5 กลเม็ดปรับแต่งให้เว็บไซต์น่าเข้า

5 กลเม็ดปรับแต่งให้เว็บไซต์น่าเข้า

 

 

 ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้คนไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอย่างมือถือและแทบเล็ต ทำให้คนเรานั้นสามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้แทบทุกที่ทุกเวลา ด้วยความสะดวกสบายเหล่านี้ทำให้มีหลายธุรกิจบนเว็บไซต์แข่งกันผุดขึ้นมาอยู่ทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจนักถ้าแต่ละเว็บจะมีการแข่งขันดึงลูกค้ากันเป็นอย่างมาก เราจึงมีวิธีง่ายๆ ที่เราเองก็สามารถทำได้ 5 ข้อที่จะทำให้เว็บของเรานั้นดูน่าใช้และน่าสนใจแก่ผู้ที่เดินเล่นผ่านไปมาบนโลกออนไลน์

 

1. ปุ่ม "Submit" ต้องเข้าใจง่าย

นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด เพราะในการทำเว็บย่อมต้องมีปุ่มในการกดเพื่อไปหน้าถัดไปหรือหัวข้อต่อๆ ไป โดยยิ่งข้อความนั้นสั้นกระชับได้ใจความมากเท่าไร ยิ่งดึงดูดให้ผู้เข้าชมเว็บพร้อมกดไปต่อเท่านั้น ซึ่งจากการสำรวจของตัวอย่างปุ่มกด 4 แบบดังนี้ Free Consultation, Submit (ตกลง), Next (ถัดไป) และ Get Started ผลการสำรวจพบว่าผู้เข้าเว็บมักจะกดปุ่มอย่าง Next และ Submit มากกว่าที่จะกดปุ่มที่ดูทำให้นึกถึงการเข้าสู่บทเรียนอย่าง Free Consultation ดังนั้นตอนเลือกคำที่จะใช้สำหรับปุ่มกดเพื่อไปหน้าถัดไป พยายามเลือกคำที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทันที และสื่อให้เห็นถึงการไปต่อข้างหน้าอย่าง Next หรือ Submit น่าจะปลอดภัยที่สุด

 

2. แถบพาดหัวหรือ Header ต้องดึงดูดและสื่อสารได้ดี

แถบพาดหัวบนเว็บเพจก็ไม่น่าจะต่างอะไรกับหัวข้อข่าวที่พาดหัวบนหนังสือพิมพ์ที่มีเอาไว้ดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านตั้งแต่แรกเห็น เพราะเมื่อผู้เข้าชมเว็บเปิดเข้ามาในเว็บของเรานั้น ก็จะเห็นเจ้าแถบพาดหัวเป็นสิ่งแรก ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจว่าเว็บของเราจะดึงดูดให้ผู้เข้าชมได้อยู่หมัดเพื่อให้พวกเขาได้ชมสิ่งอื่นในเว็บต่อ แถบพาดหัวก็ควรจะเป็นประโยคที่กระชับและเน้นจุดขายของผลิตภัณฑ์ให้ได้มากที่สุด ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเปิดเว็บขายรองเท้า การพาดหัวว่า “บริการส่งสินค้าทุกชิ้นถึงบ้านฟรี” ก็อาจจะไม่น่าสนใจเท่ากับการพาดหัวว่า “ช้อปสินค้าสุดฮอต ราคา ต่ำกว่า 500 บาท!” ซึ่งจะตอบโจทย์ให้กับลูกค้าว่าพวกเขาเข้ามาถูกที่แล้ว

 

3. จำกัดเนื้อหาบนหน้าเว็บให้มีขอบเขตชัดเจน

เป็นผลสำรวจที่น่าประหลาดใจเมื่อเราพบว่าเว็บที่มีเนื้อหาและการอธิบายน้อยๆ นั้นสร้างผลตอบรับได้ดีกว่าเว็บที่คอยนำทางผู้ใช้ไปเสียทุกอย่าง แน่นอนว่าคนสร้างเว็บส่วนมากล้วนมีข้อมูลและเนื้อหาดีๆ ที่อยากจะให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ แต่เราก็ควรจะจำกัดสิ่งเหล่านั้นให้อยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะ เพราะเมื่อเราใส่ทุกอย่างที่คิดได้ลงไปแล้ว จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บอาจเกิดอาการสับสนกับทางเลือกที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนของเว็บเราก่อนเลย ซึ่งในกรณีที่ผู้ใช้เกิดอาการงงกับหน้าเว็บมากๆ ก็มักจะกดปิดหน้าต่างเว็บเพจเพื่อกลับออกไปภายในเวลาไม่กี่วินาทีเลยก็ได้

 

 

4. หารูปและหัวข้อย่อยมาคั่นเนื้อหา

 เป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับความจริงที่ว่าคนส่วนมากเกลียดการอ่าน ดังนั้นเวลาที่เราจะเสนอจุดขายนั้นควรหลีกเลี่ยงบทความยาวๆ ติดๆ กันโดยที่ไม่มีอะไรมาคั่นเลย และควรดึงดูดความสนใจลูกค้าด้วยการการวางหัวข้อย่อยคั่นเป็นระยะๆ ให้ดูน่าสนใจแทน โดยหลักการวางหัวข้อย่อยนั้นก็จะใช้อยู่ที่ประมาณ 4-6 จุด เป็นข้อความสั้นๆ กระชับได้ใจความ เพื่อให้ง่ายต่อย่อยของผู้อ่าน นอกจากนี้การใช้รูปภาพประกอบที่สวยงามและมีจุดดึงดูดก็ช่วยให้คนอ่านได้พักสายตาเป็นระยะๆ และพร้อมที่จะอ่านเนื้อหาส่วนอื่นๆ ต่อไป

