การเดาและการคิดเอาเอง (ภาษาวัยรุ่นเรียก “จิ้น”) ว่ากลุ่มผู้รับสารของคุณเป็นใครนั้นไม่ healthy ต่อธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน ลองสุ่มเข้าไปเช็คลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บของคุณว่าเขาเป็นคนอย่างไร จะสามารถติดต่อได้อย่างไร และมีใครเป็นเพื่อนบ้างบนโลกโซเชียลเนคเวิร์กเมื่อศึกษาระยะหนึ่งคุณจะสามารถบอก common characteristic หรือลักษณะบุคลิกร่วมบางอย่างของ
ผู้บริโภคและนำมันไปเป็นฐานในการวิเคราะห์ data ต่างๆ ในอนาคต
ลองสอบถามแบบตรงๆว่าทำไมลูกค้าของคุณถึงเกิดไอเดียอยากร่วมธุรกิจกับคุณขึ้นมา ทำไมคุณถึงชนะคู่แข่ง คำตอบของพวกเขาจะมีคีย์เวิร์ดให้คุณทราบว่าสินค้าหรือบริการต่อไปของคุณควรก้าวไปทางไหนและยังอาจบอกจุดอ่อนของคุณที่ต้องแก้ไขในอนาคตนอกจากนี้คุณยังอาจเลียนแบบภาษาที่ลูกค้าใช้เพื่อมาใส่ในงาน digital marketing ชิ้นต่อไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย
รู้จัก purchasing path(กระบวนการซื้อสินค้าหรือบริการ) ของลูกค้าและเจาะให้ได้ว่าเขานิยมรับข้อมูลจากไหน แหล่งที่คุณจะหา
คำตอบนี้ได้มีหลายวิธี เช่น คุณอาจหาทำแบบสอบถามตรงไปหาผู้บริโภคหรือหาข้อมูลทั่วไปในอุตสาหกรรมของคุณมาเป็น
ตัวอ้างอิงเมื่อคุณหาทางแทรกเข้าไปอยู่ในแหล่งข้อมูลเหล่านั้นได้จงทำให้ข้อมูลของตัวเองโดดเด่นน่าเชื่อถือและหาที่อื่น
ไม่ได้ไม่ควรชมหรือติสินค้าของตนเองมากเกินไปควรแสดงออกแต่พอสมควร
หมดยุคแล้วสำหรับการอ่านสื่อทางเดียว (One way communicated media)ที่ผู้บริโภคไม่สามารถคลายข้อสงสัยอะไรได้ การให้ข้อมูลต่อไปของแบรนด์จะเริ่มอยู่ในรูปของบทสนทนามากขึ้นบน Twitter, Facebook, Forums, Linkedln และอื่นๆ พยายาม engage ผู้บริโภคให้ได้ผ่านบทสนทนาที่น่าฟัง การตอบคำถามที่เคลียร์และจริงใจ สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้คุณขายของได้แล้วยังทำให้แบรนด์ของคุณ be human ขึ้นมาถนัดใจ
Credit : www.marketingoops.com
By : www.SoGoodWeb.com