SEO แบบไหน ที่ทำให้เว็บไซต์อันดับดี

SEO แบบไหน ที่ทำให้เว็บไซต์อันดับดี

การทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการตลาดออนไลน์ที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะทุกเว็บไซต์จะมีการวิเคราะห์จากระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการจัดอันดับเว็บไซต์ ถ้าได้อันดับดี ก็จะมีความน่าเชื่อถือสูงและทำให้มีลูกค้ามากขึ้น

 

การทำบทความ SEO ที่ให้ข้อมูลถูกต้องและทันสมัย จะช่วยให้อันดับของเว็บไซต์ดียิ่งขึ้น ซึ่งควรมีหลักการในการเขียน ดังนี้

 

  1. ไม่ควรคัดลอกเนื้อหา เพราะระบบมีการตรวจจับ Plagiarism และควรเลือก Keyword ที่เหมาะสม จากการหาใน Yahoo search และ Google Search และไม่ควรจะใส่ Keyword เกินกว่า 2-3 ครั้งในหนึ่งบทความ และต้องเขียนให้กระจายทั่วไป เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบ Algorithm วิเคราะห์ว่าเป็นบทความ Spam ที่ทำให้เว็บไซต์อันดับต่ำลง

 

  1. ความยาวเนื้อหาในบทความ ไม่ควรต่ำกว่า 300 คำขึ้นไป ถ้ามีความยาวถึง 1000 คำได้ ก็จะยิ่งดี เพราะสามารถใส่คีย์เวิร์ดและเขียนเนื้อหาที่น่าสนใจได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ที่อ่านบทความได้ประโยชน์มากขึ้น

 

  1. เพิ่มการใส่รูป 3-4 รูป ขึ้นไป จะช่วยให้ได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ก็ควรทำวีดีโอที่ใช้ในการกระตุ้นการขาย โดยควรจะมีแนวทางในการนำเสนอเป็นธีมเดียวกันทั้งเว็บไซต์ จะทำให้ได้รับความสนใจมากขึ้น และเพิ่มอันดับให้ดีขึ้นจากการเก็บสถิติเวลาดูคลิปของระบบ AI

  1. เลือกภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น เว็บไซต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ควรใช้ภาษาเป็นทางการ เว็บไซต์ขายสินค้าแฟชั่น จะต้องเขียนบทความด้วยภาษาที่สนุกสนาน เป็นต้น

 

  1. Meta-Description เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะถ้าเขียนด้วย Yoast SEO ซึ่งเป็น Plugin ของโปรแกรม Word Press จะมีช่องให้ใส่ Meta Tag เพื่อนำไปแสดงในหน้าการสืบค้น เป็นการบอกให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายรู้ว่าถ้าคลิกเข้ามาในลิงก์แล้วจะเจอกับเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้บทความมากขึ้น

ทั้งนี้ การทำ SEO ต้องใช้เวลาในการสะสมข้อมูลให้ระบบ AI วิเคราะห์ จึงต้องมีการอัปเดตสม่ำเสมอด้วย จึงจะทำให้อันดับเว็บไซต์ดีขึ้นได้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบอื่นๆ เช่น การทำเว็บไซต์ให้ใช้งานได้ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ การสร้างลิงก์เชื่อมโยงสู่เว็บไซต์อื่นๆ จึงจะทำให้อันดับใน Search Engine ดีขึ้นอย่างยาวนาน

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : seolnwza

 

โดย :
 2446
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

จากผลการศึกษาพบว่า Facebook Page ควรเว้นระยะห่างในการโพสต์อย่างน้อย 3 ชั่วโมง โดยบริษัท EdgeRank Checker ได้ทำการวิเคราะห์โพสต์มากกว่า 30,000 โพสต์จาก Facebook Page มากกว่า 500 Page โดย Page เหล่านี้มีคนกด like เฉลี่ย 140,000 ราย พบว่าอายุของโพสต์แต่ละอันนั้นมีค่าเฉลี่ย 3 ชั่วโมง 7 นาที ค่ามัธยฐาน 2 ชั่วโมง 56 นาที อายุของโพสต์นั้นทาง EdgeRank ใช้วิธีการวัดจากการที่มีคนกด Like หรือแสดงความคิดเห็นนับจากเวลาที่โพสต์ โดยเมื่อพ้นไปจาก 3 ชั่วโมงแล้วการโต้ตอบจากผู้ชมจะเหลือน้อยลงไปมากจึงสรุปว่าโพสต์หมดอายุของมันนั่นเอง
เมื่อยตา ปวดตา ตาล้า ตาแห้ง แสบตา เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบัน กำลังมีปัญหาเรื่องสายตาที่ต้องใช้ในการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต เพื่อใช้ทำงานเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดตา เมื่อยตา ตาล้า ตามัว ตาแห้ง ซึ่งอาจส่งผลร้ายในระยะยาวได้ถึงอาการปวดหัว ปวดหลังเรื้อรัง วันนี้มีวิธีถนอมสายตามาฝากค่ะ ถ้าอยากรู้แล้ว ไปดูกันเลยค่ะ
คนไทยใช้ LINE มากกว่า 33 ล้านคน เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน Line ไม่ใช่แค่ Application Chat รับส่งข้อความธรรมดา แต่เป็นอีกช่องทางของการทำการตลาดออนไลน์ (Line Marketing) เพราะมี Platform ที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างธุรกิจ มีจุดเด่นอยู่ตรงที่เจ้าของแบรนด์สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง โดย NHN และ LINE Thailand ได้เปิดช่องทางให้แบรนด์เข้าร่วมการทำ Line Marketing ผ่าน LINE 3 ช่องทาง คือ

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์