5 เครื่องมือใน Google Analytics ที่เพิ่มการตลาดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

5 เครื่องมือใน Google Analytics ที่เพิ่มการตลาดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

     ในยุคที่การตลาดนั้นต้องการความแม่นยำอย่างมากในการทำงาน ต้องการแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภคมาให้ได้ ซึ่งผู้บริโภคนั้นมีเวลาอย่างจำกัดในวัน ๆ หนึ่งแถมยังรับสื่อต่าง ๆ ได้จำกัดอีกด้วย ทำให้นักการตลาดต้องการที่จะรู้ข้อมูลต่าง ๆ ของผู้บริโภคจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลมานักการตลาดหลาย ๆ คนจึงใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการเก็บข้อมูลผู้บริโภคเพื่อที่จะทำความเข้าใจผู้บริโภคว่ามีพฤติกรรมกับแบรนด์อย่างไรบ้าง โดยมีหลากหลายเครื่องมือที่จะเก็บข้อมูล เครื่องมือหนึ่งในนั้นใช้ตัวเก็บข้อมูลนี้ยังไม่เต็มประสิทธิภาพนั้นคือ Google Analytics


     Google Analytics นับว่าเป็นเครื่องมือที่นักการตลาดหลาย ๆ คนใช้ และหลายคนยังไม่ได้ใช้เครื่องมือให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด เครื่องมือ Google Analytics ปัจจุบันนั้นหลาย ๆ คนใช้แค่เพียงเก็บค่าวัดเว็บไซต์ต่าง ๆ ออกมา ซึ่งนี้เป็นคุณสมบัติเครื่องมือที่ให้นักการตลาดสามารถใช้ได้ฟรี แต่ในความจริงแล้วเครื่องมือ Google Analytics นี้ยังทำได้มากกว่าการเก็บค่าวัดเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วยพลังที่ผูกกับเทคโนโลยีของ Google ที่ทำให้คุณเปลี่ยนเครื่องมือวัดผลนี้ กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่จะมีผลต่อการตลาดของคุณได้เลยทีเดียว และทำให้คุณทำงานแบบ Data Scientist ย่อม ๆ ได้เลย ซึ่งวันนี้เราจะมารู้จัก 5 เครื่องมือใน Google Analytics ที่คุณควรรู้จักและน่านำมาใช้งาน

1. ใช้เป็น Funnel Analysis

ใน Google Analytics นั้นสามารถทำ Funnel Analysis ได้ ทำให้รู้ว่าผู้บริโภคนั้นมี Customer Journey อย่างไรในเว็บไซต์ของเราหรือช่องทางที่เอา Google analytics ไปติดไว้ เครื่องมือนี้ส่วนใหญ่นักการตลาดหลาย ๆ คนใช้เพื่อค้นหาว่า ณ จุดไหนใน Customer Journey นั้นที่ลูกค้าออกจากหน้าเว็บไซต์ไป ซึ่งเมื่อรู้ว่าหายไปจากหน้าไหน ก็สามารถทำให้วิเคราะห์ได้ว่าทำไมถึงหยุดและออกไปที่หน้าดังกล่าวได้ เช่น อาจจะเป็นที่เข้ามาแล้วไม่เจอข้อมูลที่ต้องการ กระบวนการซื้อสินค้ายาก และอื่น ๆ มากมาย สิ่งที่ดีมากในการทำ Funnel analysis นี้คือนักการตลาดจะสามารถรู้ข้อมูลที่สำคัญคือ Conversion Rate ที่จะเกิดขึ้นมา และให้ภาพกับนักการตลาดได้ว่า ผู้บริโภคนั้นมีปฏิสัมพันธ์กับ Call To Action ต่าง ๆ อย่างไร

2. ใช้เพื่อสร้าง Segmentation

ยังไม่ต้องพูดถึง Personalization ที่ต้องทำการตลาดในระดับบุคคล แต่เอาในระดับ Segmentation ก่อน เพราะนักการตลาดหลาย ๆ คนมักจะเล่นอะไรง่าย ๆ คือการทำตลาดแบบ Mass หรือหว่านเอาไว้ก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นงบประมาณการตลาดมากมายที่ลงไปนั้นไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ แต่การทำ Segmentation นั้นจะทำให้นักการตลาดสามารถเจาะจงกลุ่มที่จะสื่อสารและสร้างการสื่อสารได้แม่นยำในระดับกลุ่มความสนใจเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ Google Analytics นั้นก็มีเครื่องมือในการทำ Segmentation ออกมาจาก geographic, demographic, และ conversion rate data ของคนเข้าเว็บแต่ละคนได้ ด้วยพลัง Segmentation นี้ทำให้นักการตลาดเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละแบบที่เข้ามาในเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย และนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการตลาดต่อไป

