Call To Action คืออะไร? เรียกความสนใจจากลูกค้าด้วยคำสั้น ๆ แต่ทรงพลัง

Call To Action คืออะไร? เรียกความสนใจจากลูกค้าด้วยคำสั้น ๆ แต่ทรงพลัง

Call to action (CTA) คืออะไร?

       Call to Action หรือ CTA คือปุ่มในจุดสุดท้ายที่จะเปลี่ยนให้ผู้รับชมทั่วไป เข้ามาสู่กระบวนการคลิกเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง เช่น สมัครสมาชิก ลงทะเบียน นำผู้ชมมายังเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งซื้อสินค้า มักจะเห็นกันในเว็บไซต์ หรือโฆษณาโซเชียลมีเดียต่างๆ และด้วย Call to Action คือปุ่มที่นำพาผู้ชมให้ทำบางสิ่งที่เป็นเป้าหมายของนักการตลาด จึงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีความสำคัญมากสำหรับการตลาดออนไลน์


แต่แค่ปุ่ม Call to Action ปุ่มเดียว ไม่มีองค์ประกอบอื่นที่จะช่วยกระตุ้นให้คนตัดสินใจคลิกได้เลยนั้น เป็นไปได้ยากที่จะหวังผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้นการสร้าง Call to Action ให้คนอยากคลิกจึงมี 2 องค์ประกอบสำคัญหลักๆ นั่นก็คือ

  • Copywriting : คำเขียนโฆษณา หรือคำอธิบาย ก่อนจะพาผู้ชมให้เกิดการคลิก ที่ปุ่ม
  • Call to action Call to action : คำกระตุ้น หรือปุ่มกระตุ้น ให้เห็นแล้วอยากคลิก

ทั้ง 2 องค์ประกอบ จะต้องสนับสนุนกัน ช่วยพากันทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าอ่านแล้วอยากจะคลิก วันนี้ SoGoodWeb จึงรวบรวมเทคนิคดีๆ ในการสร้าง Call to Action มานำเสนอ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันค่ะ


เทคนิคการสร้าง
Call To Action

1. เลือกคำสั้น ความหมายตรง

       การใช้ CTA ที่สั้นและตรงประเด็น มักจะได้ผลดีกว่าการใช้คำที่ดูซับซ้อนเกินไป ไม่ใช่แค่จะสามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเหมาะมาก ๆ กับการดีไซน์ ทั้งข้อจำกัดของพื้นที่บนเว็บไซต์ พื้นที่บนรูปโปรโมท หรือแม้แต่จำนวนอักษรในโฆษณา

ตัวอย่าง CTA ที่หลายธุรกิจนิยมใช้กันบ่อยที่สุด

อีกหนึ่งเทคนิคการเลือกใช้คำสำหรับ Call to Action คือ Fear of Missing Out (FOMO) เป็นเทคนิคการกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึก ‘เสียดายถ้าต้องพลาดโอกาสนี้ไป’ หรือพูดง่าย ๆ ว่าลูกค้าจะเกิดอาการกลัวว่าจะไม่ได้ กลัวว่าจะไม่มี กลัวว่าจะไม่รู้ จนต้องรีบ Action กลับมาทันที

ตัวอย่าง CTA ประเภทนี้ อย่างเช่น

  • ลดทั้งร้าน วันเดียวเท่านั้น
  • จำนวนจำกัด เพียง 100 ท่านแรก!
  • 20 ชิ้นสุดท้าย! หมดแล้วหมดเลย

 

2. ต้องเด่นและแตกต่าง

       ถ้าอยากให้ Call to Action โดดเด่นจนลูกค้าอยากคลิก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกสำหรับการออกแบบปุ่ม CTA คือ การเลือกใช้สีค่ะ เทคนิคนี้อาจมองว่ามันดูเบสิค แต่การเลือกใช้สีที่เด่นตัดกับสีพื้น หรือการเลือกใช้สีตัวหนังสือที่ตัดกับสีปุ่ม จะช่วยให้ลูกค้าสะดุดตา และรับรู้ว่าคุณต้องการให้เขาทำอะไร


มากกว่าสีที่เด่นกระแทกตาแล้ว การทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงความแตกต่างของ CTA กับ Text ข้อความธรรมดาก็สำคัญค่ะ ควรออกแบบให้ลูกค้ามองปุ๊บก็รู้ทันทีว่าสิ่งนี้ต้องคลิก! ทั้งการดีไซน์ Call to Action เป็นปุ่มนูน มีเส้นขอบชัดเจน มีการเพิ่มเงา หรือใส่สัญลักษณ์ลูกศร

 

3. เห็นเด่นชัดในทุกอุปกรณ์

       จากข้อมูลของ Statcounter ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นประจำ มีจำนวนมากกว่าครึ่งนึง ของปริมาณผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด เพราะฉะนั้นต้องคำนึงถึงการแสดงผลบนมือถือมาเป็นอันดับหนึ่ง ควรเช็คให้ดีว่า Call to Action มีการปรับให้เหมาะสมหรือพอดีกับหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วหรือยัง ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และควรออกแบบปุ่ม CTA ให้แสดงผลได้อย่างชัดเจน สวยงามในแต่ละแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับ CTA คือ เรื่องการจัดวาง จากสถิติพบว่า เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ ผู้เข้าชมส่วนใหญ่มักจะมองภาพรวมเว็บไซต์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะส่วนบนของเว็บไซต์


4. มี
Call To Action สำรอง

       การดำเนินการตาม CTA ที่คุณต้องการ อาจเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่สำหรับลูกค้าบางคน ตัวอย่างเช่น ลูกค้าต้องการหาข้อมูลของสินค้าก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ หรือ ลูกค้าต้องการดูตัวอย่างไฟล์ก่อนตัดสินใจดาวน์โหลด การใส่ Call to Action หลักจึงมาพร้อมกับ CTA สำรองที่อยู่ใกล้เคียงกันนอกจากนี้ ในหน้าปลายทางของ CTA สำรอง ควรใส่ CTA หลักเข้าไปในตอนท้าย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าอีกครั้ง เทคนิคนี้จะช่วยให้โน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายให้ดำเนินการตามที่ต้องการได้มากเลยทีเดียว เพราะลูกค้าอาจจะตัดสินใจซื้อทันทีที่อ่านจบ


ขอขอบคุณแหล่งที่มา : stepstraining, makewebeasy

โดย :
 3403
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

จากที่เราได้นำเสนอไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ประกอบการคงจะตระหนักได้ว่าอีเมลมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจมากมายเพียงไร
ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะได้ผลตอบแทนมากที่สุดจากเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไป
เมื่อพูดถึงสิ่งที่ทำให้นักธุรกิจเครือข่าย นักธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ หรือนักการตลาดออนไลน์ กลัวและกังวลใจมากๆ ในการทำธุรกิจเครือข่าย และธุรกิจออนไลน์ทั้งที่เป็นมือใหม่ หรือผู้ที่เคยล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่าย

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์