การเพิ่มประสิทธิ์ภาพ Social Media ให้ได้ผล

การเพิ่มประสิทธิ์ภาพ Social Media ให้ได้ผล

     การทำ Digital Marketing ในยุคนี้เครื่องมือที่สำคัญคงหนีไม่พ้น social media และนักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นก็ลงมือทำเอง หรือให้คน Agency นั้นบริหารจัดการมา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นคือ Social Media ที่ทำนั้นไม่ได้มีความโดดเด่น แต่ก็ไม่ได้แย่ ซึ่งนักการตลาดที่ดูแล Social Media นี้ก็อยากให้มันไปได้สุดในการทำ แล้วจะทำอย่างไรให้มันดีขึ้นดี


     สิ่งหนึ่งในการทำ Social Media ยุคนี้ที่เกิดขึ้นคือทุก ๆ คนพยายามทำ ๆ ตามกัน หรือได้แต่โพสขึ้นปตามกระแส แต่ไม่ได้คิดถึงในการสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ออกมา หรือเตรียมพร้อมในการที่จะสร้างอะไรใหม่ ๆ เอาไว้ ทั้งนี้ช่องทาง Social Media นี้ถ้าทำดี ๆ ก็สามารถสร้างกระแสแล้วจบการขายได้ในตัว ทั้งนี้วันนี้เรามาเรียนรู้ 7 วิธีในการบริหารจัดการเครื่องมือ Social Media นี้ให้ทำงานให้มันได้ดีที่สุดกัน

1. เลือกช่องทาง Social Media เพียง 3 หรือให้น้อยกว่านี้ ในการเป็นเครื่องมือ Social Media : เครื่องมือ Social Media นั้นมีหลากหลายมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Youtube, Pinterest และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่หลาย ๆ ครั้งนักการตลาดหรือคนที่ดูแล Social media ไม่ได้ทำการบ้านตัวเอง และเลือกเครื่องมือทุกอย่างออกมาทำ ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นคือการที่ต้องมาบริหารจัดการ Account เหล่านี้ทั้งหมด ซึ่งถ้าทำตามคนที่ทำ Social Media ที่แนะนำคือการโพสวันละครั้งในช่องทางเหล่านี้ จะทำให้คนนั้นต้องมาสร้างโพสและดูแลช่องทางตาม ๆ มากมาย และยากที่จะดูแล Account ทั้งหมดให้ดีได้ แถมบางทียังเปลืองแรงไปดูช่องทางที่ไม่ได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ตัวเองวางไว้เลย สิ่งที่ยุคใหม่แนะนำนี้คือการเลือกช่องทางที่ใช่ที่สุดสัก 1-3 ช่องทางมาบริหารจัดการให้ดีที่สุด ใช้หลักการ Less is more แล้วทุ่มโฟกัสไปกับการดูแลช่องทางเหล่านี้ให้ดีที่สุด

2. Curated Content เอาไว้เพื่อให้มีวัตถุดิบที่ดีในการสร้างเนื้อหาออกมา : สิ่งที่คนทำ Social Media หลาย ๆ คนมักจะเกิดขึ้นคืออาการตันของการทำ เนื้อหาต่าง ๆ ออกมา และทำให้เนื้อหานั้นไม่ได้มีความโดดเด่นหรือดีขึ้นมาเลย นอกจากนี้สิ่งที่โพสนั้นยังเกิดการโพสซ้ำ ๆ ไม่ได้มีเรื่องใหม่มาโพสเลย ซึ่งยิ่งทำแบบนี้ก็จะทำให้ Account Social ของตัวเองนั้นน่าเบื่อเรื่อย ๆ ขึ้นนั้นเอง หรือถ้าไม่งั้นก็จะไม่ได้ดีที่สุด ทางแก้ของปัญหานี้คือการ Curated Content หรือทำการสร้างการสะสมเนื้อหาที่ดี ๆ หรือตัวอย่างเนื้อหาที่ดี ๆ เอาไว้ เอามาอ้างหรือสร้างเป็นเนื้อหาใหม่ของตัวเองที่ตึกผลึกแล้ว ทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ ได้ทันทีอีกด้วย หรือเกิดการเชื่อมโยงเนื้อหาต่าง ๆ ออกมา ข้อดีในยุคนี้ที่มีอินเทอร์เนตมากมาย สิ่งที่คนดูแล Social Media ควรทำคือการเสพดราม่าให้น้อยลง และเริ่มสะสมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์มากขึ้นมา

3. ทำ Calendar 30 วันซะ : วิธีการที่ดีที่จะทำให้คุณเห็นภาพรวมการทำงาน คือการวางแผน Action Plan ออกมาว่าต้องทำอะไรบ้าง ในการดูแล Social Media นั้นก็คือการทำ Calendar ออกมานั้นเองว่าแต่ละวันใน 30 วันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในสังคม และ social media แต่ละช่องทางนั้นจะต้องจะต้องโพสกี่ครั้ง แล้วรูปแบบไหน ทำให้คุณสามารถจัดวางเนื้อหากับกิจกรรมในตลอดทั้งเดือนที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้การทำงานและการเปลี่ยนเปลี่ยนแผนงานต่าง ๆ นั้นง่ายมากขึ้นไปเอง จริง ๆ แล้ว content calendar นี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ ในออนไลน์มีการแชร์เอาไว่้เอามามายใน template รูปแบบต่าง ๆ สามารถหาลองมาใช้ได้เลย

