าเชื่อถือบนร้านค้าออนไลน์

เนื่องจากในปัจจุบันมีเว็บไซต์หลอกลวงเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้าเริ่มขาดความมั่นใจและระมัดระวังในการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการจะขายของออนไลน์ ก็ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านเป็นสำคัญ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อใจและตัดสินใจซื้อสินค้าด้วยนั่นเอง โดยมีวิธีการสร้างความน่าเชื่อถือบนร้านค้าออนไลน์ด้วย 7 วิธีง่ายๆ ดังนี้

1.บอกเบอร์โทรศัพท์บนหน้าเว็บอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าติดต่อได้ง่าย และยังเป็นการแสดงให้เห็นได้ว่าร้านมีตัวตนจริง ซึ่งจะทำให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกมั่นใจขึ้นมาในระดับหนึ่ง ที่สำคัญควรเป็นเบอร์ของตัวเองจริงๆ และเป็นเบอร์ที่ติดต่อได้ง่ายด้วย

2.มีการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าร้านมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาและร้านยังเปิดอยู่แน่นอน โดยสำหรับเนื้อหาที่จะนำมาอัปเดตนั้น นอกจากจะเป็นสินค้าที่ขายแล้ว ก็อาจเป็นเนื้อหาที่ให้ความรู้ต่างๆ ด้วยก็ได้ เพียงแต่ต้องเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพ สร้างจุดสนใจได้ดี และไม่ดูน่าเบื่อจนเกินไปนั่นเอง หรือหากคิดไม่ออก การแชร์ภาพที่ทำให้อารมณ์ดีก็ช่วยได้เหมือนกัน

3.ทำร้านให้เหมือนมนุษย์ นั่นคือการทำร้านให้ดูมีชีวิตจริงๆ ด้วยการเปิดเผยหน้าตาและประวัติบางส่วนของแม่ค้า รวมถึงมีการพูดคุยตอบโต้เพื่อสร้างความคุ้นเคยและเป็นกันเองกับลูกค้าอยู่เสมอ โดยวิธีนี้นอกจากจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและอยากซื้อสินค้ากับทางร้านมากขึ้นแล้ว ก็ยังสร้างความประทับใจให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจได้ดีอีกด้วย ซึ่งก็รับรองเลยว่าขายได้แน่นอน

4.โชว์รีวิวของลูกค้าจริง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะตัดสินใจจากการได้ชมรีวิวของผู้ที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการมาก่อน ดังนั้นการนำรีวิวของลูกค้ามาโชว์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะเพิ่มยอดขายได้ดี และสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามรีวิวที่นำมาใช้ ควรจะเป็นรีวิวจากลูกค้าที่มีตัวตนจริงๆ ซื้อจริงและใช้สินค้าจริง โดยทำเป็นภาพก่อนและหลังใช้สินค้า หรือจะทำเป็นข้อความการสัมภาษณ์ก็ได้

5.ลงรายละเอียดให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับแม่ค้า การติดต่อ หรือรายละเอียดของสินค้า โดยรายละเอียดหลักๆที่ควรจะมีก็คือ ชื่อสินค้า สี ไซส์ ราคาและเงื่อนไขการจัดส่ง ส่วนรูปภาพ ถ้าเป็นรูปที่ถ่ายเองก็จะดีมาก เพราะแสดงให้เห็นได้ว่าแม่ค้ามีสินค้าพร้อมขายอย่างแน่นอน และไม่ใช่การเซฟรูปจากที่อื่นมาขายเพื่อหลอกลวงนั่นเอง

6.ต้องมีความโปร นั่นก็คือการเป็นแม่ค้าพ่อค้าแบบมืออาชีพนั่นเอง โดยมีความเข้าใจในสินค้าทุกตัว สามารถตอบคำถามลูกค้าได้อย่างไม่มีติดขัดเสมอ และที่สำคัญจะต้องใส่ใจในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตำหนิบนภาพ ขนาดภาพที่ดูใหญ่หรือเล็กเกินไป และการสะกดคำที่ถูกต้อง เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องมีการอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลาด้วย

7.อย่าลืมข้อมูล เกี่ยวกับเรา คำถามที่ถามบ่อยและการการันตี โดยในส่วนเกี่ยวกับเราก็อาจพูดถึงประวัติของทางร้านเล็กน้อย และมีการแนะนำตัวเจ้าของร้านเพื่อสร้างความเป็นกันเองด้วยก็ได้ ส่วนคำถามที่ถามบ่อย ก็ให้ลองเลือกคำถามที่พบบ่อยๆ จากลูกค้ามาเขียนและตอบเอาไว้ ลูกค้าที่มีความสงสัยเดียวกันจะได้อ่านทำความเข้าใจได้เลยโดยไม่ต้องถามให้เสียเวลานั่นเอง และสุดท้ายก็คือการการันตี โดยจะต้องการันตีอย่างพอเหมาะไม่ดูเกินจริง เท่านี้ก็จะสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้าได้ไม่ยาก

