การทำ SEO เพื่อคนทำเว็บไซต์ออนไลน์

การทำ SEO เพื่อคนทำเว็บไซต์ออนไลน์



การทำ SEO ตามระบบ search engine optimization ที่ Google กำหนด มีความสำคัญต่อการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและส่งเสริมธุรกิจให้มียอดขายดีขึ้น ซึ่งสิ่งที่ผู้คนจะเห็นจากเว็บไซต์เป็นอย่างแรก ก็คือ บทความ SEO จากการสืบค้นในช่อง Search ของ Google ดังนั้น การทำบทความ SEO ที่มีคุณภาพ จึงสร้างความประทับใจเบื้องต้นแก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้

หลักการเขียนบทความ

การเขียนบทความใด ๆ นั้นจะต้องรู้วัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น บทความทั่วไปจะเป็นแนววิชาการ เพื่อให้ผู้อ่านได้ศึกษาข้อมูลหรือเป็นการเล่าข่าวหรือเล่าผลการวิจัย ถ้าเป็นแนวเพื่อการขายและรีวิวสินค้า ก็ต้องให้ความสำคัญกับภาษาและการบอกเล่าประสบการณ์ในการใช้สินค้าหนึ่ง ๆ

แต่สำหรับบทความ SEO นั้น จะต้องเลือกจาก keyword ที่ตรงกับการค้นหาใน Google เป็น ซึ่งมีเครื่องมือที่คนทำบทความ SEO เพื่อธุรกิจออนไลน์ควรรู้จัก คือ Google search Console ที่จะมีระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ในการรวบรวมสถิติการใช้งานของคนทั่วโลกว่า ใช้ keyword ใดในการค้นหาบ้าง

ตัวอย่างเช่น การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมือถือ ก็จะมีการใช้ keyword ที่นิยมอย่าง มือถือ iPhone 11 ดีไหม หรือ มือถือ Huawei รุ่นใหม่ ใช้ง่าย เป็นต้น

หากคุณพบว่าคำเหล่านี้มีเปอร์เซ็นต์การสืบค้นมากกว่าคำอื่น ๆ และอำนาจในการแข่งขันสูง เมื่อทำบทความแล้วย่อมจะได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ที่กำลังอยากเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือตามมา เช่นนี้ ก็แสดงว่าการสื่อสารผ่านบทความ SEO เรื่องนั้น ๆ ประสบความสำเร็จในเบื้องต้นแล้ว

และถ้าคุณเป็นเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ไอที เมื่อทำบทความ SEO ที่มีการคัดเลือก keyword ที่ดีอย่างต่อเนื่อง จนสามารถกระตุ้นให้มียอดขายสินค้าในเว็บไซต์คุณมากขึ้นได้ ก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ก้าวไกลขึ้นนั่นเอง

การทำเว็บไซต์ SEO จะต้องคำนึงทั้งในส่วนของโครงสร้างเว็บไซต์ที่สวยงามใช้งานง่าย ซึ่งบทความ SEO ที่นำเสนออยู่บนเว็บไซต์คือกุญแจสำคัญของธุรกิจออนไลน์ ที่ผู้ใช้งานจะมองเห็นจากหัวข้อแล้วคลิกเข้ามาอ่าน ดังนั้นการจัดหมวดหมู่ของบทความก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้

ตัวอย่างได้แก่ หากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องแม่และเด็ก ก็ควรจะแบ่งบทความ SEO ตามกลุ่มอายุของลูก เช่น คุณแม่ตั้งครรภ์, ทารกหลังคลอดช่วง 1 ปีแรก, ทารกระยะ 1-3 ปี, เด็กเล็กก่อนวัยอนุบาล, เด็กประถม, เด็กมัธยม เป็นต้น เพื่อให้ผู้ปกครองที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยที่แตกต่างกัน สามารถที่จะคลิกเข้าไปชมข้อมูลจากเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว อันแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ทำธุรกิจเว็บไซต์และความใส่ใจที่ต้องการให้ผู้อ่านได้รับความสะดวกสบายอย่างที่สุด

จะเห็นได้ว่า การทำบทความ SEO ที่ดี ต้องใส่ใจผลิตให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์ การหมั่นค้นหาข้อมูลที่มีความทันสมัย เพื่อทำให้บทความมีคุณภาพสูง อันจะทำให้อันดับ SEO ของเว็บไซต์ดีขึ้น และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ธุรกิจออนไลน์นั้นมีความเป็นมืออาชีพด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้มีรายได้เข้าสู่ธุรกิจที่มากขึ้นในระยะยาวด้วย




