ในการตั้งรหัสผ่านนั้นมีคำแนะนำว่าควรตั้งรหัสผ่านแต่ละบัญชีที่เราใช้ให้ไม่เหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยจากการโดนแฮก แต่ปัญหาก็คือเมื่อตั้งรหัสผ่านแต่ละบัญชีไม่เหมือนกันแล้วทำให้จำรหัสผ่านไม่ได้ เสี่ยงต่อการลืมรหัสผ่านอีก เพราะฉะนั้นจึงมีตัวช่วยอย่างบริการจัดการรหัสผ่านต่าง ๆ ที่สามารถจัดเก็บรหัสผ่านทุกบัญชีของเราไว้ที่เดียว แล้วให้เราจำรหัสผ่านหลักเพียงแค่อันเดียวเท่านั้น วันนี้เราก็เลยเอา 5 บริการจัดการ Passward ดี ๆ ที่สามารถใช้ได้ฟรีมาแนะนำกัน ใครสนใจก็ลองเลือกไปใช้กันได้เลย
1. Lasspass
บริการจัดการรหัสผ่านที่สามารถใช้งานได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งแบบฟรีและพรีเมียม โดยแบบฟรีนั้นก็มีฟีเจอร์ครอบคลุมสำหรับการจัดการรหัสผ่าน เก็บรหัสผ่านของบัญชีไม่จำกัดจำนวนเว็บไซต์ไว้ในที่เดียว พร้อมช่วยแนะนำการตั้งรหัสผ่านที่เดายาก เข้าถึงได้ด้วยรหัสผ่านหลักอันเดียวจากหลายอุปกรณ์เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต กรอกรหัสผ่านให้อัตโนมัติได้ โดยมันจะปฏิเสธการกรอกรหัสผ่านอัตโนมัติกับเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้ใจ และสามารถ Export ข้อมูลรหัสผ่านออกมาได้กรณีที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้บริการอื่น ๆ สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียมก็จะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมมา เช่น การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้น, พื้นที่เก็บไฟล์บน Cloud แบบเข้ารหัส หรือตั้งให้คนไว้ใจเข้าถึงรหัสผ่านในยามฉุกเฉินแทนได้
2.Dashlane
บริการจัดการรหัสผ่านที่ถือว่าเป็นคู่แข่งกับ LassPass เพราะมีฟีเจอร์คล้าย ๆ กัน ทั้งการช่วยตั้งรหัสผ่านและการกรอกรหัสผ่านให้อัตโนมัติ สะดวก ใช้งานง่าย เข้าถึงได้จากหลายอุปกรณ์ แถมยังมีฟีเจอร์กระเป๋าเงินดิจิทัลอีกด้วย โดยจะมีทั้งเวอร์ชันฟรีและพรีเมียม ซึ่งแบบพรีเมียมจะมีฟีเจอร์ขั้นสูงเสิรมเข้ามาให้ใช้งานเพิ่มเติม อย่างเช่นสามารถแชร์และ Sync ได้ไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์ แต่ความจริงถึงแม้จะใช้งานแบบฟรีก็มีฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ครบถ้วนอยู่แล้ว
3. Loboform
อีกหนึ่งบริการจัดการรหัสผ่านฟรีที่ใช้ได้ดีที่สุด สามารถเก็บรหัสผ่านได้ไม่จำกัดจำนวน เข้าถึงได้หลายอุปกรณ์ ใช้เก็บโน้ตต่าง ๆ แบบเข้ารหัสได้ รวมทั้งฟีเจอร์การเข้าถึงรหัสผ่านแบบฉุกเฉิน นอกจากนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายากและแสนปลอดภัย พร้อมทั้งสามารถจ่ายเงินเป็นสมาชิกแบบพรีเมียมเพื่อใช้ฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ได้ และสามารถสมัครเป็นแพ็กเพจแบบครอบครัวแบ่งกันใช้ได้สูงสุด 5 คนได้ด้วยเช่นกัน
4. KeePass Password Safe
ถึงแม้หน้าตาจะดูเชย ๆ ไปเสียหน่อยแต่ก็สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนเน้นใช้งานบนคอมพิวเตอร์ สามารถใส่ USB ไปเปิดกับเครื่องไหนก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บไซต์หรือติดตั้งโปรแกรม มีระบบช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายากให้อัตโนมัติ รองรับผู้ใช้หลายคนได้ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว แถมยังสามารถติดตั้ง Plugins เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เองอีกด้วย และที่สำคัญคือฟรีไม่เสียเงิน
5. Sticky Password
บริการจัดการรหัสผ่านจากทีมงานเบื้องหลังของ AVG Antivirus จึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย เลือกใช้ได้ทั้งแบบฟรีและพรีเมียม โดยแบบพรีเมียมจะสามารถ Sync และ Backup รหัสผ่านไว้บน Cloud ได้ มีทั้งแบบจ่ายรายปีและแบบตลอดชีพ ส่วนแบบฟรีก็มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ครบครัน ทั้งการช่วยตั้งรหัสผ่านที่เดายาก ใช้ได้หลากหลายอุปกรณ์ มีระบบยืนยันตัวตน 2 ขั้น แถมยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือบนมือถืออีกด้วย สามารถ Sync ผ่าน Wi-Fi ได้ และมีเวอร์ชันสำหรับใส่ USB ด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีแบบ Extension สำหรับเว็บเบราว์เซอร์อีกด้วยเช่นกัน
ขอบคุณแหล่งที่มา : Kapook