1. จุดประสงค์ แน่วแน่ ว่าต้องการอะไร
หากคุณอยากประสบความสำเร็จคุณจำเป็นต้องตั้งเป้าหมาย จุดประสงค์ในการทำโฆษณา เพื่อให้การทำธุรกิจออนไลน์ ผ่านบริการ Google Adwords มีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่ให้กำหนดจุดประสงค์ มันคืออะไร ต้องกำหนดด้วยหรือ ไม่ใช่แค่ “เรื่องยอดขาย” หรือไง ??
การกำหนดจุดประสงค์ ไม่ใช่เรื่องของยอดขายอย่างเดียว เพราะไม่ใช่ทุกธุรกิจ ต้องการให้คนคลิกโฆษณามา เพื่อซื้อของ หยิบใส่ตะกร้าสินค้าอย่างเดียว อย่างถ้าเป็นของราคาสูงๆ คงอย่างที่ลูกค้าจะคลิกเข้ามาแล้วกดสั่งซื้อเลย จุดประสงค์ของเว็บไซต์ธุรกิจนั้น อาจต้องการแค่ ให้คนโหลดโบชัวร์ ทำการจอง หรือโทรศัพท์ ติดต่อสอบถาม ฉะนั้นถ้าจุดประสงค์ชัดเจน เราก็จะ กำหนดได้เลยว่า เราควรจำใช้คำ Keywords ควรใช้คำโฆษณา แบบไหน และส่งลูกค้าไปยังหน้าไหนของเว็บไซต์เรา
สมมุติว่า จุดประสงค์ของโฆษณานี้คือ การโทรศัพท์ สอบถามข้อมูลเพียงอย่างเดียว ก็เลือกการโฆษณา Google AdWords เลือกใช้ ส่วนขยายการโทร ( call extensions ) ที่คนเสริช ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าหน้าเว็บเรา แต่สามารถกดโทร จากมือถือได้ทันที
2. Bidding
การประมูลราคาค่าคลิกสำหรับการแสดงอันดับต้นๆของ Google !!
bid เป็นการตั้งจำนวนเงิน ที่ผู้ลงโฆษณากำหนดไว้ว่าสามารถจ่ายค่าคลิกในได้สูงสุดเท่าไหร่ เป็นเหมือนการประมูลค่าคลิกเพื่อการแสดงผลของหน้าค้นหา ถ้าอยากให้โฆษณาขึ้นอันดับ 1 ก็อาจจะต้อง bid สูงกว่าคู่แข่งหน่อย (ในกรณีที่คำค้นหานั้น เป็นที่นิยม) เพื่อจะได้ตำแหน่งที่สูงกว่าในการแสดงผล แต่ถ้าผู้โฆษณาไม่ต้องการ bid ในช่วงเวลานี้ เพื่อต้องการลดค่าใช้จ่าย ก็สามารถ bid ให้ต่ำลงได้เช่นกัน แต่ถ้าหากผู้ลงโฆษณาตั้งบิดไว้จำนวนนึง แต่มีคนบิดมากว่า ตำแหน่งโฆษณาก็อาจตกไปหรือไม่ได้แสดงผลเลย
อีก 1 เหตุผลสำคัญในการ Bidding ก็คือ ช่วยจำกัด ให้ค่าโฆษณาอยู่ในงบประมาณ
เช่น คุณพอใจที่จะจ่าย ค่าคลิกได้ไม่เกิน 20 บาท คุณก็สามารถกำหนดได้ ถึงจะกำหนดงบโฆษณาไว้แล้ว แต่ถ้าตั้ง Auto bid ไว้ อาจจะได้คลิกน้อย แถมยังต้องจ่ายแพงด้วย
3.Google Trends
Google Trend ทำให้รู้ว่าสินค้าและคำค้นหาไหนได้รับความนิยมอยู่บ้าง และช่วงไหนที่ไม่ได้รับความสนใจจนไม่เหมาะที่จะลงทุนหรือนำไปเป็น keywords !!
Google Trends คือบริการที่มีความสามารถตรงตามชื่อ... นั่นคือช่วยสำรวจเทรนด์หรือโพลในโลกอินเทอร์เน็ตว่า แต่ละช่วงไหนคนส่วนใหญ่ใช้คำอะไรในการค้นหา สินค้าอะไรมีผู้ค้นหามากที่สุดและไม่ได้รับความนิยม หรือเรื่องอะไร และประเด็นไหนที่กำลังได้รับความนิยมของคนทั่วโลกหรือจำนวนประชากรของเพศ ภูมิศาสตร์ เป็นต้น ถ้าหยิบข้อมูลตรงนี้มาใช้ประโยชน์ คุณก็วางแผนการตลาดได้อย่างตรงเป้าขึ้น ซึ่งหลังจากตรวจสอบเทรนด์ ก็สามารถนำไปสานต่อโดยการตั้ง keywords ให้ตรงตามกระแสในช่วงเวลานั้นหรือเพิ่มไอเดียสินค้าตามความต้องการ และยังสามารถตรวจสอบความนิยมของทั่วโลกได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นผลกำไรในการขายสินค้าระหว่างประเทศก็เป็นได้
4.Keywords Planner
การใช้Keywordsที่ดี ถือว่าแทบจะเป็นหัวใจหลักของการโฆษณาที่คุ้มค่า !!
