คำโฆษณาสินค้าออนไลน์ ที่คุณมักใช้ผิด

คำโฆษณาสินค้าออนไลน์ ที่คุณมักใช้ผิด

เมื่อนึกถึงการโพสขายของออนไลน์ นอกจากรูปภาพสินค้าต้องดูดีแล้ว คนส่วนใหญ่มักคิดว่า มีข้อดีอะไร สรรพคุณวิเศษวิโสอะไร ก็ต้องยัดใส่ลงไปให้หมด เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากลูกค้า แต่หารู้ไม่ว่า การยัดถ้อยคำโฆษณาติดๆกันเป็นจำนวนมาก สมัยนี้ถือว่า “ตกยุค” ไปแล้วล่ะคะ มาดูกันดีกว่า ว่าลักษณะถ้อยคำโฆษณาสำหรับการโปรโมตสินค้าออนไลน์ที่ดีควรเป็นอย่างไร?

1. แยกแยะบุคลิกของลูกค้าให้ออก

หรือง่ายๆก็คือ รู้ว่าไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเราเป็นแบบไหน จากนั้นก็เลือกใช้ถ้อยคำให้เหมาะสมกับบุคลิกไลฟ์สไต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า สมมุติเราขายสินค้าที่มีฐานลูกค้าเป็นคนหลากหลายประเภท เช่น ขายแบตสำรอง ถ้าเราขายให้วัยรุ่น เราอาจชูโรงด้วยคำว่า “ไปเที่ยวต่างจังหวัดไกลๆ ยังไงก็ไม่กลัวแบตมือถือหมด” แต่ถ้าเราขายให้กับวัยทำงาน ก็เปลี่ยนไปใช้คำว่า “ไม่พลาดทุกการประชุม และนัดสำคัญ ให้มือถือของคุณพร้อมใช้งานตลอดเวลา” เป็นต้น

2. บอกถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ไม่ใช่แม่ค้า

ตรงนี้หลายคนชอบทำพลาด เช่น เรานำขายกระเป๋าแฮนเมด ที่งานละเอียดมาก ใช้หนังชั้นดีทำ พอถึงตอนโฆษณา เราก็ปาวประกาศแต่อะไรที่ “ไม่จำเป็นสำหรับลูกค้า” โอเค กระเป๋านี้อาจจะดีไซน์สวย ใช้ของดีเป็นวัตถุดิบ แต่สิ่งที่จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าเหนือสิ่งอื่นใดคือ “คำตอบ ของคำถามที่ว่า…ซื้อไปแล้วชีวิตตัวเองจะดีขึ้นอย่างไร?” มากกว่ามารับรู้ว่าคนขายเหนื่อยยากแค่ไหนในการผลิตสินค้านั้นๆออกมา จำไว้นะคะ ต่อไปนี้ เวลาโฆษณา ให้พุ่งตรงไปที่ถ้อยคำที่ลูกค้าอ่านแล้วเกิดแรงจูงใจ ว่าใช้แล้ว “ชีวิตจะดีขึ้น” อย่านอกประเด็น

3. บอกลักษณะของสินค้าสั้นๆ…อย่าเยอะ!

สิบเนื่องจากข้อ 2 สิ่งที่้ต้องพูดให้มากคือ การตอบโจทย์ปัญหาชีวิตของลูกค้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทิ้งการอธิบายลักษณะสินค้าไปเลย แต่เพียงบอกให้สั้น กระชับ เห็นภาพ ลักษณะของสินค้าที่สำคัญที่ควรบอกได้แก่ ราคา ขนาด สี/ลวดลาย วัสดุ เพิ่มเติมกว่านั้นคือเงื่อนไขการชำระเงินและการจัดส่ง

4. ให้ข้อมูลเปรียบเทียบ

ถ้าของที่เราขายมีหลายเจ้าขายอยู่เหมือนกันในตลาด สิ่งที่เราควรทำคือ ให้ข้อมูลเปรียบเทียบ ทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ในทันทีที่เห็นข้อความว่า “ทำไมสินค้าของเราจึงแตกต่าง?” “ทำไมฉันต้องซื้อของจากร้านนี้?” ไม่ใช่ว่าพอขายสินค้าเหมือนๆกัน ก็อ้างสรรพคุณเหมือนๆกันไปหมด หรือถ้าสรรพคุณมันเหมือนกันไปหมดจริงๆ ก็อาจจะชูโรงด้วย “ความแตกต่างทางบริการ” เช่น จัดส่งฟรี เปลี่ยนสินค้าได้ ฯลฯ เป็นต้น

5. ลองหลายๆ แบบ

ให้เราทดลองส่งสารที่เราอยากจะสื่อให้ลูกค้าออกไป 2-3 แบบ แล้วปรับเทียบผลที่ได้รับกลับมา ว่ารูปแบบถ้อยคำโฆษณาไหนที่ได้ผลที่สุด เช่น การลงโฆษณาบน facebook, การโพสขายสินค้าตาม Social Media ช่องทางต่างๆ เมื่อเรารู้ว่าลูกค้าของเราสะดุดใจกับคำไหนมากที่สุด เราก็จะสามารถนำมาเป็นจุดขายของเราได้ในอนาคตเลยค่ะ

โดย :
 3709
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Influencer Marketing เป็นหนึ่งในการตลาดใหม่ในยุคดิจิตัลที่เพิ่มทางเลือกให้แบรนด์ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
วันที่ 27 กันยายนถือเป็นวันเกิดอย่างเป็นทางการของ Google

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์