การตลาดแบบตื่นตัว ช่วยให้ลูกค้าบอกต่อได้จริง??

การตลาดแบบตื่นตัว ช่วยให้ลูกค้าบอกต่อได้จริง??

     อารมณ์ของมนุษย์มีอำนาจมากต่อชีวิตของมนุษย์ในทุกยุคสมัย นั้นได้เลย อารมณ์ด้านบวก และด้านลบของมนุษย์มีมานมนามตั้งแต่ก่อเกิดมนุษย์แล้ว และเป็นอารมณ์ที่จะอยู่กับคน ไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว

     ทุกคนคงงงว่า"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการตลาด"  การที่คนเรานั้นจะตัดสินใจจะซื้อ หรือจะเสพสื่ออะไรสักอย่างนั้น ปัจจัยด้านอารมณ์มาเป็นอันดับหนึ่ง อารมณ์และความรู้สึก เป็นพฤติกรรมมนุษย์แบบกลุ่ม ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หากคุณนำอารมณ์ และความรู้สึกมาทำการตลาด ก็จะเกิดการบอกต่อมหาศาล และสิ่งที่ทำให้สามารถแยกแยะได้ ระหว่างอารมณ์ด้านลบ และอารมณ์ด้านบวกนั่นก็คือ " ความตื่นตัว " นั่นเองคะ

     ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจความหมายของ "ความตื่นตัว" กันก่อนคะ  เพื่อป้องกันการหลงประเด็น ความตื่นตัวคืออะไร คุณลองคิดถึงอารมณ์ ที่คุณกำลังเชียร์วอลเลย์บอล หรือกำลังเชียร์ ให้กำลังใจอะไร หรือลุ้นอะไรสักอย่างไหม คุณจะรู้สึกว่า ตัวเองเหงื่อออกไหลมากกว่า ปกติ ตัวใจเต้นเร็ว และแรง ถึงแม้ว่า จะมีใครมาให้กำลังใจคุณ ปลอบคุณ หรือบอกให้คุณใจเย็นๆ แต่ร่างกายคุณมันไม่ฟังเอาเสียเลย และจะระแวงอยู่ตลอดเวลาว่า ทีมวอลเลย์บอล ทีมโปรดของคุณจะแพ้ ซึ่งอาจจะไม่แพ้ก็ได้

     โดยอารมณ์ ที่จะทำให้เกิดความตื่นตัวด้านบวก เช่น อารมณ์ตลกขบขัน อารมณ์ตื่นเต้น อารมณ์แห่งความพิศวง ที่ต้องการหาคำตอบเป็นต้น ส่วนอารมณ์ด้านลบ ยกตัวอย่างเช่น อารมณ์โกรธ ความกังวล อันจะนำมาซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ เช่นการตะคอก การพูดจาไม่เพราะ การด่าการตำหนิ อารมณ์ตื่นตัวทางด้านลบนี้ จะเป็นสิ่งที่คอยหยุดการกระทำของคนๆ นั้นไม่ให้ทำสิ่งต่างๆ ได้

      คุณเคยสังเกตุไหม ในกรณีหากคุณมีอารมณ์ตื่นเต้น อะไรสักอย่างหนึ่งคุณก็อยากจะคุย หรือบอกต่อเรื่องราวนั้นกับใครสักคน หรือต้องการที่จะแชร์อารมณ์เรื่องราวดังกล่าวผ่านทาง Social Network อารมณ์ตื่นเต้นทางด้านบวก จะเป็นความตื่นเต้นที่สนับสนุนให้คุณบอกต่อ ทำสิ่งต่างๆ ตนรู้สึกอย่างไร ก็อยากแชร์ความรู้สึกนั้นให้คนอื่นๆ รู้ด้วย

     ฉะนั้น หากคุณต้องการทำการตลาดให้ คนรู้จักแบรนด์ และสินค้าคุณมากๆ คุณต้องทำการส่งเสริมการตลาด การส่งเสริมการขาย ด้วยเหตุการณ์ อะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกค้าเป้าหมาย เกิดอารมณ์ตื่นเต้นด้านบวกให้ได้

     เคยสังเกตุตัวเองไหมคะว่า หากคุณได้ดูละครเรื่องอะไรก็ตาม โดยเฉพาะหากคุณได้ดูฉากละคร ที่มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ตื่นเต้น ช่วงโฆษณาหลังข่าว คุณจะสามารถจดจำโฆษณานั้นได้แม่นยำ กว่าละครที่มีเนื้อหา เฉยๆ เนิบๆ ช้าๆ

