5 Web Browser ที่คนนิยมใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์

5 Web Browser ที่คนนิยมใช้เยี่ยมชมเว็บไซต์


เครื่องมือเว็บเบราว์เซอร์มีหลากหลายให้เลือกใช้ แล้วควรใช้ตัวไหนดี ลองมาดูกันว่ามีเว็บเบราว์เซอร์ตัวไหนน่าสนใจบ้าง

1. Google Chrome





     น่าจะเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี เพราะถือเป็นเบราว์เซอร์ที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลก ด้วยความที่ใช้งานง่ายและเชื่อมต่อกับหลายๆ อุปกรณ์ได้อย่างไร้รอยต่อ  แต่ข้อเสียของ Google Chrome คือเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่กินทรัพยากรของคอมพิวเตอร์เยอะมาก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์ว่าแรงพอไหม อีกทั้งยังมีเรื่องของ 'ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย' เช่น ปัญหาจากไวรัสบนอินเทอร์เน็ต หรือ ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ซึ่งเราสามารถเข้าไปตั้งค่าเพื่อป้องกันข้อมูลของเราได้


2. Mozilla Firefox

เชื่อว่ามีหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์การใช้เว็บเบราว์เซอร์ Firefox มาบ้าง ซึ่งหากเทียบคุณสมบัติระหว่าง Firefox และ Google Chrome ก็ถือว่าไม่ต่างกันนัก ซึ่ง Firefox เป็นเบราว์เซอร์ที่ใช้มากเป็นอันดับสองของโลก โดยเป็น Open-Source Browser (เบราว์เซอร์ที่เจ้าของลิขสิทธิ์อนุญาตให้มีการนำไปใช้ พัฒนา ปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลง Source Code ได้) ไม่ใช่ Chromium OS เหมือนเจ้าอื่นๆ โดยเบราเซอร์ Firefox ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นอันดับต้นๆ แถมยังสามารถดีไซน์เว็บเบราว์เซอร์ในแบบที่ตัวเองต้องการ โดยมีธีมต่างๆ ให้เลือกใช้ นอกจากนี้ยังไม่กินทรัพยากรหนักเหมือนของ Google Chrome ด้วย ดังนั้น หากใครยังไม่เคยใช้มาก่อน เราแนะนำให้คุณควรลองสักครั้ง เผื่อจะติดใจจนไม่อยากใช้เว็บเบราว์เซอร์ตัวไหนอีกเลย


3. Brave



เว็บเบราว์เซอร์สำหรับการท่องอินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับที่ดีในวงการเทคโนโลยี โดยลักษณะการใช้งานมีความคล้ายกับ Firefox แต่ชูเรื่อง 'ความเป็นส่วนตัว' ที่เหนือกว่า ดีไซน์เรียบใช้งานง่าย ไม่กินทรัพยากรเครื่องมากเท่าไร โดยมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Brave Shield ที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นพิเศษ โดยมีตัวบล็อกโฆษณาไม่ให้แสดงผล ไม่ให้มารบกวนใจรวมถึงหมดห่วงเรื่อง Tracking ว่าเราไปสถานที่ใดมาบ้าง และไม่จำเป็นต้องลง Extension อื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ ตัวเว็บยังมี Crypto Token ที่มอบให้ผู้ใช้งานเพื่อนำไปแลกเป็นเงินจริงๆ ได้ด้วย


4. Microsoft Edge

ในที่สุด Microsoft ก็กลับเข้าสังเวียนเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างไม่เคอะเขิน หลายต่อหลายครั้งที่ทางบริษัทจับเอาเว็บเบราว์เซอร์รุ่นเก๋าอย่าง Internet Explorer มาพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดั่งหวัง จนในที่สุดก็ต้องทำการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด และออกมาเป็น Microsoft Edge ที่ไม่เพียงแต่จะดีขึ้นกว่าเดิมแบบเทียบกันไม่ติด จนทำให้เป็นเว็บเบราว์เซอร์อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าใช้งาน

แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด แต่ความแตกต่างระหว่าง Microsoft Edge กับเว็บเบราว์เซอร์ค่ายอื่นๆ ยังไม่เห็นความแตกต่างมากเท่าไรนัก โดยลักษณะการใช้งานให้ความรู้สึกการผสมผสานกันระหว่าง Google Chrome และ Firefox ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก ส่วนเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวก็ถือว่าทำได้ดี แต่หากจะมองหาข้อดีจริงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพที่ทำได้ดีกว่าเว็บเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ความเร็วและความลื่นไหลก็อยู่ในระดับที่ดี ใครอยากเปลี่ยนประสบการณ์ แนะนำว่าให้ใช้

5. Opera



สำหรับคนที่เคยผ่านการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ตัวนี้มาแล้ว ก็จะรู้สึกทันทีเลยว่า "นี่มัน Google Chrome ชัดๆ” ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไร เพราะพื้นฐานของสองตัวนี้มาจากที่เดียวกัน แต่ Opera จะมีสิ่งที่แตกต่างออกไปอย่าง Sidebar ที่สามารถบุ๊กมาร์กเว็บไซต์ที่เราชื่นชอบได้ อีกทั้งความเร็วก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร สามารถเปิดหน้าต่างเว็บแชทค้างไว้ได้ตลอด รวมถึงมีโหมดที่ช่วยลดการดาวน์โหลดดาต้าลงด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับคนที่แชร์อินเทอร์เน็ตมือถือแบบจำกัดปริมาณเพื่อใช้งาน แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ทำให้ Opera ไม่ได้รับความนิยมเท่าไร เพราะบางเว็บไซต์ก็ไม่ได้ทำการอัปเดตโค้ดให้รองรับกับ Opera จึงทำให้ไม่สามารถแสดงผลได้

การเลือกเว็บเบราว์เซอร์ให้ตรงกับความต้องการและอุปกรณ์ที่เราใช้นั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบนโลกออนไลน์

 

 

 






ขอขอบคุณแหล่งที่มา : gqthailand , asearcher





โดย :
 212115
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำไมต้องมี CSS? ก่อนหน้านี้ เรารู้แล้วว่า HTML คือโครงสร้างของเนื้อหาในเว็บเพจ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ HTML เอาไว้บอกว่าในหน้าเว็บนั้นมีเนื้อหาอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้ว web browsers จะมีการกำหนด “สไตล์” ให้กับเนื้อหาเหล่านี้เอาไว้อยู่แล้ว แต่มันอาจจะไม่ค่อยสวยนัก ในการปรับเปลี่ยน “สไตล์” ให้กับเนื้อหา เราจะใช้สิ่งที่เรียกว่า “CSS (Cascading Style Sheets)” เข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตำแหน่งของเนื้อหา ปรับขนาดของตัวอักษร หรือเปลี่ยนสีพื้นหลัง สิ่งเหล่านี้ ล้วนทำผ่าน CSS ทั้งสิ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ CSS มีไว้บอก web browsers ว่าเนื้อหาต่างๆ ควรแสดงผลออกมาอย่างไร
เทคนิคในการสร้าง "ปุ่มคลิกเพื่อโทร" ที่อยู่ในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการติดต่อร้านค้า ติดต่อเว็บไซต์ หรือมีข้อสงสัยอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อได้ทันที เพียงแค่คุณคลิกก็สามารถโทรออกได้
ความเข้าใจถึงผู้ใช้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญและนำพาให้ธุรกิจของเรานั้นประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก เมื่อไรที่เราสามารถเข้าถึงใจผู้ใช้ได้และตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ในทันที

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์