รวมแหล่งไอเดีย หาแรงบรรดาลใจในการออกแบบเว็บไซต์!!

รวมแหล่งไอเดีย หาแรงบรรดาลใจในการออกแบบเว็บไซต์!!




การหาไอเดียสำหรับการออกแบบเว็บไซต์เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจและแตกต่างได้ นี่คือแหล่งที่คุณสามารถหาแรงบันดาลใจ:

  1. Behance: เป็นแพลตฟอร์มที่นักออกแบบจากทั่วโลกใช้แบ่งปันผลงานของพวกเขา คุณสามารถค้นหาโครงการออกแบบเว็บไซต์ที่ได้รับการตีพิมพ์และได้รับรางวัลมากมาย

  2. Dribbble: ชุมชนนักออกแบบที่แบ่งปันผลงานสร้างสรรค์ของพวกเขา มีผลงานออกแบบเว็บไซต์ โลโก้ แอปพลิเคชัน และอื่น ๆ มากมาย

  3. Awwwards: เว็บไซต์นี้รวมเว็บไซต์ที่มีการออกแบบยอดเยี่ยมและได้รับรางวัล คุณสามารถดูงานออกแบบที่ได้มาตรฐานสูงจากทั่วโลก

  4. Pinterest: เป็นแพลตฟอร์มที่มีการรวบรวมรูปภาพต่าง ๆ รวมถึงการออกแบบเว็บไซต์ คุณสามารถสร้างบอร์ดสำหรับบันทึกไอเดียที่คุณชอบ

  5. SiteInspire: เว็บไซต์นี้เน้นการนำเสนอเว็บไซต์ที่มีการออกแบบที่สวยงามและน่าสนใจ คุณสามารถกรองการค้นหาได้ตามหมวดหมู่ เช่น ประเภทของเว็บไซต์ หรือสไตล์การออกแบบ

  6. Designspiration: คล้ายกับ Pinterest แต่เน้นเฉพาะด้านการออกแบบ มีหมวดหมู่ที่หลากหลายรวมถึงการออกแบบเว็บไซต์

  7. Land-book: เว็บไซต์ที่รวบรวมตัวอย่างหน้าแรก (Landing Page) ที่โดดเด่นจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำให้คุณสามารถดูแนวทางการจัดวางองค์ประกอบและสีสันได้

  8. CSS Design Awards: เว็บไซต์นี้แสดงผลงานออกแบบที่ได้รับรางวัลจากผู้เชี่ยวชาญในวงการออกแบบเว็บ มีการคัดเลือกเว็บไซต์ที่มีการออกแบบและฟังก์ชันที่ดีเยี่ยม

การดูผลงานจากแหล่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้แรงบันดาลใจและเห็นเทรนด์การออกแบบล่าสุดที่อาจนำมาใช้ในโปรเจกต์ของคุณเองได้

ส่วนท่านไหนสนใจเว็บไซต์สำเร็จรูป ที่มีเทมเพลตเว็บไซต์ให้เลือกมากว่า 100 เทมเพลต  โดยไม่ต้องออกแบบเองแค่เลือกเทมเพลตที่คุณชอบก็สามารถเริ่มสร้างเว็บไซต์ได้เลย   

ก่อนตัดสินใจซื้อ คุณสามารถทดลองใช้งานเว็บไซต์สำเร็จรูปได้ฟรี 30 วัน
>>> คลิก!!วิธีสมัครทดลองใช้งานเว็บไซต์สำเร็จรูป SoGoodWeb <<<

สนใจซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์สำเร็จรูป : คลิก!!ค่าบริการเว็บไซต์สำเร็จรูป
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :
โทรศัพท์ : 081-358-0056, 081-358-0058, 02-402-6136
อีเมล : contact@sogoodweb.com
Line : @sogoodweb