4. ลองใช้กฏ 80/20 : แน่นอนการสร้าง Social Media นั้นคือการสร้างชุมชนขึ้นมา การมีอะไรแต่ที่เป็นโฆษณามาก ๆ หรืออะไรที่ไม่ได้น่าสนใจนั้นทำให้ช่องทางนั้นมันจะดูน่าเบื่อไปมาก สิ่งที่ทำได้ในการสร้างความน่าสนใจง่าย ๆ คือการใช้กฏ 80/20 มาประยุกต์ใช้ นั้นคือ 80% เป็นเนื้อหาที่สนุก สร้างความบันเทิง ให้ความรู้โดยยังเกี่ยวข้องกับแบรนด์ไว้ เพื่อสร้างให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมา อีก 20% นั้นเป็นเนื้อหาที่สร้างโปรโมชั้นของแบรนด์ หรือเนื้อหาที่เป็นการขายของและโฆษณาต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อให้คนที่เข้ามาได้เห็นว่าแบรนด์นั้นขายอะไรหรือกำลังทำอะไรอยู่ นอกจากนี้ควรจะผสมผสาน ภาพต่าง ๆ หรือวิดีโอที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดสายตาให้อ่านได้

5. ใช้เครื่องมือให้เป็นประโยชน์ : ยุคนี้มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้คนทำงาน Social Media นั้นทำงานได้ง่ายมากขึ้น ทำให้โพสที่ทำมานั้นสร้างประสิทธิภาพได้สูงที่สุด เครื่องมือนี้จะช่วยประหยัดเวลาคุณทำงานอย่างมาก ในการตั้งการโพสล่วงหน้า หรือสามารถช่วยในการดูแลชุมชนต่าง ๆ ขึ้นมา หรือสร้างโพสที่จะจับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการออกมาได้ หรือสรุปออกมาเป็นรายงานประสิทธิภาพการทำงานได้เลย ทำให้คนทำ Social media มีเวลาไปทำอย่างอื่นอย่างมากมาย เช่นมานั่งตอบ comment ต่าง ๆ หรือดูว่ามี insight อะไรที่น่าสนใจที่จะใช้ประโยชน์ได้ไหม

6. ลองทำ A/B Testing Content : สิ่งหนึ่งที่ Digital ทำได้ดีคือการทำ A/B Testing และเราก็สามารถนำมาปรับใช้กับการทำ Social Media ได้โดยการเทส Content ในแต่ละแบบว่าทำงานอย่างไร หรือการโพสในแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลาส่งผลแบบไหน เพื่อที่จะสามารถสร้างเนื้อหาที่ทรงประสิทธิภาพและทำให้การทำงานนั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้ ทั้งนี้อาจจะลองเอาเนื้อหาเดิม มาเขียนใหม่ หรือใช้ภาพใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมมากในทุกวันนี้ในการที่จะทำให้ Content นั้นแสดงประสิทธิภาพที่สูงที่สุด

7. วัดความสำเร็จทุก ๆ อาทิตย์ : สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ Social Media ทำงานได้ดี คือการรู้ว่างานที่ตัวเองทำนั้นดีหรือไม่ดี การวัดว่าประสิทธิภาพการทำ social media ของตัวเองนั้นดีหรือไม่ดี ซึ่งเมื่อวัดที่ตัวชี้วัดทั้งแบบคุณภาพและตัวเลขนั้นจะทำให้เห็นได้ว่า เนื้อหาแบบไหนดี และแบบไหนไม่ดี หรือแบบไหนควรจะปรับปรุง แบบไหนควรจะทิ้งไป รวมทั้งการเทียบกับคู่แข่งว่าทำอะไรดีหรือไม่ดี สิ่งเหล่านี้ทำให้การทำงานนั้นมีทางที่จะทำให้ดีขึ้นและปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นมาได้


ที่มา MarketingOops!

 

โดย :
 1236
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในชีวิตประจำวันเราคงจะพบเห็นโฆษณามากมายรอบตัวเราโดยโฆษณาเหล่านี้มักจะเน้นไปที่การขายของหรือบริการต่างๆ แต่สุด ท้ายก็มักจะลงเอยที่การหว่านล้อมให้ เราเลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิตอยู่ดี ในทางกลับกัน Content Marketing จะเป็นการนำเสนอ “Content” ซึ่งก็คือ “เนื้อหาที่มีประโยชน์” ให้กับผู้บริโภค โดยมีจุดประสงค์หลักก็คือ เพื่อทำให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจจนสามารถจดจำBrandสินค้าได้ และเกิดความความจงรักภักดีใน Brand สินค้า(Brand Loyalty) ในที่สุดจริงๆ แล้วเป้าหมายลึกๆ ของ Content Marketing ก็คือการขายอยู่ดี เพียงแต่จะเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภค
รู้หรือไม่ว่า Website สร้างจำนวนคนเข้าได้มหาศาลแค่ไหน และสามารถปิดการขายได้ดีกว่าเป็นไหนๆ เรารู้ว่าหลายคนขายของเฉพาะเพียงใน Facebook เพียงอย่างเดียว บางคนก็ขายผ่าน IG และ Line ด้วยซึ่งดีมาก แต่ถ้าจะดีกว่านั้น สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือเว็บไซต์
Facebook Pixel คือ ระบบ Tracking ของ Facebook ที่ใช้ติดตั้ง บนเว็บไซต์ ของคุณ เพื่อติดตาม พฤติกรรม การใช้งาน ของผู้เยี่ยมชม

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์