ความพอเพียงหมายถึงอะไรในการเริ่มต้นธุรกิจ

ความพอเพียงหมายถึงอะไรในการเริ่มต้นธุรกิจ

 

 

มีหลายท่านที่ปรึกษากับผมว่า “อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่มีเงินทุนไม่มากนัก จะลงทุนทำธุรกิจอะไรดี?” ผมมักจะถามกลับเสมอว่า แล้วตอนนี้มีความสนใจในธุรกิจอะไรอยู่ ทำไมถึงสนใจในธุรกิจนี้ และเรามีความรู้ ความเข้าใจในธรรมชาติของการทำธุรกิจประเภทนี้ดีพอหรือยัง คุยกันไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาถึงคำถามที่ผมมักจะถูกถามเสมอว่า “แล้วจะเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไรดี?”

 

       มีตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นทำธุรกิจของตัวเองมากมาย และก็มีตัวอย่างอีกมากมายที่ธุรกิจไม่สามารถเติบโตต่อไปได้เกินกว่าช่วงเวลา 2-3 ปีแรก คำถามคือ อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การดำเนินธุรกิจที่พึ่งเริ่มต้นขึ้นต้องสิ้นสุดลง? คำตอบส่วนใหญ่ที่พบได้คือ การขาดเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุน มีต้นทุน ค่าใช้จ่าย สูงกว่ารายได้ เงินทุนสำรองเริ่มหมดไป บางรายนำเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ มีเงินลงทุนจมไปกับสินทรัพย์ที่เกินความพอดีในการทำธุรกิจ

 

       เหมาะกับที่มีอยู่ ผมขอยกตัวอย่าง นักธุรกิจรายหนึ่ง ได้รับการสนับสนุนเงินลงทุนจากธนาคารในการก่อสร้างอาคารโรงงาน ซื้อเครื่องจักร และเป็นเงินเบิกเกินบัญชี (O/D Over Draft) เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เงินทุนที่ได้รับอนุมัติให้กู้ยืมจากธนาคารถูกใช้ไปในการเริ่มต้นธุรกิจตามแผนธุรกิจที่ได้เสนอธนาคารไว้ แต่ก็มีเงินทุนอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกใช้ไปในการซื้อสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อย่างคุ้มค่า เช่น รถยนต์ยุโรปหรูราคาแพง การตบแต่งห้องทำงานของผู้บริหารด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตบแต่งราคาแพง ด้วยเหตุผลว่า เพื่อเป็นหน้าตาและสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ เงินที่ควรถูกนำมาใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำรองในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจที่ยังไม่มีรายรับมากพอ เหลือลดน้อยลง จำเป็นต้องหากู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนอื่นที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้ในแต่ละเดือนธุรกิจแห่งนี้ต้องเผชิญกับภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงมาก ทั้งที่เป็นดอกเบี้ยของธนาคารและแหล่งเงินทุนอื่น สุดท้ายธุรกิจนี้ต้องปิดตัวลงในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 ปี

 

นักธุรกิจอีกราย มีเงินทุนอยู่จำนวนหนึ่ง ได้ลงทุนทำธุรกิจประเภทเดียวกันกับนักธุรกิจรายแรก แต่ใช้วิธีการเช่าอาคารเพื่อทำเป็นโรงงาน และเช่าซื้อเครื่องจักร แทนการใช้เงินลงทุนซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งทำให้เงินทุนที่มีอยู่ไม่จมไปกับการลงทุนในช่วงเริ่มต้น และค่อยๆ ดำเนินธุรกิจไปทีละเล็กละน้อยอย่างระมัดระวัง ตามกำลังเงินทุนที่มี ผ่านมาแล้วเป็นเวลาสิบกว่าปี วันนี้นักธุรกิจรายนี้ มีที่ดินและโรงงานเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง มีเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจ และมีรายได้ปีละมากกว่า

1,000 ล้านบาท

 

อะไรคือความแตกต่างของนักธุรกิจทั้งสองราย?

 

3 ปัจจัย 2 เงื่อนไขที่สำคัญ

 

       ทุกท่านคงเคยได้ยิน ได้อ่าน “แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสแก่ชาวไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นต้นมา และถูกพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ

 

       ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ได้รับการเชิดชูเป็นอย่างสูงจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ และสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน โดยมีนักวิชาการและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนเห็นด้วยกับแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงปรับปรุงพระราชทานเป็นที่มาของนิยาม "3 ห่วง 2 เงื่อนไข" ที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำมาใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ อยู่ในปัจจุบัน

 

พอเพียงได้เพราะมีความรู้

 

       เงื่อนไขความรู้ หมายถึง ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและการประกอบการงาน นักธุรกิจต้องแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ที่สามารถนำมาพัฒนากระบวนการดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ ควรเป็นองค์ความรู้ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมของสินค้าหรือการบริการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ

 

       นักธุรกิจต้องมีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการธุรกิจ เช่น ความรู้ทางการผลิต การตลาด บัญชีการเงิน การจัดการบุคลากร และการจัดการลูกค้าสัมพันธ์และใช้ความรู้เหล่านั้นเป็นพื้นฐานสำคัญในการตัดสินใจทางธุรกิจ ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง

 

พอเพียงได้เพราะมีคุณธรรม

 

       เงื่อนไขคุณธรรม คือ การยึดถือคุณธรรมต่างๆ อาทิ ความซื่อสัตย์สุจริต ความอดทน ความเพียร การมุ่งต่อประโยชน์ส่วนรวมและการแบ่งปัน ฯลฯ ตลอดเวลาที่ประยุกต์ใช้ปรัชญา นักธุรกิจควรมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ไม่เอาเปรียบลูกค้า พนักงาน คู่ค้า สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะสังคมชุมชนในละแวกใกล้เคียงที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเป็นองค์กรที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR)

 

       ผมไม่อยากให้ “แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เป็นเพียงกระแสที่พูดกันด้วยความไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ และ คิดกันไปว่าเป็นทางสายกลางของผู้ที่มีความสมถะ กระเบียดกระเสียร ใช้จ่ายอย่างจำกัดจำเขี่ย

 

       แต่การดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการดำเนินธุรกิจให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง ไม่ฟุ่มเฟือย ด้วยความพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดี บนเงื่อนไขของการเป็นผู้ที่มีความรู้คู่คุณธรรม ซึ่งจะทำให้เราสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

 

 

 

 

Credit : Incquity.com

โดย :
 4197
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดูแลสมาร์ทโฟนที่รักของคุณอย่างไร? ไม่ให้กลายเป็นระเบิดเคลื่อนที่ ปัจจุบันสมาร์ตโฟนได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของเราแบบขาดกันไม่ได้ เปรียบได้ดั่งขาดเธอเหมือนขาดใจ แต่จะมีสักกี่คนที่รับรู้ถึงความเสี่ยงว่าที่ถืออยู่ในมือคุณ
ยุคนี้แนวคิด Platform กำลังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรม IT แต่ในธุรกิจสินค้าและบริการเองก็สามารถสร้างให้เกิดการต่อยอดหรือแตกแขนงธุรกิจในลักษณะเดียวกันได้เหมือนกัน

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์