Start-Up และ SMEs สองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร?

Start-Up และ SMEs สองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร?

     เมื่อพูดถึงธุรกิจยุคใหม่ที่ผ่านมา ใครๆ ก็พูดถึง "Start-Up"  ที่มีภาพลักษณ์ คือคนที่ทำธุรกิจจากไอเดียเจ๋งๆ คูลๆ แต่เมื่อพูดถึงธุรกิจขนาดเล็กที่คุ้นหูอยู่เมื่อหลายปีก่อนอย่าง "SMEs" ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า Start-Up และ SMEs ต่างกันอย่างไร SoGoodWeb จึงพาไปดู 5 จุดที่แตกต่างระหว่าง Start-Up และ SMEs ที่ทำให้หายสับสน และเข้าใจลักษณะการทำงานของธุรกิจทั้ง 2 แบบนี้มากขึ้น

  •  จุดที่ 1 : การเริ่มต้นของธุรกิจ 

สตาร์ทอัพ: เป็นธุรกิจเริ่มต้นจากแนวคิดและไอเดียอะไรบางอย่างเพื่อตอบสนองความต้องการของคน หรือแก้ปัญหา หรือ pain point บางอย่างในสังคม ซึ่งไอเดียเหล่านี้จะต่อยอดไปเป็นรายได้รูปแบบต่างๆ ในภายหลัง

เอสเอ็มอี: เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ที่เริ่มต้นธุรกิจที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรมมากกว่าสตาร์ทอัพ เนื่องจากมักจะเป็นการให้บริการ หรือขายสินค้า ที่ส่วนใหญ่จับต้องได้ใช้งานทั่วไป โดยมีไอเดียในการสร้างสินค้าใหม่ๆ หรือการสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจเข้ามาส่งเสริมกับสินค้าและบริการที่มีอยู่ให้เติบโตเป็นรายได้

 



  •  จุดที่ 2 : การเติบโตของธุรกิจ 

สตาร์ทอัพ: การเติบโตของสตาร์ทอัพ มีความแตกต่างจากเอสเอ็มอีที่ชัดเจน โดยการเติบโตของธุรกิจลักษณะนี้คือการระบบการจัดการธุรกิจที่สามารถทำให้เติบโตได้เรื่อยๆ และก้าวกระโดดต่อไปได้เอง โดยไม่ต้องขยายกิจการหรือลงทุนใหม่ ซึ่งสตาร์ทอัพมักจะมีตัวชี้วัดผลงานที่สะท้อนความสำเร็จในขั้นต่างๆ และไม่จำเป็นที่ต้องเป็นผลประกอบการของธุรกิจเสมอไป 

เอสเอ็มอี: การเติบโตของเอสเอ็มอี จะเป็นการเติบโตแบบคงที่ โดยแนวโน้มการเติบโตมักเป็นไปตามการขยายกิจการ เพิ่มสาขา เพิ่มจำนวนบุคลากร เพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ฯลฯ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจจะเติบโตตามความนิยมจากผู้ซื้อหรือผู้ใช้สินค้าและบริการ โดยดัชนีชี้วัดการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี คือรายได้และผลกำไร 

 



  •  จุดที่ 3 : แนวคิดในการทำธุรกิจ 

สตาร์ทอัพ: แนวคิดของธุรกิจสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ จะเริ่มต้นมาจากการต้องการแก้ปัญหาบางอย่างในสังคม ต้องการลดเพนพ้อยต์ที่ตัวเองประสบปัญหา หรือหาโอกาสจากช่องว่างทางธุรกิจที่มีอยู่เพื่อให้กลายเป็นบริการที่สามารถแก้ปัญหานั้นๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องออกมาในรูปแบบของสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น เป็นแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ เป็นระบบที่ซ่อนอยู่ในบริการต่างๆ เป็นต้น โดยมีสร้างรายได้จากการให้บริการที่ต่อเนื่อง

เอสเอ็มอี: แนวคิดของธุรกิจของเอสเอ็มอี คือการทำรายได้จากสินค้าหรือบริการที่มีอยู่ ซึ่งยิ่งสินค้าและบริการได้รับความนิยมมากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสสร้างรายได้มากตามไปด้วย

 



