เรารู้กันดีว่าอีก 3 ปีข้างหน้า เม็ดเงินโฆษณาออนไลน์จะมีมูลค่าสูงเกินเม็ดเงินในตลาดโฆษณาทางทีวี แต่สิ่งที่นักการตลาดควรรู้มากกว่านั้น คือเงินทุนจะเทไปที่ตลาดโฆษณากลุ่มไหนมากกว่ากัน ระหว่างโซเชียลมีเดีย, อีเมล, โมบายล์, ออนไลน์ดิสเพลย์ หรือบนเสิร์ชเอนจิน?
ในยุคก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลายเหมือนในปัจจุบัน ทีวีนับว่าเป็นช่องทางหลักที่เหล่าแบรนด์นักการตลาดต่างเลือกใช้ในการทำโฆษณาเพื่อสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่หลังจากที่เริ่มเข้าสู่ยุคอินเทอร์เน็ต ก็พบว่านักการตลาดส่วนใหญ่เริ่มเบนความสนใจไปที่การทำโฆษณาบนออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นรูปแบบในการโฆษณาที่มีความยืดหยุ่นและใช้เงินในการลงทุนที่ต่ำกว่า
เว็บไซต์ Infosys.com ประเมินว่าในปี 2016 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า มูลค่าการลงทุนด้านโฆษณาออนไลน์จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมีมูลค่าแซงหน้าการทำโฆษณาทีวี โดยโฆษณาออนไลน์จะมีมูลค่าการลงทุนราว 76,600 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่การทำโฆษณาทางทีวีมีมูลค่าตามหลังอยู่ที่ 72,000 ล้านเหรียยญสหรัฐ
Infosys.com เชื่อว่ารูปแบบในการทำโฆษณาออนไลน์ที่จะได้รับความนิยมสูงสุดอันดับ 1 คือการลงโฆษณาบนเสิร์ชเอนจิน (43%) รองลงมาเป็นป้ายโฆษณาออนไลน์ (36%) ตามมาด้วยโฆษณาออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือ (11%) โซเชียลมีเดีย (7%) และ E-mail (3%)
ทิศทางนี้เกิดขึ้นตามแนวโน้มในปัจจุบัน การตลาดผ่านเสิร์ชเอนจิน (Search Marketing) เป็นรูปแบบในการทำโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับความนิยมและมีการเติบโตสูงที่สุดอยู่ในเวลานี้ โดยในปีนี้ (2013) คาดว่ามูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 24,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2016 โดยครองส่วนแบ่งในตลาดการทำโฆษณาออนไลน์สูงสุดอยู่ที่ 43%
การทำโฆษณาในรูปแบบป้ายโฆษณาออนไลน์ (Display Marketing) ที่ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับ 2 ก็พบว่าเริ่มได้รับความสนใจจากกลุ่มนักการตลาดและมีจำนวนการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2016 มีการประเมินว่าการลงทุนในรูปแบบป้ายโฆษณาออนไลน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐและคิดเป็น 37% ของการลงทุนในตลาดโฆษณาออนไลน์
ตามมาด้วยอันดับ 3 การทำโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Marketing) โดยผลการสำรวจพบว่า การทำโฆษณาบนมือถือกำลังให้เป็นจับตามองของเหล่านักการตลาดเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากความนิยมในการใช้งานโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่ทั่วโลกบวกกับบทบาทของโทรศัพท์มือถือที่เริ่มมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยมีการประเมินว่าในปีนี้ (2013) มีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่
4,000 ล้านเหรียญสหรัฐและคาดว่าจะเพิ่มสูงถึง 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2016
ส่วนการทำโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาเป็น 2 อันดับสุดท้าย คือ โซเชียลมีเดีย (Social Media) และ E-mail
(E-mail Marketing) ก็พบว่า การทำโฆษณาทั้ง 2 รูปแบบยังมีการเติบโตในระดับปานกลาง โดยในปี 2016 คาดว่าการทำโฆษณาในรูปแบบโซเชียลมีเดียมีมูลค่าอยู่ที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐและครองส่วนแบ่งในการลงทุนอยู่ที่ 7% ในขณะที่การทำโฆษณาในรูปแบบ E-mail ที่ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับสุดท้าย ก็คาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐและครองส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 3% เท่านั้น
Credit : infosysblogs