หลังจากตรวจสอบ Google Trends เสร็จเรียบร้อย ต่อมาจะทำการวิเคราะห์คำหลักที่จะใช้ในการทำโฆษณา Keywords เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของการทำโฆษณา เพราะคำหลักที่เจ้าของธุรกิจตั้งค่า จะเป็นตัวกำหนดในการแสดงผลของเว็บไซต์ผ่านผู้คนที่ทำการค้นหาบน Google การเลือกใช้ Keyword จะต้องครอบคลุมผลิตภัณฑ์ของคุณหรือแบรนด์
ตัวช่วยวิเคราะห์คำหลัก ในการแสดงผลลัพธ์ !!
Keywords Planner เป็นตัวช่วยคำหลักในการให้ผู้คนพบเห็นเว็บไซต์ของคุณผ่านทางโฆษณา เนื่องจากคุณลงโฆษณาด้วย Keywords แต่ไม่มีผู้ค้นหาถึงแม้คำๆนั้นจะสั้นๆ ง่ายๆ แต่จำนวนคนค้นหาน้อยเกินไป หรือคำโฆษณาที่มีผู้ค้นหามาก แต่ยากที่พวกเขาจะเห็นเว็บไซต์ของคุณ Keywords Planner จึงเป็นตัวช่วยสร้างคำหลักที่สำคัญวิเคราะห์ว่า คำหรือคีย์เวิร์ดใดที่เหมาะจะใช้งานในธุรกิจของเรามากที่สุด Keyword Planner จะแสดงข้อมูลของคำค้นหาที่มีการเสิร์ช พร้อมทั้งแสดงข้อมูลทางสถิติ ดังนั้นถ้าธุรกิจคุณยังมีผู้ค้นหาไม่มากนัก ลองปรับมาใช้พร้อม Keywords Planner เพื่อเพิ่มอัตราการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณผ่าน Google Adwords และยังช่วยเรื่องการ Bidding เพราะข้อมูลที่โชว์ จะระบุทั้ง จำนวนการค้นหา จำนวนคู่แข่ง และราคา Bid ที่ควรใช้ ถือเป็น อีกหนึ่งตัวช่วย ที่คนลงโฆษณาไม่ควรละเลยเด็ดขาด
5.Google Analytics
ทำไมจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์ จะดีกว่าไหม?? ถ้าคุณสามารถทราบว่าลูกค้าของคุณพบเว็บไซต์คุณได้อย่างไร ทำอะไรบนเว็บไซต์และการกระทำนั้นส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจคุณหรือไม่ !!
Google Analytic เป็นสิ่งที่คนทำโฆษณามักมองข้าม จริงอยู่ที่มันอาจจะดูซับซ้อน เป็นเชิงวิชาการ มีแต่ตัวเลข ดูแล้วไม่เข้าใจแต่สิ่งนี้แหละครับ ที่เป็นมือขวาชั้นเอก ที่จะช่วยปรับปรุงโฆษณาGoogle AdWords ให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด
Google Analytics เป็นบริการชั้นดีในการพัฒนาและเป็นส่วนสำคัญในการหาข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า หรือเรียกได้ว่า "การสังเกตพฤติกรรมของลูกค้า" Google Analytics มีส่วนสำคัญต่อการทำ Adwords และจะส่งผลดีต่อเว็บไซต์ไปยังอีกทอดหนึ่ง เพราะGoogle Analytics ทำให้คุณเข้าใจลูกค้า เช่น มีคนเข้าเว็บไซต์กี่คน, ใช้เวลาบน site นานเท่าไหร่, ที่มาของลูกค้าเหล่านั้น, เขาออกจากเว็บไซต์คุณจากหน้าไหน, และจำนวนเว็บเพจที่ถูกเปิด ฯลฯ แถมยังดูเป็นระบบ เรียล์ไทม์ ได้ ว่าตอนนี้มีคนคลิกโฆษณามาที่หน้าเว็บไซต์ของเราแล้วกี่คน มาจาก campaign ไหนบ้าง เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มา วิเคราะห์ต่อได้ ว่าควรจะเปิด หรือ ปิด หรือปรับ โฆษณาตัวไหนบ้าง เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้มากขึ้น
สมัยนี้การทำโฆษณาออนไลน์ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็มีความยากและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ถ้าไม่รู้ลึกรู้จริง ก็ยากที่จะเอาชนะคู่แข่ง และนี่ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้น ของเจ้าของธุรกิจที่อยากประสบความเร็จต้องศึกษา และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้โฆษณาเกิดประสิทธิสูงสุด อย่ามัวแต่ช้าเพราะตอนนี้คู่แข่งคุณอาจจะแซงไปแล้วก็ได้
ขอบคุณแหล่งที่มา : ITOPPLUS