5 เทรนด์สำคัญ การตลาดโรงแรมมาแรงปี 2019
เป็นธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อปี 2018 กำลังจะผ่านไป ปี 2019 กำลังจะมา พี่สมาร์ทก็อยากจะถามเพื่อนๆ ชาวคนโรงแรมว่า ได้เตรียมพร้อมสำหรับปีหน้าแล้วหรือยัง? ถ้ายัง มาเริ่มต้นจากเทรนด์การตลาดโรงแรมในปี 2019 หรือ 2562 กันดีกว่าครับ ยาวหน่อย แต่รับรองว่าอ่านจบแล้วได้ทั้งประโยชน์และไอเดียเลย
1.Offline-Online Equilibrium
เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว นักการตลาดโรงแรมค่อนข้างทุ่มงบไปกับการตลาดออนไลน์ซะเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากช่องทางการรับสื่อและคอนเทนต์ของผู้บริโภค ที่เปลี่ยนมาเสพบนโลกออนไลน์ แต่ปี 2019 จะเข้าสู่การเลือกใช้ทั้งแบบ Offline และ Online ให้เหมาะสม หรือที่เรียกว่า Omni Channel ซึ่งเป็นการสื่อสารกับลูกค้าทั้ง Offline และ Online แต่ผสมผสาน และเชื่อมโยงให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้มี Loyalty Customer มากขึ้น ซึ่งสาเหตุของเทรนด์นี้มาจากข้อมูลการเติบโตของสื่อทั้งจากสมาคมมีเดียเอเจนซีและธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย รวมไปถึงสมาคมโฆษณาดิจิทัลแห่งประเทศไทยต่างก็ชี้ตรงกันว่า สื่อดิจิทัลโตต่อเนื่องที่ 20% ทุกปี แต่สื่อเดิมอย่าง โทรทัศน์ วิทยุ และสื่อเอาต์ดอร์ เริ่มมีการเติบโตอย่างคงที่ ไม่ลดลงฮวบฮาบเหมือนตอน 3-4 ปีที่แล้ว รวมไปถึงการลงสื่อโฆษณาในเฟซบุ๊กที่มีราคาสูงขึ้น โรงแรมจึงควรปรับกลยุทธ์ทั้งการตลาดแบบ Offline และ Online ให้สมดุลกันมากขึ้น
2.Data เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ
ข้อมูลที่คุณมีจะกลายเป็นอาวุธที่จะทำให้คุณอยู่เหนือคู่แข่ง คุณจะวิเคราะห์ตลาดได้ดีขึ้น ยิงโฆษณาตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า คุณจะสามารถเก็บข้อมูลที่มีประโยชน์ และสามารถนำมันมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพหรือไม่ เพราะถึงแม้คุณมีข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็จะไม่มีประโยชน์เลย หากคุณไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนา และต่อยอดการทำ Digital Marketing ได้
3.Personalization
ไม่มีธุรกิจไหนที่ทำออกมาเหมือนกันหมด ทุกธุรกิจย่อมมีความแตกต่าง โรงแรมเองก็เช่นกัน การตอบโจทย์ให้ตรงกับโรงแรมของตัวคุณเองโดยเฉพาะจึงเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด คุณไม่สามารถโน้มน้าวให้คนทุกคน หรือคนทุกประเภทมาพักที่โรงแรมของคุณได้ แต่คุณจะต้องเฉพาะเจาะจงให้ได้ว่า คนกลุ่มไหนที่จะกลายมาเป็นลูกค้าของคุณแน่ๆ เอกลักษณ์ตรงนี้แหละที่คุณควรจะเอามาให้ความสำคัญและทำให้มันสัมพันธ์กันหมด ไม่ว่าจะเป็น Content ที่สื่อสารออกไป หน้าเว็บไซต์ และการออกแบบโรงแรม เพราะปี 2019 เทรนด์ความชอบของแต่ละบุคคลจะชัดเจนขึ้น สังเกตได้จากเด็กยุคใหม่ที่ต้องการหาความชอบของตัวเองให้เจอโดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงตัวตนและจุดยืนของตัวเอง ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดก็คงจะเป็น Facebook Group ที่รวบรวมคนที่มีความชอบและความสนใจในเรื่องเดียวกันมาอยู่ด้วยกัน ผลปรากฏว่าได้รับความสนใจและคนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่าในหน้าเพจ นักการตลาดโรงแรมจึงควรโฟกัสไปที่ความต้องการของกลุ่มลูกค้าของตัวเอง
4.Digital Transformation
ตั้งแต่ต้นปี 2018 มีหลายวงการที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เห็นได้ชัดก็คือ ธุรกิจธนาคาร ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ภาวะตลาดหุ้นโลก ธุรกิจขนส่ง แสดงให้เห็นว่า digital disruption เข้ามามีบทบาทกับทุกวงการอย่างกว้างขวาง และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ ถ้าคุณไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง สุดท้ายคุณจะถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยน Digital Transformation จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่เป็นสิ่งที่ ‘ต้องทำ’ เริ่มตั้งแต่ผู้บริหารสูงสุดของโรงแรม ที่จะต้องศึกษาเรื่องการลงทุนใน Digital อย่างจริงจัง และความท้าทายที่สุดก็คือ การเปลี่ยนพนักงานทุกคนในโรงแรมให้ปรับตัวทันโลกดิจิทัล ไม่อย่างนั้นโรงแรมของคุณอาจมีจุดจบเหมือนธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่ค่อยๆ ล้มตาย เพราะปรับตัวไม่ทันในที่สุด
5.The Heart is Content
ทุกวันนี้ Content มีมากจนคนตามเสพทุกอย่างไม่ได้ คนจึงต้อง ‘เลือก’ เสพเฉพาะคอนเทนต์ที่ตัวเองสนใจ แต่ผมยังคงยืนยันว่าคอนเทนต์นั้นสำคัญมากครับ นักการตลาดโรงแรมยังต้องทำความเข้าใจตัวตนของลูกค้าตัวเองให้มากที่สุด รู้ว่าคอนเทนต์แบบไหน หรืออะไรที่จะตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อให้เข้าไปอยู่ในใจของพวกเขาหากเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องหรือส่งมอบคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบการตลาด ก็สามารถเข้าถึงพวกเขาได้ ดีกว่าทุ่มงบการตลาดไปมากมาย แต่กลับไม่สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เลย
ขอบคุณแหล่งที่มา :www.Sogoodweb.com