ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดมืออาชีพ หรือเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทำตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง บางคนอาจมีไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา บางคนต้องฝึกฝนจนกว่าจะเก่ง สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องมีเหมือนๆ กันคือ ความเป็นมืออาชีพ สวมวิญญาณนักการตลาดออนไลน์ มาดูกันว่า 10 ลักษณะที่จำเป็นต้องมีในการทำตลาดออนไลน์คืออะไร
การตลาดออนไลน์ก็เปรียบเหมือนกับภาพปริศนาชิ้นใหญ่ ที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะการทำ SEO, การใช้คีย์เวิร์ด, link-building รวมถึงเทคนิคต่างๆ และรู้จักการใช้ Social media อย่างเข้มข้น ทุกอย่างต้องใช้ประสบการณ์ ซึ่งนักการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จจะต้องผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เมื่อคุณเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันได้แล้ว ก็มีโอกาสที่การทำการตลาดของคุณจะประสบความสำเร็จ
การทำตลาดออนไลน์ในปัจจุบันอาจดูรวดเร็ว วันสองวันก็เห็นผลตอบรับ แต่ก็ไม่ใช่ทุกกรณี แม้ว่าแคมเปญของคุณอาจไม่เห็นผลใน 1 เดือน หรือ 1 ปี คุณก็ต้องพร้อมที่จะทำงานอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่เป้าหมายโดยไม่สูญเสียความตั้งใจ บางครั้งผลตอบรับในระยะสั้นก็อาจทำให้เราหมดกำลังใจได้ง่าย แต่ถ้าคุณอดทน ผลลัพธ์ก็จะคุ้มค่ากับการรอคอย
ทั้งการทำ SEO, Google AdWords และยังมี Social Media ที่เกิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณต้องเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ติดตามข่าวสารในแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานสัมมนา และอย่าลืมสร้างสัมพันธ์กับคนในวงการเดียวกันด้วย
แม้จะมีความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว ก็ต้องมากกว่าเดิม เพื่อให้สื่อสารสิ่งต่างๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น สำหรับการทำตลาดออนไลน์ ความน่าเชื่อถือจะอยู่ที่การถูกพูดถึง ถ้าโดนตำหนิ หรือพบข้อผิดพลาด ก็ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ที่มา : news.thaiware.com/upload_misc/news/2016_07/images/8307_160729112338c3.jpg
นักการตลาดออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะว่าจ้างหน่วยงานภายนอก หรือฟรีแล้นซ์ เพื่อให้พวกเขาทำงานบางอย่างให้ เพราะมันเป็นเรื่องยากที่คนๆ เดียวจะเก่งทุกอย่าง อาทิ การเขียน การสื่อสาร การใช้ Social Media, การทำ SEO ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ทำให้นักการตลาดต้องมีทักษะการบริหารจัดการเพื่อนร่วมงาน รวมถึงต้องรู้จักสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นคนรอบข้างให้มีกำลังใจทำงานจนเสร็จได้
หน้าที่สำคัญของนักการตลาดคือ การสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ด้วยการวางแผนและสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแบรนด์ พวกเขาจะลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่พูดเรื่อยเปื่อย ยิ่งแคมเปญประสบความสำเร็จมากเพียงใด ลูกค้าก็จะรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น นักการตลาดออนไลน์จึงต้องรู้จักสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว ตอบสนองพวกเขาให้มากกว่าที่ต้องการ เพราะสุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ของคุณกับลูกค้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ
การสื่อสาร ถือเป็นทักษะที่นักการตลาดออนไลน์ทุกคนควรมี ซึ่งทักษะการสื่อสารนี้ไม่ได้หมายถึงการเขียน หรือการพูด แต่หมายถึง การสื่อสารอย่างชัดเจน และมีความเป็นมืออาชีพ คุณต้องถ่ายทอดความคิด ให้ลูกค้าและทีมของคุณเห็นภาพ นอกจากนี้ ทักษะเรื่องการฟังก็สำคัญเช่นกัน การรับฟังมุมมอง และความคิดจากคนอื่นจะช่วยให้คุณพัฒนาตัวเองได้มาก
ถ้าให้อธิบายความฝัน หลายๆ คนคงเล่าได้เป็นฉากๆ แต่ถามว่ามันเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ ตราบใดที่คุณทำงานอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ทักษะ ความรู้ การคิดวิเคราะห์ ก็ยังเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอยู่ บางคนอาจชอบวางแผน แต่กลับไม่สามารถนำมาทำจริงได้ หรือทำไปครึ่งนึงแล้วก็ไปต่อไม่ได้ แบบนี้คุณก็จะเสียพลังงานไปเปล่าๆ เพราะฉะนั้น แผนงานที่คิดก็ควรทำได้จริง
ที่มา : tlcthai.com/technology/wp-content/uploads/2012/08/20070825sen_success-fail.gif
ทุกวันนี้การทำตลาดไม่ได้ง่ายเหมือนก่อน ยิ่งผู้คนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากเท่าไร การทำงานก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าแบรนด์จะสื่อสารอะไรไป ผู้บริโภคก็ยังไม่ปักใจเชื่อทันที หน้าที่ของนักการตลาดออนไลน์คือ สร้างกลยุทธ์ Storytelling ที่ใช้การเล่าเรื่องเหมือนนิทาน ที่มีการเรียงร้อยเรื่องราวต่างๆ และสร้างอารมณ์ให้เกิดความสนใจ พยายามทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ให้ได้
เหมือนสุภาษิตที่ว่า “ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” หมายถึง การทำอะไรด้วยความรอบคอบ ไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆ ค่อยๆ เก็บรายละเอียดไปทีละนิด การทำตลาดออนไลน์ก็เช่นกัน ตอนแรกคุณอาจกำหนดเป้าหมายระยะยาวไปแล้ว แต่เมื่อเห็นเทรนด์ หรือกระแสมาแรงใหม่ๆ ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเป้าหมายทันที ซึ่งบางครั้งกระแสเหล่านี้ก็ไม่เกี่ยวกับแบรนด์ ก็ไม่จำเป็นต้องหยิบมาใช้
ในฐานะที่คุณเป็นนักการตลาดออนไลน์ ที่ต้องเป็นผู้นำให้ลูกค้า การเปลี่ยนเป้าหมายบ่อยๆ ก็คงไม่ดีนัก นอกจากจะเสียความเชื่อมั่นแล้ว ทีมงานคนอื่นๆ ก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะฉะนั้นต้องใจเย็นๆ คิดให้ละเอียดเสียก่อนจะเปลี่ยนแปลงใดๆ
ขอบคุณที่มา : entrepreneur