ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้คนไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอย่างมือถือและแทบเล็ต ทำให้คนเรานั้นสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้แทบทุกที่ทุกเวลา ด้วยความสะดวกสบายเหล่านี้ทำให้มีหลายธุรกิจบนเว็บไซต์แข่งกันผุดขึ้นมาอยู่ทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจนักถ้าแต่ละเว็บจะมีการแข่งขันดึงลูกค้ากันเป็นอย่างมาก เราจึงมีวิธีง่ายๆ ที่เราเองก็สามารถทำได้ 5 ข้อที่จะทำให้เว็บของเรานั้นดูน่าใช้และน่าสนใจแก่ผู้ที่เดินเล่นผ่านไปมาบนโลกออนไลน์
นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด เพราะในการทำเว็บย่อมต้องมีปุ่มในการกดเพื่อไปหน้าถัดไปหรือหัวข้อต่อๆ ไป โดยยิ่งข้อความนั้นสั้นกระชับได้ใจความมากเท่าไร ยิ่งดึงดูดให้ผู้เข้าชมเว็บพร้อมกดไปต่อเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจของตัวอย่างปุ่มกด 4 แบบดังนี้ Free Consultation, Submit (ตกลง), Next (ถัดไป) และ Get Started ผลการสำรวจพบว่าผู้เข้าเว็บมักจะกดปุ่มอย่าง Next และ Submit มากกว่าที่จะกดปุ่มที่ดูทำให้นึกถึงการเข้าสู่บทเรียนอย่าง Free Consultation ดังนั้นตอนเลือกคำที่จะใช้สำหรับปุ่มกดเพื่อไปหน้าถัดไป พยายามเลือกคำที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทันที และสื่อให้เห็นถึงการไปต่อข้างหน้าอย่าง Next หรือ Submit น่าจะปลอดภัยที่สุด
แถบพาดหัวบนเว็บเพจก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับหัวข้อข่าวที่พาดหัวบนหนังสือพิมพ์ที่มีเอาไว้ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านตั้งแต่แรกเห็น เพราะเมื่อผู้เข้าชมเว็บเปิดเข้ามาในเว็บของเรานั้น ก็จะเห็นเจ้าแถบพาดหัวเป็นสิ่งแรก ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเว็บของเราจะดึงดูดให้ผู้เข้าชมได้อยู่หมัดเพื่อให้พวกเขาได้ชมสิ่งอื่นในเว็บต่อ แถบพาดหัวก็ควรจะเป็นประโยคที่กระชับและเน้นจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเปิดเว็บขายรองเท้า การพาดหัวว่า “บริการส่งสินค้าทุกชิ้นถึงบ้านฟรี” ก็อาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับการพาดหัวว่า “ช้อปสินค้าสุดฮอต ราคา ต่ำกว่า 500 บาท!” ซึ่งจะตอบโจทย์ให้กับลูกค้าว่าพวกเขาเข้ามาถูกที่แล้ว
เป็นผลสำรวจที่น่าประหลาดใจเมื่อเราพบว่าเว็บที่มีเนื้อหาและการอธิบายน้อยๆ นั้นสร้างผลตอบรับได้ดีกว่าเว็บที่คอยนำทางผู้ใช้ไปเสียทุกอย่าง แน่นอนว่าคนสร้างเว็บส่วนมากล้วนมีข้อมูลและเนื้อหาดีๆ ที่อยากจะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ แต่เราก็ควรจะจำกัดสิ่งเหล่านั้นให้อยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะ เพราะเมื่อเราใส่ทุกอย่างที่คิดได้ลงไปแล้ว จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บอาจเกิดอาการสับสนกับทางเลือกที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนของเว็บเราก่อนเลย ซึ่งในกรณีที่ผู้ใช้เกิดอาการงงกับหน้าเว็บมากๆ ก็มักจะกดปิดหน้าต่างเว็บเพจเพื่อกลับออกไปภายในเวลาไม่กี่วินาทีเลยก็ได้
เป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับความจริงที่ว่าคนส่วนมากเกลียดการอ่าน ดังนั้นเวลาที่เราจะเสนอจุดขายนั้นควรหลีกเลี่ยงบทความยาวๆ ติดๆ กันโดยที่ไม่มีอะไรมาคั่นเลย และควรดึงดูดความสนใจลูกค้าด้วยการการวางหัวข้อย่อยคั่นเป็นระยะๆ ให้ดูน่าสนใจแทน โดยหลักการวางหัวข้อย่อยนั้นก็จะใช้อยู่ที่ประมาณ 4-6 จุด เป็นข้อความสั้นๆ กระชับได้ใจความ เพื่อให้ง่ายต่อย่อยของผู้อ่าน นอกจากนี้การใช้รูปภาพประกอบที่สวยงามและมีจุดดึงดูดก็ช่วยให้คนอ่านได้พักสายตาเป็นระยะๆ และพร้อมที่จะอ่านเนื้อหาส่วนอื่นๆ ต่อไป
สมมุติว่าเราเดินเข้าไปในร้านขายของที่มีแต่สินค้าวางระเกะระกะจนเดินไม่สะดวก ก็น่าจะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่อยากใช้บริการบ้างแน่ๆ ก็เหมือนกับหน้าเว็บที่มีแต่รูปภาพหรือเนื้อหารกๆ จนไม่มีที่ไหนให้น่ามองก็จะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้บริการจนต้องปิดเว็บเพจหนีไปได้เช่นกัน ซึ่งการทำหน้าเว็บให้สบายตาก็มีหลักการสั้นๆ ง่ายๆ ดังนี้
ถึงแม้ว่าทั้ง 5 กลเม็ดที่ผ่านมาอาจดูเป็นข้อแนะนำธรรมดา แต่ก็ยังมีหลายเว็บไซต์ที่ละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ เหล่านี้ ทั้งๆ ที่ทุกข้อที่ทุกหัวข้อที่กล่าวมาล้วนทำได้ง่ายนิดเดียว โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย ลองเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในเว็บ เพียงไม่กี่อย่างจะส่งผลดีกับเว็บเราได้อย่างไรบ้าง
Credit : Incquity.com