FOMO เป็นคำย่อมาจาก Fear Of Missing Out ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
ช่วงเวลานาทีทอง
การตั้งเงื่อนไขพิเศษในช่วงเวลาที่จำกัด จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะมีความกดดันจากเวลาที่ลดลงไปเรื่อยๆ โดยเรามักจะเห็นดีลที่ขึ้นเวลานับถอยหลังให้เห็นกันชัดๆ ร้านอาหารก็สามารถนำเทคนิคนี้มาปรับใช้ได้เช่นกัน ทั้งการจำกัดระยะเวลาการส่งฟรี หรือช่วงเวลาที่จัดโปรโมชั่น ตัวอย่างเช่น
ซึ่งการตั้งช่วงเวลาแบบนี้ ควรจะตรงเวลาตามที่ระบุกับลูกค้า เพราะการยืดเวลาออกไปจะทำให้ลูกค้ารู้สึกถูกหลอกได้ ดังนั้น เมื่อหมดช่วงเวลาจึงควรหยุดข้อเสนอและเปลี่ยนราคาทันที
สร้างความรู้สึกในการพลาดโอกาส
ภาษาที่ใช้ในการโฆษณา ก็เป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการควรเลือกใช้คำที่จะสร้างความรู้สึกแบบ FOMO หรือคำที่ให้ความรู้สึกว่าสินค้ามีจำกัด และกำลังจะหมดลงไป เช่น จำนวนจำกัด พลาดไม่ได้ นาทีทอง โอกาสพิเศษ โปรโมชั่นพิเศษ หรือประโยคอื่นๆ เพื่อสื่อสารกับลูกค้าว่าต้องซื้อตอนนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเสียใจ
นอกจากนี้ อาจจะมีการขึ้นแจ้งเตือนโปรโมชันในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ที่ลูกค้าพลาดไปแล้ว ซึ่งการแจ้งเตือนโปรโมชันที่ลูกค้าไม่ได้รับนี้ จะมีผลช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ารีบซื้อมากขึ้นในโอกาสหน้า เพราะกลัวที่จะพลาดไปอีกครั้ง
โอกาสครั้งที่สองพลาดไม่ได้
ต่อจากข้อที่แล้ว ทุกคนควรได้รับโอกาสเพิ่มเติม โดยเฉพาะโอกาสในการซื้ออาหารจากร้านของเรา เมื่อพลาดโอกาสแรกไปแล้ว ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะถูกกระตุ้นจากการที่ไม่ได้รับในครั้งแรก แต่โปรโมชันของร้านแต่ละครั้ง ไม่ควรเหมือนกันจนเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อในครั้งแรกไม่รู้สึกสนใจ และความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อลดน้อยลง
จ่ายเท่าเดิม เพิ่มเติมของแถม
แน่นอนว่าของฟรีใคร ๆ ก็ชอบ ดังนั้น อีกกลยุทธ์พื้นฐานที่พบบ่อยก็คือ การมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกค้า หรือการเพิ่มปริมาณหรือจำนวนอาหารให้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงช่วยมีโอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้มากขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การบริหารจัดการต้นทุนที่ดี
ทำให้ลูกค้าเป็นคนพิเศษ
ทุกคนย่อมรู้สึกดีที่ได้รับความใส่ใจ การจัดโปรโมชั่นลูกค้าใหม่ โปรโมชั่นเฉพาะสมาชิก หรือลูกค้าประจำของร้านในช่วงเวลาที่กำหนด ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ได้เช่นกัน และเป็นการเจาะจงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย
หลักจิตวิทยาการตลาด หรือ FOMO marketing นี้อาจจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไม่ควรใช้ถี่จนเกินไป หรือใช้คำโฆษณาที่ดูเกินจริง เพราะจะเป็นการทำให้ภาพลักษณ์ของร้านดูไม่ดี และลูกค้าอาจจะเกิดรู้สึกว่าถูกหลอกได้
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : amarinacademy