     ตัวอย่างเช่น หากเป็นเรื่องตลกขบขัน ยกตัวอย่าง เดี่ยวไมโครโฟน ของคุณโน้ต อุดม ตลกมากจนท้องแข็ง คุณลองสอบถามผู้ที่เข้าชมเดี่ยวไมโครโฟน ของคุณโน้ต ว่าสามารถจดจำว่าใครเป็น สปอนเซอร์ ของการพูดครั้งนี้ได้หรือไม่ คุณจะตลึงกับคำตอบเพราะส่วนมาก คนที่ไปเข้าชมเดี่ยวไมโครโฟน สามารถจดจำสปอนเซอร์ ได้เป็นส่วนมาก และหากคุณทำเว็บไซต์ขายสินค้า หากเว็บไซต์ของคุณมีวีดีโอที่ทำให้เกิดความตื่นเต้น หรือารมณ์ตลก เนื้อหา และข้อมูลอื่นๆ ก็จะได้อาณิสงค์ แห่งการพูดถึงมากขึ้นตามไปเป็นเงาตามตัว

     ฉะนั้น หากคุณต้องการทำการส่งเสริมการตลาด ไม่ว่าจะด้วยสื่อประเภทไหนก็ตาม ไม่ควรเน้นในเรื่องของยอดขาย ข้อมูล สถิติ คุณต้องเน้น พุ่งเป้าไปที่อาร์มความรู้สึก ซะมากกว่า จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด

     สรุป คนเราไม่ชอบความน่าเบื่อแน่นอน คุณต้องทำการโฆษณา เพื่อให้เกิดอารมณ์ ความตื่นตัว ให้เกิดขึ้นกับลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เรื่องราวชีวิตจริงในสังคมที่คนส่วนมาประสบอยู่เป็นต้น เพราะเรื่องราวเหล่านี้ขายได้ตลอดกาล หากคุณทำโฆษณา ได้ตรงจุดอารมณ์ หรือตรงจุดที่ลูกค้าประสบปัญหา คือต้องเข้าหาลูกค้า คนที่กำลังตื่นเต้นอยู่ จะเกิดกระแสการบอกต่อมากมายในทันที ที่จะตามมาก็คือการขยายตัวของธุรกิจ และยอดขายของคุณ

ที่มา : coachtawatchai

โดย :
 3799
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Pay per click เป็นการ โฆษณา ผ่านทางตัวแทนเว็บ เพื่อทำการ โฆษณา เว็บของคุณ โดย ค่าใช้จ่าย จะคิดจากจำนวนคลิกเป็นหลัก หากไม่มีจำนวนของการคลิก ก็จะไม่เสียเงินค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่อาจจะมีแตกต่างไปบ้างตามแต่ข้อตกลงแต่ละค่าย เช่น อาจจะมีการคิดเพิ่มเติมในรูปแบบของ ePPM หรือ จำนวนการแสดงโฆษณาต่อการแสดงหนึ่งพันครั้ง ในปี 2550 กูเกิล ได้เสนอระบบใหม่ Pay-Per-Action[1] ซึ่งอยู่ในขั้นทดลอง โดยเปลี่ยนจากระบบการจ่ายเงินค่าโฆษณาตามจำนวนที่มีคนคลิกเข้าไปดู เป็นการจ่ายเงินตามการกระทำที่กำหนด เช่น ซื้อของอย่างน้อยหนึ่งชิ้น หรือเข้าดูหน้าใดหน้าหนึ่ง โฆษณา PPC นั้นคือการลงโฆษณาผ่าน search engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo, MSN ใน keywordที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณ วิธีนี้จะคล้ายคลึงกับการทำ SEO (Search Engine Optimization)เพียงแต่เว็บของคุณจะปรากฏอยู่ทางขวามือในส่วนของโฆษณา(ในขณะที่ SEO จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ) โดยคุณจะเสียเงินค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของคุณเท่านั้นหากแสดงเฉย ๆ จะไม่เสียเงินค่าโฆษณา
การทำ SEO นั้น เราจะต้องทำทั้งแบบ On Page และ Off Page สำหรับบทความนี้ Webmaster ก็ขอแนะนำช่องทางหนึ่งในการทำ SEO แบบ Off Page โดยผ่านช่องทางที่เรียกว่า Social Bookmark
“Mysterious Box” หรือ “กล่องสุ่ม” เทรนด์การตลาดที่กำลังมาเเรง และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรูปแบบการขายที่ผู้ขายจะใส่สินค้าต่างๆ ไว้ในกล่อง โดยสินค้ามีทั้งแบบแบ่งเป็นหมวดหมู่และแบบคละสินค้า ผู้ซื้อไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ว่าในกล่องมีอะไรบ้าง

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์