ที่มา: napavalleyhoy.com

โดย :
 2146
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่าน ๆ มา สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างพากันลงทุนจำนวนมากกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการศึกษาในปี 2017 จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "ประชาชาติธุรกิจ" จึงรวบรวมแนวโน้มการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไว้ดังนี้ เยสคอร์ส (YesCourse) ผู้สร้างแพลตฟอร์มการกระจายการศึกษาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้สถาบันการศึกษาทั่วโลกได้ขายหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ของตน โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3,500 สถาบันการศึกษาระบุว่า ในปีที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก และเป็นตัวเสริมให้การศึกษาแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนจากทุกที่ แต่ในปี 2017 ระบบการเรียนออนไลน์แบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น ซึ่งเราอาจได้เห็นและได้ยิน VR ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การบิน การทหาร และเกม แต่ในอนาคต VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในการเรียนรู้มากขึ้น แนวโน้มต่อมา คือ Cloud Migration หรือการเคลื่อนย้ายฐานข้อมูลต่าง ๆ สู่คลาวด์ ซึ่งสถาบันการศึกษานำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบไอทีของตนเองสู่ระบบคลาวด์มากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายเอง ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต จัดการบริหารทรัพยากรของระบบ และสามารถแบ่งทรัพยากรร่วมกันได้ง่าย อีกหนึ่งแนวโน้มที่ YesCourse พูดไว้ คือ การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) และการเรียนเชิงทำนาย (Predictive Learning) ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ผู้เรียนมีการโต้ตอบกับโปรแกรมการศึกษาออนไลน์ พวกเขาทิ้งรอยดิจิทัลไว้ (Digital Footprint) สิ่งนี้ทำให้สถานศึกษา และครูผู้สอนสามารถใช้ทำนายเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน และสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนและเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีต่อการเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ส่วนเว็บไซต์ Pathway to Financial Success บอกว่า แนวโน้มการศึกษาจะเข้าสู่ยุค The Internet of Things (IoT) เพราะอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน โดยบริษัทการ์ตเนอร์ (Gartner Inc.) ทำนายว่า ในปี 2020 จะมีอุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ เชื่อมต่อกันไม่ต่ำกว่า 20.8 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศอังกฤษจึงทุ่มงบฯลงทุนด้านการวิจัยและศึกษาด้าน IoT ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้เรียนได้รับประโยชน์จาก IoT ได้แก่ ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning), รู้จักการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning), กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและยั่งยืน (Self-directed Learning), ส่งเสริมเรียนรู้ผ่านพหุประสาทสัมผัส (Multisensory Learning), สร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (Gender Equality) และสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Creating Smart Classroom) นอกจากนั้น Real-World Case Studies หรือกรณีศึกษาจากโลกแห่งความจริงจะเข้มข้นมากขึ้นในทุกวิชา เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้เรียน และเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าข้อมูลในตำรา กรณีศึกษาในโลกแห่งความจริงยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียน ในขณะที่ "บิล เกตส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายการศึกษาจะน้อยลงและทุนการวิจัยจะมากขึ้น "เป็นที่รู้กันว่างานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการต่อยอดการศึกษา แต่ที่ผ่านมานักวิจัยหลายคนต่างต้องวิ่งเต้นหาทุนวิจัย และหาการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา โดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ฟรีจากระบบการศึกษาที่เรียกว่า MOOCs (Massive Online Open Courses) จึงส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเรียนน้อยลง ผู้เรียนสามารถมีทุนวิจัยของตนเอง" "ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้สอนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องสร้างห้องเรียนหรืออาคารเรียน เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเป็
ภาษา JavaScript เป็นภาษาที่หลายๆ คนคงรูจักเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าภาษา JavaScript นี้มีจุดอ่อนก็คือการออกแบบโครงสร้างและรูปแบบภาษาไม่ดีเท่าทีควร มีความเข้าใจยาก หันมาลองเขียน TypeScript แล้วคุณจะลืมการเขียน JavaScript เดิมๆ
คุณเคยเข้าไปในบางเว็บไซต์แล้วออกมาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาทีมั้ย ? คงจะเคยเจอกันนะครับ เว็บไซต์ที่ดีต้องดึงดูดผู้เข้ามาเยี่ยมชมได้พอสมควร ผลสำรวจ 2015 B2B Web Usability Report จาก Huff Industrial Marketing และ KoMarketing sought สรุปได้ว่า ผู้ซื้อส่วนใหญ่ต้องการความรู้สึกว่าซื้อจากเว็บไซต์ที่เป็นตัวจริง เป็นของแท้ และมันถูกสร้างขึ้นได้โดยการแสดงข้อมูลตัวตนชัดเจน และข้อมูลต่างๆเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ รายงานยังแสดงอีกว่าเว็บไซต์ของธุรกิจส่วนใหญ่นั้นมองข้ามเรื่องง่ายๆที่จะปรับปรุงเว็บไซต์ให้สร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น และต่อไปนี้คือ 4 จุดสำคัญบนเว็บไซต์ที่ธุรกิจส่วนใหญ่มองข้าม

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์