วิธีการก็ไม่ยุ่งยากเลย ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th และทำตามขั้นตอนดังนี้
- ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน เพื่อเริ่มใช้งาน
- กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถของคุณเพื่อลงทะเบียน
- เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยก็สามารถเรียกดูข้อมูลภาษีรถยนต์ ภาษีค้างชำระและสถานะรถ และสามารถคลิกเลือกยื่นชำระภาษีได้รถคันที่ต้องการได้
- เมื่อเลือกรถคันที่จะชำระภาษีแล้ว จะปรากฏรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับรถ หลักฐานการเอาประกัน ตาม พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) และค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ
- เลือกวิธีชำระเงินที่ต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 วิธีคือ หักผ่านบัญชีธนาคาร ชำระที่ธนาคาร และบัตรเครดิต
- กรมการขนส่งทางบก จะส่งใบเสร็จรับเงิน เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี และกรมธรรม์ พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ให้ผู้ชำระเงินทางไปรษณีย์
- เจ้าของรถสามารถนำใบคู่มือจดทะเบียนรถไปบันทึกได้ ณ หน่วยงานทะเบียนกรมการขนส่งทางบก ทั่วประเทศ
รถที่ใช้บริการชำระภาษีออนไลน์
- รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
- รถเก๋ง รถตู้ รถกระบะ จดทะเบียนไม่เกิน 7 ปี
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จดทะเบียนไม่เกิน 5 ปี
- เป็นรถจดทะเบียนจังหวัดใดก็ได้
- รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน
ค่าบริการ
- ค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 40 บาท
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท
- ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) ร้อยละ 2 รวม Vat 7% ของค่าธรรมเนียม
ประหยัดเวลาสะดวกสบายได้มากทีเดียวกับการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ และอย่าลืมทำเป็นประจำทุกปีพร้อมตรวจสอบสภาพรถยนต์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนค่ะ
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : ditc