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : 1belief.com

โดย :
 8772
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

กราฟิกดีไซน์ เป็นการทับศัพท์มาจากภาษาอังกฤษ Graphic Design คำว่า graphic มีคำในภาษาไทยที่ใช้แทนได้คือ เรขศิลป์, เลขนศิลป์ หรือ เรขภาพ ส่วน design แปลว่า การออกแบบ
พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลวันนี้จะเห็นได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของความใจร้อนทนรออะไรนานๆ ไม่ได้ แถมยังไม่ต้องการอะไรที่ปลอมๆ อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง รูปแบบการตลาดเดิมๆ ที่เคยใช้ได้ผลดีในอดีต อาจจะไม่สำเร็จเมื่อถูกนำมาใช้กับผู้บริโภคในยุคนี้ แล้วการตลาดรูปแบบไหนล่ะ...ที่สามารถเข้าถึงใจเข้าถึงความต้องการลูกค้ายุคดิจิทัลได้ ลองไปอัปเดต 5 เทรนด์การตลาดที่น่าสนใจในยุคดิจิทัล ที่สามารถจับต้องและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่าน ๆ มา สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างพากันลงทุนจำนวนมากกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการศึกษาในปี 2017 จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "ประชาชาติธุรกิจ" จึงรวบรวมแนวโน้มการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไว้ดังนี้ เยสคอร์ส (YesCourse) ผู้สร้างแพลตฟอร์มการกระจายการศึกษาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้สถาบันการศึกษาทั่วโลกได้ขายหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ของตน โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3,500 สถาบันการศึกษาระบุว่า ในปีที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก และเป็นตัวเสริมให้การศึกษาแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนจากทุกที่ แต่ในปี 2017 ระบบการเรียนออนไลน์แบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น ซึ่งเราอาจได้เห็นและได้ยิน VR ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การบิน การทหาร และเกม แต่ในอนาคต VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในการเรียนรู้มากขึ้น แนวโน้มต่อมา คือ Cloud Migration หรือการเคลื่อนย้ายฐานข้อมูลต่าง ๆ สู่คลาวด์ ซึ่งสถาบันการศึกษานำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบไอทีของตนเองสู่ระบบคลาวด์มากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายเอง ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต จัดการบริหารทรัพยากรของระบบ และสามารถแบ่งทรัพยากรร่วมกันได้ง่าย อีกหนึ่งแนวโน้มที่ YesCourse พูดไว้ คือ การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) และการเรียนเชิงทำนาย (Predictive Learning) ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ผู้เรียนมีการโต้ตอบกับโปรแกรมการศึกษาออนไลน์ พวกเขาทิ้งรอยดิจิทัลไว้ (Digital Footprint) สิ่งนี้ทำให้สถานศึกษา และครูผู้สอนสามารถใช้ทำนายเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน และสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนและเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีต่อการเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ส่วนเว็บไซต์ Pathway to Financial Success บอกว่า แนวโน้มการศึกษาจะเข้าสู่ยุค The Internet of Things (IoT) เพราะอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน โดยบริษัทการ์ตเนอร์ (Gartner Inc.) ทำนายว่า ในปี 2020 จะมีอุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ เชื่อมต่อกันไม่ต่ำกว่า 20.8 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศอังกฤษจึงทุ่มงบฯลงทุนด้านการวิจัยและศึกษาด้าน IoT ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้เรียนได้รับประโยชน์จาก IoT ได้แก่ ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning), รู้จักการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning), กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและยั่งยืน (Self-directed Learning), ส่งเสริมเรียนรู้ผ่านพหุประสาทสัมผัส (Multisensory Learning), สร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (Gender Equality) และสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Creating Smart Classroom) นอกจากนั้น Real-World Case Studies หรือกรณีศึกษาจากโลกแห่งความจริงจะเข้มข้นมากขึ้นในทุกวิชา เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้เรียน และเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าข้อมูลในตำรา กรณีศึกษาในโลกแห่งความจริงยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียน ในขณะที่ "บิล เกตส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายการศึกษาจะน้อยลงและทุนการวิจัยจะมากขึ้น "เป็นที่รู้กันว่างานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการต่อยอดการศึกษา แต่ที่ผ่านมานักวิจัยหลายคนต่างต้องวิ่งเต้นหาทุนวิจัย และหาการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา โดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ฟรีจากระบบการศึกษาที่เรียกว่า MOOCs (Massive Online Open Courses) จึงส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเรียนน้อยลง ผู้เรียนสามารถมีทุนวิจัยของตนเอง" "ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้สอนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องสร้างห้องเรียนหรืออาคารเรียน เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเป็

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์