การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการตลาดออนไลน์ที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะทุกเว็บไซต์จะมีการวิเคราะห์จากระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดอันดับเว็บไซต์ ถ้าได้อันดับดี ก็จะมีความน่าเชื่อถือสูงและทำให้มีลูกค้ามากขึ้น
การทำบทความ SEO ที่ให้ข้อมูลถูกต้องและทันสมัย จะช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ดียิ่งขึ้น ซึ่งควรมีหลักการในการเขียน ดังนี้

- ไม่ควรคัดลอกเนื้อหา เพราะระบบมีการตรวจจับ Plagiarism และควรเลือก Keyword ที่เหมาะสม จากการหาใน Yahoo search และ Google Search และไม่ควรจะใส่ Keyword เกินกว่า 2-3 ครั้งในหนึ่งบทความ และต้องเขียนให้กระจายทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบ Algorithm วิเคราะห์ว่าเป็นบทความ Spam ที่ทำให้เว็บไซต์อันดับต่ำลง
- ความยาวเนื้อหาในบทความ ไม่ควรต่ำกว่า 300 คำขึ้นไป ถ้ามีความยาวถึง 1000 คำได้ ก็จะยิ่งดี เพราะสามารถใส่คีย์เวิร์ดและเขียนเนื้อหาที่น่าสนใจได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ที่อ่านบทความได้ประโยชน์มากขึ้น
- เพิ่มการใส่รูป 3-4 รูป ขึ้นไป จะช่วยให้ได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ก็ควรทำวีดีโอที่ใช้ในการกระตุ้นการขาย โดยควรจะมีแนวทางในการนำเสนอเป็นธีมเดียวกันทั้งเว็บไซต์ จะทำให้ได้รับความสนใจมากขึ้น และเพิ่มอันดับให้ดีขึ้นจากการเก็บสถิติเวลาดูคลิปของระบบ AI

- เลือกภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น เว็บไซต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ควรใช้ภาษาเป็นทางการ เว็บไซต์ขายสินค้าแฟชั่น จะต้องเขียนบทความด้วยภาษาที่สนุกสนาน เป็นต้น
- Meta-Description เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะถ้าเขียนด้วย Yoast SEO ซึ่งเป็น Plugin ของโปรแกรม Word Press จะมีช่องให้ใส่ Meta Tag เพื่อนำไปแสดงในหน้าการสืบค้น เป็นการบอกให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้ว่าถ้าคลิกเข้ามาในลิงค์แล้วจะเจอกับเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้บทความมากขึ้น
ทั้งนี้ การทำ SEO ต้องใช้เวลาในการสะสมข้อมูลให้ระบบ AI วิเคราะห์ จึงต้องมีการอัพเดตสม่ำเสมอด้วย จึงจะทำให้อันดับเว็บไซต์ดีขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การทำเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ การสร้างลิงค์เชื่อมโยงสู่เว็บไซต์อื่นๆ จึงจะทำให้อันดับใน Search Engine ดีขึ้นอย่างยาวนาน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : seolnwza
