โปรดฉุกคิด การสื่อสารด้วยอีเมล์ก็ไม่ได้ดีเสมอไป

โปรดฉุกคิด การสื่อสารด้วยอีเมล์ก็ไม่ได้ดีเสมอไป

 

 โปรดฉุกคิด การสื่อสารด้วยอีเมลก็ไม่ได้ดีเสมอไป

 

 

คุณใช้เทคโนโลยี หรือ ติดเทคโนโลยี?

 

       ในชีวิตปัจจุบันของเราเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำการสนทนาให้เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้การพิมพ์ข้อความ? อย่างการ เปิดเว็บ ส่งอีเมล ตอบอีเมล ทวีตข้อความ หรือคุยกันผ่าน Facebook ฯลฯ ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้เรายังคงจะสื่อสารกันทั้งเรื่องงานและชีวิตได้ไหม?

 

       กิจกรรมกับหน้าจอจากที่เคยวางอยู่บนโต๊ะ ก็ย้ายมาอยู่บนมือมากขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน (Smartphones) แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ค ระบบการสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สายก็ทรงประสิทธิภาพขึ้น คนรุ่นใหม่มีสมาธิจดจ่อกับโลกแห่งความเป็นจริงน้อยลง และใช้เวลาอยู่กับโลกเสมือนในหน้าจอมากขึ้น เรากำลังอยู่ในยุค "ติดเทคโนโลยี" โดยอาการติดหรือจดจ่ออยู่กับสิ่งเหล่านี้นั้นรุนแรงเกือบจะเหมือนกับสารเสพติดเลยทีเดียว

 

       แม้ว่าเราอาจมองว่าปัญหาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น แต่เราน่าจะเห็นด้วยได้มากขึ้นหากจะพูดว่าเรื่องนี้กำลังส่งผลกระทบต่อผู้คนในเกือบทุกช่วงวัย เดี๋ยวนี้กลายเป็นเรื่องปรกติที่เราจะใช้งานสมาร์ทโฟนระหว่างมื้ออาหารหรือการประชุมแม้มันอาจดูเป็นการเสียมารยาทไปสักหน่อย และเด็กๆ อาจเริ่มมีโลกส่วนตัวและความลับที่เขาอยากสื่อสารกับเฉพาะกับเพื่อนๆ ไม่ใช่พ่อแม่ หรือกับเพื่อนที่ไม่ได้อยู่ในที่ทำงานเดียวกัน เส้นพรมแดนระหว่างแต่ละแวดวงสังคมที่มีเราอยู่ข้างใน กลายเป็นแผนภาพที่ทับซ้อนกันมากมายเสียจนเราแทบไม่มีช่องว่างสำหรับตัวเองอีกต่อไป... จริงอยู่ เราอาจต้องใช้มัน แต่อาการใช้กับอาการติดนั้นไม่คล้ายกันเสียทีเดียว

 

       ทั้งนี้ทั้งนั้นเราคงหนีความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ ว่าพวกเราคือคนในยุควัฒนธรรมหน้าจอ (Screenager) อย่างแท้จริง

 

ชัดเจน หรือ คลุมเครือ?

 

       ความรวดเร็วของการได้แสดงความคิดเห็น เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนเราทุกวันนี้ แต่ความแม่นยำและความสมบูรณ์แบบในเรื่องที่เล่ากลับดูน้อยลง

 

       ในอีเมลที่เรากำลังสื่อสารกัน นวัตกรรมที่ช่วยให้ความคิดของเรากระจายในวงกว้าง แสดงออกได้อย่างเสรีและประหยัดทั้งแรงเวลา นี้ดูเหมือนจะทำหน้าที่ของมันได้ชัดเจนดี แต่ต่อมาเมื่อมันถูกประยุกต์ให้เต็มไปด้วยข้อมูลพกพ่วงที่ไม่จำเป็นอื่นๆ เข้าไปด้วย มันยังคงทำให้การสื่อสารของเราบรรลุผลที่ต้องการได้จริงหรือไม่?

 

       และนอกจากนั้น กับการใช้งานที่ไม่ว่าจะปัญหาหรือความขัดแย้ง หรือแม้กระทั่งการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญแค่ไหน ปัจจุบันเราก็เคยชินกับการจัดการสถานการณ์เหล่านั้นด้วยการส่งอีเมล อีเมลกลายเป็นกลไกที่สะดวกสำหรับการหลบเลี่ยงปัญหา มันง่าย เร็ว และดูจะก่อให้เกิดความเครียดที่น้อยกว่าการสนทนาทางตรง แต่หลายครั้งเราพบปัญหาทำนองนี้ คือด้วยการคุยผ่านอีเมล กับเรื่องที่ควรจะจบได้ในการคุยกันสักสองนาที ก็บานปลายกลายเป็นการตอบกลับไปกลับมามากกว่าสี่หรือห้าฉบับ (ไม่รวมเวลาเขียนตอบที่เสียไป) และทั้งหมดนั้นยังไม่รวมเมื่อเราต้องการแก้ปัญหาที่มีความละเอียดอ่อนหรือชัดเจน อีเมลซึ่งดูจะให้ทั้งความเร็วและรายละเอียดได้มากเท่าที่ต้องการ แต่ทำไมเวลาอีเมลยาวๆ ที่อธิบายกรรมวิธีการแก้ปัญหาอย่างละเอียดกลับกลายเป็นทำให้ดูแก้ไขได้ยากขึ้น? และในทางกลับกัน ถ้าเราได้รับเพียงอีเมลสั้นๆ ที่อธิบายเรื่องนั้นอย่างย่อๆ ก็ดูเหมือนจะช่วยอะไรเราไม่ได้มากมายเหมือนกัน

 

ง่ายขึ้นแปลว่าเร็วขึ้น? 

