รูปที่มีขนาดใหญ่ และ Resolution สูง ๆ จะทำให้อัพโหลด และดาวน์โหลดช้า ส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเว็บไซต์เอง ทำให้เว็บไซต์หนัก การดาวน์โหลดก็ช้าตาม แน่นอนย่อมส่งผลไปถึงประสบการณ์ผู้ใช้งาน เมื่อเจอเว็บไซต์ที่ต้องใช้เวลาในการโหลดนาน ก็ทำให้ Google ประเมินได้ว่าเว็บไซต์เรานั้น มีประสิทธิภาพต่ำในการดาวน์โหลดหน้าเพจเช่นกัน ทำให้ติดอันดับได้ยาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องย่อขนาด อาจให้เหลือเพียงพอเหมาะ ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป อาจอยู่ที่ 100-200 kb ถ้าทำได้ แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์ที่ต้องให้เห็นรูปภาพเต็ม ๆ เช่นการรีวิวกล้องมือถือ อาจย่อขนาดรูป และให้ไปดูรูปเต็มต่อในลิงก์ที่อัพโหลดรูปไว้ให้ก็ได้
ชื่อรูป คือก่อนที่เราจะอัพโหลดรูปไปในระบบ เรียกว่ามีความสำคัญมาก ๆ ต่อการทำ SEO สำหรับรูปภาพ และควรมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้น จำเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความ ถ้าชื่อไฟล์รูปมีความกำกวม แนะนำให้เปลี่ยนเสีย เช่นถ้าเป็นชื่อไฟล์รูป “บทความSEO3698” อาจลองเปลี่ยนเป็น “SEO-สำหรับรูปภาพ-หน้าปก” ทำนองนี้ จะช่วยทำให้ชัดเจนได้มากขึ้น
แน่นอนว่าคนเมื่อเห็นรูปภาพก็จะเข้าใจได้ทันที ว่ารูปนั้นเกี่ยวกับอะไร แต่สำหรับ Search Engine แล้ว หลักการทำงานต่างออกไปจากคน Alt Text คือข้อความสำหรับอธิบายรูปภาพ ว่ารูปภาพนั้นเกี่ยวกับอะไร ถ้าเอาเมาส์ชี้ไปที่รูป คำอธิบายก็จะโผล่ขึ้นมา มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชื่อและ Title ของรูปภาพเลย อาจใส่เพื่ออธิบายขยายคำให้มากกว่าชื่อรูปภาพ และอย่าลืมว่าต้องมีคีย์เวิร์ดอยู่ในนั้นด้วย
หากคุณใช้เว็บไซต์ที่เป็น SoGoodWeb ทุกครั้งที่อัพโหลดรูปลงไป ก็จะดึงมาจากชื่อไฟล์รูปเลย โดยจะมีช่องสำหรับใส่ Title ของรูปภาพ ไม่ดีเลยหากปล่อยว่างเว้นไว้เฉย ๆ ถึงแม้ว่า Title ของรูปภาพจะมีผลต่อ SEO น้อยกว่าชื่อรูปก็จริง แต่ค่อนข้างส่งผลต่อ Engagement เอาเป็นว่าใส่ลงไปด้วย ถ้ามีคีย์เวิร์ดเป็นส่วนประกอบจะยิ่งดี
แคปชันของรูป คือส่วนที่อธิบายอยู่ใต้รูปภาพว่าคือภาพอะไร หรืออาจใส่ที่มาเพื่อขยายความก็ได้ ถึงแม้ว่าส่วนที่เป็น Caption จะมีผลน้อยมากต่อ SEO ของรูปภาพ เมื่อเทียบกับ Title ชื่อรูป หรือ Alt Text ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรละเลย ใส่เข้าไปให้ครบด้วยจะดีกว่า
รูปที่สร้างสรรค์เองนั้นคือรูปที่ถ่ายขึ้นมาเอง หรือรูปที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยโปรแกรมดิจิทัล ย่อมดีกว่าการใช้รูปเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซึ่งเป็นผลดี ต่อ SEO มากกว่า แต่ถ้าคุณต้องใช้ Stock Photo ที่มีขายทั่วไป ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
จะเห็นได้ว่าวิธีที่ทำ SEO กับรูปภาพ มีความสำคัญค่อนข้างมาก ไม่แพ้การทำ SEO สำหรับการเขียนบทความเลยทีเดียว อย่างน้อยก็เป็นส่วนเสริมที่ทำให้บทความของเราติดอันดับในหน้าผลการค้นหาในหน้าแรกได้
ภาพตัวอย่าง
ขอบคุณแหล่งที่มา : ธนาคาร เลิศสุดวิชัย