โดย :
 135
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมื่อเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงในการศึกษาเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่าปีที่ผ่าน ๆ มา สถาบันการศึกษาทั่วโลกต่างพากันลงทุนจำนวนมากกับเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนเข้าถึงหลักสูตรต่าง ๆ มากขึ้น ดังนั้น แน่นอนว่าแนวโน้มการศึกษาในปี 2017 จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี "ประชาชาติธุรกิจ" จึงรวบรวมแนวโน้มการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ไว้ดังนี้ เยสคอร์ส (YesCourse) ผู้สร้างแพลตฟอร์มการกระจายการศึกษาออนไลน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ให้สถาบันการศึกษาทั่วโลกได้ขายหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ของตน โดยปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3,500 สถาบันการศึกษาระบุว่า ในปีที่ผ่านมาการศึกษาออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาอย่างมาก และเป็นตัวเสริมให้การศึกษาแบบดั้งเดิมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนจากทุกที่ แต่ในปี 2017 ระบบการเรียนออนไลน์แบบเสมือนจริง Virtual Reality (VR) จะกลายเป็นกระแสหลักมากขึ้น ซึ่งเราอาจได้เห็นและได้ยิน VR ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มาแล้ว เช่น การบิน การทหาร และเกม แต่ในอนาคต VR จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา เพราะเป็นเครื่องมือที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งทำให้ผู้ใช้เกิดการรับรู้และตื่นตัวในการเรียนรู้มากขึ้น แนวโน้มต่อมา คือ Cloud Migration หรือการเคลื่อนย้ายฐานข้อมูลต่าง ๆ สู่คลาวด์ ซึ่งสถาบันการศึกษานำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงระบบไอทีของตนเองสู่ระบบคลาวด์มากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลที่ลดความยุ่งยากในการติดตั้ง การดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายเอง ซึ่งผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต จัดการบริหารทรัพยากรของระบบ และสามารถแบ่งทรัพยากรร่วมกันได้ง่าย อีกหนึ่งแนวโน้มที่ YesCourse พูดไว้ คือ การวิเคราะห์เชิงทำนาย (Predictive Analytics) และการเรียนเชิงทำนาย (Predictive Learning) ซึ่งในทุก ๆ ครั้งที่ผู้เรียนมีการโต้ตอบกับโปรแกรมการศึกษาออนไลน์ พวกเขาทิ้งรอยดิจิทัลไว้ (Digital Footprint) สิ่งนี้ทำให้สถานศึกษา และครูผู้สอนสามารถใช้ทำนายเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียน และสามารถปรับเปลี่ยนหลักสูตรได้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนและเหมาะสม นอกจากนั้นยังเป็นข้อดีต่อการเตรียมความพร้อมของสถาบันการศึกษาในการพัฒนาบุคลากร เตรียมพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ทันท่วงที ส่วนเว็บไซต์ Pathway to Financial Success บอกว่า แนวโน้มการศึกษาจะเข้าสู่ยุค The Internet of Things (IoT) เพราะอินเทอร์เน็ตเกี่ยวข้องกับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์โฟน โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรียนรู้มากขึ้นทุกวัน โดยบริษัทการ์ตเนอร์ (Gartner Inc.) ทำนายว่า ในปี 2020 จะมีอุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ เชื่อมต่อกันไม่ต่ำกว่า 20.8 ล้านล้านชิ้นทั่วโลก ดังนั้น รัฐบาลแห่งประเทศอังกฤษจึงทุ่มงบฯลงทุนด้านการวิจัยและศึกษาด้าน IoT ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้เรียนได้รับประโยชน์จาก IoT ได้แก่ ส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกัน (Collaborative Learning), รู้จักการแก้ไขปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นหลัก (Problem-based Learning), กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองและยั่งยืน (Self-directed Learning), ส่งเสริมเรียนรู้ผ่านพหุประสาทสัมผัส (Multisensory Learning), สร้างความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (Gender Equality) และสร้างห้องเรียนอัจฉริยะ (Creating Smart Classroom) นอกจากนั้น Real-World Case Studies หรือกรณีศึกษาจากโลกแห่งความจริงจะเข้มข้นมากขึ้นในทุกวิชา เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้เรียน และเห็นภาพได้ชัดเจนกว่าข้อมูลในตำรา กรณีศึกษาในโลกแห่งความจริงยังเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้เรียนต้องการแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียน ในขณะที่ "บิล เกตส์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และเป็นผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลวิเคราะห์ไว้ว่า ค่าใช้จ่ายการศึกษาจะน้อยลงและทุนการวิจัยจะมากขึ้น "เป็นที่รู้กันว่างานวิจัยเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการต่อยอดการศึกษา แต่ที่ผ่านมานักวิจัยหลายคนต่างต้องวิ่งเต้นหาทุนวิจัย และหาการสนับสนุนจากรัฐบาล แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา โดยผู้เรียนสามารถเรียนได้ฟรีจากระบบการศึกษาที่เรียกว่า MOOCs (Massive Online Open Courses) จึงส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเรียนน้อยลง ผู้เรียนสามารถมีทุนวิจัยของตนเอง" "ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้สอนจำนวนมากเหมือนแต่ก่อน ไม่ต้องสร้างห้องเรียนหรืออาคารเรียน เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเป็
เป็นธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อปี 2018 กำลังจะผ่านไป ปี 2019 กำลังจะมา พี่สมาร์ทก็อยากจะถามเพื่อนๆ ชาวคนโรงแรมว่า ได้เตรียมพร้อมสำหรับปีหน้าแล้วหรือยัง? ถ้ายัง มาเริ่มต้นจากเทรนด์การตลาดโรงแรมในปี 2019 หรือ 2562 กันดีกว่าครับ ยาวหน่อย แต่รับรองว่าอ่านจบแล้วได้ทั้งประโยชน์และไอเดียเลย
แนวโน้มการออกแบบนั้นจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเสมอไม่ว่าจะเป็น การใช้สี การใช้กราฟิกในงานออกแบบ การใช้ฟ้อนต์ต่างๆ รวมไปถึงการใช้ภาพ ในงานออกแบบด้วย วันนี้ทีมงาน SoGood จะพาไปเรียนรู้เทรนด์ การใช้ภาพแห่งปี 2015 ที่ นักออกแบบ ทุกคนควรจะต้องเรียนรู้เพื่อปรับใช้ในงานออกแบบให้ดีขึ้นกว่าเดิม

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์