 

       การสื่อสารแบบดิจิทัลทำให้เราโต้ตอบกลับได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งดูน่าจะให้ประสิทธิภาพในการสื่อสารที่ดีกับเราได้ แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่าบ่อยครั้งที่การรอคอยการตอบอีเมลเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้การทำงานช้ากว่าที่ควรจะเป็น ยิ่งเราต้องการให้เรื่องเสร็จเร็วมากเท่าไร อีเมลจะยิ่งทำให้ทุกอย่างช้าลงเท่านั้น ด้วยความไม่แน่นอนของเวลาที่ต้องใช้เวลาเขียน ไปจนถึงเวลาที่ต้องใช้ในการตอบ หลายครั้งการโทรศัพท์เพื่อสอบถามยืนยันความเข้าใจไปเลยก็ดูจะเป็นวิธีที่ดีกว่าไปในที่สุด

 

       อีเมลอธิบายได้ทุกอย่าง ยกเว้นอารมย์  และอุปสรรคที่ใหญ่และอันตรายที่สุดที่ทุกคนรู้ดีในการอ่านอีเมล คือความรู้สึกที่อยู่เบื้องหลังเนื้อความนั้นช่างง่ายต่อการเข้าใจผิดทิศผิดทาง ซึ่งตามปกติในการสนทนาต่อหน้าจะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น เพราะหากผู้ฟังไม่เข้าใจก็สามารถถามหรือเราเองก็แก้ไขคำอธิบายได้ในเวลานั้นทันที ซึ่งหากเป็นอีเมล เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าผู้ที่อ่านอีเมลของเรานั้นเข้าใจวัตถุประสงค์ที่เราต้องการสื่อสารจริงหรือไม่ ทั้งผู้คอยคำตอบและผู้ที่กำลังอ่านคำถามต่างมีโอกาสเกิดภาวะความเครียดสะสมสูงกว่าการสื่อสารที่จบเร็วกว่านั้นอย่างการประชุม หรือการโทรศัพท์คุยกัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้การส่งอีเมลหรือแม้กระทั่งส่งข้อความสั้นๆ กลายเป็นเรื่องก่อให้เกิดความคลุมเครือได้มากกว่าความเข้าใจ

 

       เมื่อมีความเครียดในลักษณะนี้เข้าไปเกี่ยวข้องอีเมลเป็นเพียงหนึ่งในผลผลิตของแพลตฟอร์มการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา สังคมบนโลกออนไลน์อย่าง Facebook, Twitter, Google+ หรืออื่นๆ ก็กำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราไปในทางที่ทำให้เชื่อมต่อกันได้รวดเร็วและสะดวกสบายยิ่งขึ้นไปอีก และโดยเจตนารมณ์ของผู้สร้างสิ่งเหล่านั้นก็ล้วนคาดหวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น แต่เราคงต้องยอมรับว่า ช่องทางดิจิทัลดังที่กล่าวมาอาจไม่มีวันนำมาใช้แทนที่การสนทนาทางตรง (การนั่งคุยกัน) อย่างสมบูรณ์แบบได้เลย

 

=====================================

 

       โลกเสมือนยังคงไม่สามารถแทนที่โลกแห่งความจริง โลกที่เต็มไปด้วยปัญหาที่ต้องการทั้งความจริงจังและความละเอียดอ่อนในการแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น แก่นสารของการสื่อสารผ่านสื่อเหล่านั้นก็ยังคงเป็นการทำงานกับสิ่งที่มีหัวจิตหัวใจเช่นบุคคล ดังนั้น หากเราเป็นมืออาชีพในการทำงานอย่างแท้จริง จงกล้าหาญที่จะหยุดการส่งอีเมลกับเรื่องที่มีความสำคัญ และเลือกการพบกันต่อหน้าเพื่อที่จะได้รับรู้ถึงสภาพความเป็นไป และแก้ปัญหาทุกอย่างให้ได้ด้วยการปฏิสัมพันธ์เถิด

 

       นั่นเป็นเพราะเราทุกคนต่างรู้อยู่แก่ใจดี ว่าบางครั้งการสื่อสารด้วยอีเมลก็ไม่ได้ดีเสมอไป

 

 

 

 

Credit : Incquity.com

โดย :
 2328
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

มีหลายธุรกิจลงทุนใช้งบการตลาดเป็นจำนวนมาก เพื่อหาลูกค้ารายใหม่มากกว่าการรักษาลูกค้าประจำเอาไว้ จริงที่ว่าการหาลูกค้าใหม่เป็นส่วนสำคัญในการขยายธุรกิจ แต่ถ้าหากเราสามารถรักษาลูกค้าเก่าจะยิ่งทำให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างมั่นคง นี่จึงเป็นเหตุผลที่การทำธุรกิจควรมีกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาลูกค้าให้กลับมาใช้บริการและเพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจในอนาคต
อีเมลเป็นหนึ่งในเครื่องมือทำธุรกิจที่ง่ายดายที่สุดในปัจจุบัน การเรียนรู้เทคนิคเชิงลึกของการทำตลาดด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างความแตกต่างและได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจอย่างมากเลยทีเดียว
ในปัจจุบัน การทำ Email Marketingเป็นช่องทางที่สร้างยอดขายได้มากเป็นลำดับต้นๆ ของการทำการตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นหลายเว็บไซต์ชอบมี Pop-up เพื่อการกรอกข้อมูลหน้าเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อหรืออีเมล (แนะนำ: 4 เทคนิคการทำ Lead Genaration) เพื่อที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการทำ Email Marketing ต่อไป จะมีวิธีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์