3. ใช้ทำ Realtime Report

สิ่งหนึ่งที่ Google Analytics ทำได้นั้นคือการทำ Realtime Report ซึ่งนี้มีข้อดีอย่างมากที่จะทำให้รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ทำไปบนหน้าเว็บไซต์นั้นมีผลอย่างไรต่อผู้เข้าชมหรือพฤติกรรมของผู้บริโภคขึ้นมาได้ ซึ่งจะทำให้นักการตลาดนั้นสามารถจัดการผู้บริโภคที่เข้ามาได้อย่างทันท่วงที แถมยังใช้วัด Campaign ต่าง ๆ ที่ต้องการกระตุ้นยอดหรือสร้าง Conversion ต่าง ๆ ขึ้นมาได้อีกด้วย หรือถ้าจะใช้ให้ดีก็ดูว่าผู้บริโภคตอบสนองต่อเนื้อหาที่สร้างขึ้นไปใหม่อย่างไร เพื่อสามารถปรับแต่งให้เนื้อหานั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ด้วย

4. ใช้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์อาการต่าง ๆ

หน้าที่สำคัญของ Data Scientist คือการจับสัญญาณต่าง ๆ ออกมาให้ได้ ซึ่งเครื่องมือ Google Analytics’ Diagnostics Tool นั้นทำหน้าที่แบบเดียวกัน คือจะส่ง notification มายังคุณเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ค่าการวัดของคุณนั้นมีอาการที่แปลกไปจากที่เคยเป็นหรือที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้นักการตลาดนั้นสามารถจับสัญญาณบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมี Analytics Assistant ที่เป็น AI ที่จะเรียนรู้การทำงานของนักการตลาดบน Google analytics และทำงานช่วยเหลือคุณในการจับสัญญาณต่าง ๆ พวกนี้ขึ้นมา

5. ใช้เป็นเครื่องมือ Predictive

ด้วยเครื่องมือของ Google Analytics นี้ทำให้นักการตลาดสามารถคาดการณ์ได้ด้วยว่า ผู้บริโภคคนไหนที่มีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นลูกค้า หรือเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าได้ง่ายกว่าคนอื่น เพราะด้วยเครื่องมือนี้สามารถแยกแต่ละคนที่น่าจะเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าให้นักการตลาดทราบได้ และนำมาใช้ต่อกับการใช้ Remarketing ใน Adwords เพื่อเปลี่ยนคนกลุ่มนี้ให้ซื้อสินค้าและบริการให้เร็วที่สุดได้ด้วย ซึ่งนักการตลาดสามารถจะใช้เครื่องมือ Predictive นี้ได้ผ่านคุณสมบัติ Smart Lists หรือ Smart Goals

 

ที่มา marketingoops

โดย :
 1724
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงเทศกาลไปแล้วแต่ก็ของเก็บตกความรู้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในช่วงเทศกาลหน้าก็ยังไม่สาย หลักการสำคัญข้อแรกที่ไม่ทำไม่ได้เลย ก็คือ การปรับเปลี่ยนเว็บไซต์ของท่านให้เหมาะกับเทศกาลเพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ในแต่ละเทศกาลที่กำลังจะเริ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเทคกาลนี้คือ ลูกโป่ง, ป้าย Happy New Year, ของขวัญ แล้วถ้าเป็นเทศกาลวาเลนไทน์ คำตอบก็คงไม่พ้น ดอกกุหลาบ ช็อคโกแลต และหัวใจ เป็นต้น ซึ่่งสิ่งเหล่านี้เองที่จะเป็นตัวแทนสื่อถึงเทศกาลต่างๆ และสามารถนำมาตกแต่งแสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ลูกค้าของท่านรู้สึกได้ว่า ร้านค้านี้มีของที่เขามองหาอยู่ตามเทศกาลจริงๆ
การตลาดออนไลน์ทางมือถือ เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจสมควรหันมาให้ความสนใจอย่างแท้จริง ด้วยเพราะเราจะมองเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้ามากมายเริ่มเลือกใช้ แท็บเล็ตและมือถือแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยสนนราคาที่ต่ำลงและมีฟีเจอร์สมัยใหม่ที่น่าดึงดูดเพิ่มขึ้น
วิธีใช้เฟซบุ๊คทำการตลาดเพื่อขายของออนไลน์ ใช้เฟซบุ๊คส่วน ข้อดี/ข้อเสีย, ใช้เฟซบุ๊คเพจ ข้อดี/ข้อเสีย สุดท้ายจะแนะนำให้ไปใช้เฟซบุ๊คเพจในที่สุด แต่จะบอกเล่าปัจจัยสำคัญในการทำเพจให้โตยั่งยืน

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์