  •  จุดที่ 4 : เงินทุนที่ใช้ในการสร้างและหมุนเวียนในธุรกิจ 

สตาร์ทอัพ: จุดเด่นของสตาร์ทอัพ คือมีแหล่งเงินทุนจากการระดมเงินทุน (Crowdfunding) จากบุคคลหรือบริษัทที่สนใจในไอเดียธุรกิจที่มีอยู่ โดยนำเงินที่ระดมทุนได้มาดำเนินการตามแผนที่ตั้งไว้ เช่น ลงทุนในระบบต่างๆ จ้างคนช่วยทำระบบ ซึ่งจุดหมายปลายทางคือทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ก่อนปันผลคืนผู้ที่ลงทุนเมื่อทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจกลุ่มนี้มีสัดส่วนของคนที่ประสบความสำเร็จต่ำมาก

เอสเอ็มอี: เงินทุนเริ่มต้นกิจการของเอสเอ็มอี มักจะมีแหล่งที่มาสินเชื่อ เครดิต จากสถาบันการเงิน หรือเป็นเงินลงทุนจากเงินส่วนตัว หรือหุ้นส่วน เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจแล้วค่อยแบ่งผลประโยชน์ให้หุ้นส่วนที่ร่วมลงทุน

 



  • จุดที่ 5 : การใช้เทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจ

สตาร์ทอัพ: ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจในการตอบสนองแนวคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ หรือความต้องการของผู้คนให้เกิดขึ้นได้จริง เช่น เทคโนโลยี IoT (Internet of Things), AI, Machine Learning ฯลฯ เช่น Uber เป็นบริษัท Startup ผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน เรียกรถแท๊กซี่ ใช้เวลา 6 ปีในการพัฒนาธุรกิจ จนเป็นแอพพลิเคชั่นรถแท๊กซี่อันกดับหนึ่งของโลก ที่ได้รับการประเมินว่า มีมูลค่าธุรกิจสูงกว่า 68,000 ล้านดอลลาร์

เอสเอ็มอี: ใช่ว่าจะใช้เทคโนโลยีแล้วธุรกิจจะจัดไปอยู่ในกลุ่มสตาร์ทอัพเสมอไป กลุ่มเอสเอ็มอีก็มีการใช้เทคโนโลยีเช่นกัน แต่จะใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ ไม่ใช่เป็นจุดขาย เช่น นำเทคโนโลยีมาช่วยจัดการระบบคิวให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ในเทคโนโลยีในการสื่อสารมาช่วยประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ใช้เทคโนโลยีการผลิตเข้ามาช่วยทำให้สินค้ามีคุณภาพมากขึ้น และผลิตได้รวดเร็วขึ้น เป็นต้น

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : bangkokbanksme

โดย :
 938
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราได้เห็นงานออกแบบ flat design มามากมายเหลือเกินในช่วงเวลานี้ ซึ่งถือว่าเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมสุดๆ ซึ่งมันคงไม่ใช่แนวการออกแบบที่จะได้รับความนิยมในช่วงสั่นๆ อย่างแน่นอน แต่คาดว่ามันจะยังได้รับความนิยมไปอีกนานซึ่ง flat design มันจะต้องมีความสมดุลกันระหว่าง ความสวยงามและการใช้งาน ถ้าเราควบคุมสองสิ่งนี้ได้มันจะกลายเป็นงานที่มีพลังที่สุด
Google Analytics เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจในการนับสถิติ แถมยังสามารถระบุเพศ อายุได้ บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนการติดตั้ง Google Analytics ทีละขั้นตอนเพื่อให้ผู้เริ่มต้นสามารถติดตั้งเองได้
การให้บริการ เว็บโฮสติ้งของเรานั้นจะเน้นให้ความสำคัญทางด้านความปลอดภัย และความเร็วในการเข้าถึง ทางเราจึงจำกัดเว็บไซต์ที่อยู่ในเครื่อง 1 เครื่องไม่ให้มากจนเกินไป และทางเรายังมีทีมงานที่คอยดูแลในส่วนของ เว็บโฮสติ้ง ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะคอยปรับปรุงแก้ไขให้ เว็บโฮสติ้ง ของเรานั้นปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้ ทางเรายังใช้ INET Data Center เป็นที่วางเครื่อง Server เพราะเป็น Data Center ที่ดีที่สุดในประเทศซึ่งดูได้จากองค์กรใหญ่ๆ เช่น Settrade.com (ตลาดหลักทรัพย์), Kapook.com, Pantip.com และเว็บดังๆอีกมากมาย

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์