 

5. ทำหน้าเว็บให้สบายตา

สมมุติว่าเราเดินเข้าไปในร้านขายของที่มีแต่สินค้าวางระเกะระกะจนเดินไม่สะดวก ก็น่าจะทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่อยากใช้บริการบ้างแน่ๆ ก็เหมือนกับหน้าเว็บที่มีแต่รูปภาพหรือเนื้อหารกๆ จนไม่มีที่ไหนให้น่ามองก็จะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้บริการจนต้องปิดเว็บเพจหนีไปได้เช่นกัน ซึ่งการทำหน้าเว็บให้สบายตาก็มีหลักการสั้นๆ ง่ายๆ ดังนี้

  • พยายามอย่ายัดทุกอย่างใส่ลงไปบนหน้าเว็บ ถึงแม้ว่าเงินค่าโฆษณาจะเย้ายวนใจสักแค่ไหน ก็ควรสร้างพื้นที่ว่างสำหรับพักสายตาบนเว็บสำหรับผู้อ่านได้บ้าง
  • ควรเลือกสีที่สบายตา หลีกเลี่ยงสีฉุดฉาดหรือสีเข้มๆ อย่างเช่น สีเหลือง สีแดง เป็นต้น รวมถึงขนาดตัวหนังสือที่ไม่เล็กเกินไปถึงขนาดต้องเพ่งมอง และไม่ใหญ่เกินจนรกมาก ซึ่งการให้ผู้เข้าใช้เป็นคนเลือกขนาดเองก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว
  • ลิงก์นำทางไปหน้าต่างๆ ควรใช้ประมาณ 4-5 แถบเพื่อให้ง่ายต่อการหา และควรใช้เมนูดรอปดาวน์มาช่วยเพือไม่ให้เมนูทั้งหมดดูรก

 

       ถึงแม้ว่าทั้ง 5 กลเม็ดที่ผ่านมาอาจดูเป็นข้อแนะนำธรรมดา แต่ก็ยังมีหลายเว็บไซต์ที่ละเลยและไม่ให้ความสำคัญกับวิธีที่สามารถทำได้ง่ายๆ เหล่านี้ ทั้งๆ ที่ทุกข้อที่ทุกหัวข้อที่กล่าวมาล้วนทำได้ง่ายนิดเดียว โดยที่ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย ลองเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในเว็บ เพียงไม่กี่อย่างจะส่งผลดีกับเว็บเราได้อย่างไรบ้าง

 

 

 

 

Credit : Incquity.com

ျဖင့္ :
 1281
ဝင္ၾကည့္သူ

ေဆာင္းပါးႏွင့္သက္ဆိုင္ေသာ

การกินและการถ่ายรูปกลายเป็นของคู่กันไปแล้วในยุคนี้ และมันคงจะดีถ้าเราจะถ่ายรูปนั้นมาแลกเป็นส่วนลดหรือรับของเล็กๆ น้อยๆ ได้โดยในตอนนี้มีบริการเกิดขึ้นแล้วโดย Kapture
ทุกวันนี้ วิธีการสื่อสารของเรานั้นดูเหมือนจะไม่ใช้การโทรศัพท์หากันอีกต่อไป แต่กลายเป็นการส่งข้อความผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือที่เรียกว่า Social Network นั่นเอง ซึ่งแนวโน้มความนิยมใช้ Social Network ทำให้เห็นว่าสิ่งนี้จะกลายเป็นสื่อหลักในการสื่อสารอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็น “ยุคของการแพร่หลายทางสังคมออนไลน์ (Social Ubiquity)” ดังจะเห็นจากรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประเทศไทยปี 2556 ของ ETDA พบว่า มีผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ถึงร้อยละ 93.8 จากจำนวนคนที่ทำการสำรวจ ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก
ปุ่มไลค์ที่ใครทุกคนต่างก็เห็นกันจนชินตา เจ้าปุ่มกดไลค์ (Like) โชว์นิ้วโป้งสีฟ้าอ่อน ๆ นี่ ผมเชื่อว่าน่าเป็นส่วนที่มีการใช้งานมากที่สุดในเฟซบุ๊กแล้วก็เป็นได้ จะไม่ให้คิดอย่างงั้นได้อย่างไรกันล่ะค่ะ เราเองเป็นคนหนึ่งที่เมื่อเห็นเพื่อน ๆ โพสต์อะไรขึ้นมาในเฟซบุ๊กไทม์ไลน์ ก็มักจะกดไลค์ให้เสมอ จนบางทีทำไปโดยแทบจะไม่ได้คิดไปแล้ว

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
Online Store ႏွင့္ဖန္တီးထားေသာဝဘ္ဆိုဒ္ အခမဲ့လုပ္ရန္