5 เทรนด์ social media ที่ต้องจับตาในปี 2019

5 เทรนด์ social media ที่ต้องจับตาในปี 2019

      แนวโน้มสื่อสังคมออนไลน์ 5 รูปแบบมาแรง ที่ต้องจับตาให้ดีในปีหน้า สามารถบอกใบ้ว่าโลกโซเชียลกำลังเปลี่ยนแปลงไป ต่อไปนี้คือสิ่งที่ PR และนักการตลาดควรรู้ เรียกได้ว่าจะเป็นอีกปีที่ธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำสื่อโซเชียล เพื่อเพิ่มการรับรู้และ engagement กับลูกค้าแบบพลิกวงการเลยทีเดียว

1.personal branding จะสำคัญกับ business branding มากขึ้น
      การสร้างแบรนด์ส่วนบุคคล จะมีความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ธุรกิจมากขึ้นในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจขนาดเล็ก เพราะการใส่ใบหน้าคนจริงลงไปในชื่อร้านหรือแบรนด์ธุรกิจ จะช่วยสร้างความภักดีหรือ loyalty ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น แบรนด์ที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ได้ และมีองค์ประกอบที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจวางใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยให้เกิดความมั่นใจในแบรนด์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าในอนาคต สิ่งที่เชื่อว่าจะร้อนแรงในปี 2019 คือ การประชาสัมพันธ์แบรนด์ผ่านเจ้าของหรือผู้นำระดับสูงของแบรนด์ กลยุทธ์นี้กลายเป็นยุทธศาสตร์ของหลายองค์กรซึ่งทำผ่านการเชิญผู้บริหารมาเขียนบล็อก การเข้าร่วมพอดแคสต์ และการปรากฏตัวบน webinar หรืออีเวนท์พิเศษทางโซเชียลอื่นๆ ทั้งหมดนี้ จะทำให้โซเชียลกลายเป็นประตูให้ผู้บริโภคคนทั่วไปได้รู้จักนิสัยและความเชี่ยวชาญของผู้นำบริษัท ทำให้สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ได้อย่างแนบเนียนกว่าการโชว์โลโก้บริษัทแบบที่เคยทำ

2. บทความยาว Long-form content จะเด่นบน SEO
      ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่รู้วิธีปรับแต่งเพจให้เสิร์ชเอนจิ้นแสดงเพจของแบรนด์เป็นอันดับต้นของรายการค้นหา ย้ำว่าปี 2019 เนื้อหายาวๆหรือ Long-form content จะมีภาษีดีกว่าบทความสั้นบนระบบ SEO ดังนั้นแบรนด์ที่อยากใช้ประโยชน์ในจุดนี้ ควรจะพัฒนา Long-form content ที่มีคุณภาพให้มากขึ้น จากการประเมินเบื้องต้น พบว่าเนื้อหาที่เหมาะสมที่จะทำ SEO ให้ได้ผลดีคือเนื้อหาที่มีความยาวไม่ต่ำกว่า 1,000 คำ จุดนี้แม้ว่า Google จะไม่มีการตั้งเกณฑ์ความยาวโพสต์เป็นพิเศษ แต่บทความคุณภาพที่มีความยาวมากกว่า 1,600 คำสามารถทำ SEO ได้ดีกว่าบทความคุณภาพที่มี 500 คำ จุดนี้นำไปสู่เทรนด์ปีหน้า ที่เหล่า publisher จะพยายามผลักดันให้นักเขียนสร้างสรรค์บทความที่มีคำอย่างน้อย 1,000 คำมากขึ้น บทความคุณภาพที่มีความยาวขึ้น ไม่เพียงสามารถอัดแน่นด้วยข้อมูลเชิงลึกที่จะดึงดูดชาวเน็ตให้อ่านและแชร์มากขึ้น ยังเป็นเหตุผลสำคัญให้ Google จัดอันดับหรือ rank เพจนั้นให้อยู่ในระดับที่ดีกว่าเพจเนื้อหาสั้น นำไปสู่โฆษณาที่จะหนาแน่นมากยิ่งขึ้นด้วย

3. personalized marketing เข้มกว่าเดิม
      การตลาดเฉพาะบุคคลหรือ personalized marketing ในปี 2019 จะเข้มข้นอีกระดับเพราะจะมีบริษัทจำนวนมากขึ้น หันมาตะลุยต่อยอดข้อมูลของตัวเองเพื่อใช้สร้างแคมเปญการตลาดแบบกำหนดเอง ซึ่งจะตอบความสนใจของผู้บริโภคที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าเองก็หวังให้แบรนด์ปรับแต่งข้อเสนอพิเศษและส่วนลดตามความต้องการของตัวเอง เพื่อตอบความคาดหวังส่วนนี้ ธุรกิจจำนวนมากจึงต้องทำโฆษณาและแคมเปญบนโซเชียลให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด จุดนี้มีแนวโน้มว่าแพลตฟอร์มโซเชียลจะปรับราคาโฆษณาใหม่ในปีหน้า เพราะความต้องการของแบรนด์เติบโตขึ้น

4. “วิดีโอ” ปักหลักแชมป์โฆษณา
      การสำรวจโดย Wyzowl ที่ระบุไว้ในงานวิจัยเรื่อง State of Marketing Video 2018 พบว่า 97 เปอร์เซ็นต์ของนักการตลาดยกให้วิดีโอเป็นแชมป์ของรูปแบบโฆษณาที่ได้ผลมากที่สุด เพราะช่วยอธิบายให้ผู้บริโภตเข้าใจผลิตภัณฑ์หรือบริการได้ง่ายขึ้น และ 76 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าวิดีโอช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง

     สำหรับปีหน้า สตรีมมิงวิดีโอสดจะยังขยายตัวต่อไป เพราะวิดีโอถ่ายทอดสดมีประสิทธิภาพในการดึงดูดชาวโซเชียลได้ดี ตามสถิติที่รวบรวมโดย Go-Globe คาดว่า 82 เปอร์เซ็นต์ของทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ต จะเป็นทราฟฟิกการชมวิดีโอสดในปี 2020

5. sponsored post หรือ boosted post ยังคึกคัก
     เพราะหลายแบรนด์พบว่าเนื้อหาของแบรนด์มี organic reach น้อยลง บริษัทส่วนใหญ่จึงต้องลงทุนเพิ่มเพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะได้เห็นเนื้อหาเหล่านี้ sponsored post หรือ boosted post และบทความที่ได้รับการสนับสนุนเหล่านี้จึงยังเป็นสมรภูมิที่คึกคักต่อไปในปีหน้า

      และเช่นเดียวกับปีนี้ เงินจำนวนเล็กน้อยก็สามารถทำ sponsored post หรือ boosted post ได้สบาย แนวโน้มนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องอีกหลายปี ไม่ใช่แค่ปี 2019

 

ขอบคุณแหล่งที่มา : thumbsup.in.th

โดย :
 3168
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Social Media ในยุคปัจจุบันเป็นสื่อกลางที่หลายองค์กรใช้ในการสื่อสารกับลูกค้า แต่หากใช้อย่างไม่มีทิศทางอาจเป็นการลดทอนภาพลักษณ์องค์กรให้ดูไม่ดีได้
ในปัจจุบัน คำว่า “ดิจิทัล” ได้เข้ามามีบทบาทกับนักการตลาดมากขึ้น จึงมีนักการตลาดจำนวนมากเริ่มหันมาศึกษา การตลาดแบบดิจิทัล หรือ Digital Marketing นั่นเอง
Facebook เปิดเผยสถิติน่าทึ่งเพื่อบอกให้โลกรู้ว่า โอกาสเติบโตของกลุ่มธุรกิจรายย่อยบน Facebook นั้นเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย โดยยืนยันว่าเพจในกลุ่มธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME มีการเปิดชมบน Facebook มากกว่า 645 ล้านครั้งต่อสัปดาห์

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์