เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่าคนที่ประสบความสำเร็จมักใช้ชีวิตต่างจากคนทั่วไป ลองคิดดูสิ พวกเขาคงไม่ได้ไปยืนอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จ จากการใช้ชีวิตธรรมดาๆ เหมือนคนอื่นหรอกจริงไหม?
>>> ถึงแม้ว่าความสำเร็จจะไม่มีสูตรตายตัวชัดเจน แต่ก็มีบางสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ถ้าคุณอยากพัฒนาตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น 5 สิ่งต่อไปนี้…
1. หลีกเลี่ยงการโทษผู้อื่น
คนที่ประสบความสำเร็จจะไม่โทษคนอื่นเกี่ยวกับปัญหาของตัวเอง เพราะการโทษปัจจัยภายนอก ก็เท่ากับว่าเราเพิ่มอำนาจให้สิ่งเหล่านั้นและลดอำนาจของตัวเองในการควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิต ในทางกลับกัน การหยุดโทษสิ่งอื่นจะทำให้ คุณได้รับผิดชอบชีวิตตนเองอย่างสมบูรณ์ ทำให้คุณได้รู้ว่า คุณคือผู้นำของตัวคุณเอง และสามารถนำพาตัวเองไปยังทิศทางใดก็ได้ที่ปรารถนา
2. ไม่ปฏิเสธความเปลี่ยนแปลง
คนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น และสำคัญต่อการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ หากคุณไม่พัฒนาก็เท่ากับว่าคุณกำลังเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ และหลายคนก็เคยทำแบบนี้เหมือนกัน ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงและยึดติดกับสถานะเดิมๆ ทั้งยังหลีกเลี่ยงการขอความช่วยเหลือ หรือที่ปรึกษา เพราะกลัวว่าตนเองจะดูไม่ดี หรือ สิ่งที่พวกเขาแนะนำนั้นอาจยากเกินไป ซึ่งความคิดแบบนี้ ก็มีแต่ทำให้ชีวิตและการทำงานของเรา ไม่ไปถึงไหนเสียที
จงละทิ้งอีโก้หรือความกลัวที่มีเมื่อต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหรือความเชื่อของตัวเอง ซึ่งมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตไปอีกระดับหนึ่ง
3. อย่าให้ความกลัวมาหยุดยั้งคุณ
เราทุกคนล้วนมีความกลัวและความเชื่อที่สร้างขีดจำกัดให้ตัวเอง แต่คนที่ประสบความสำเร็จจะกล้าลงมือทำ ถึงแม้ว่าจะมีความกลัวอยู่ก็ตาม สิ่งที่แยกคนธรรมดาที่ไปไม่ถึงฝันของตนออกจากบรรดาผู้นำประสบความสำเร็จชั้นนำของโลกก็คือ ระบบความเชื่อ ความเชื่อที่เป็นขีดจำกัดของคุณ เกิดจากหลายสิ่ง เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือ สิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน การจะเอาชนะมันได้ เริ่มจากการพูดว่า ‘ฉันทำได้’ แทน ‘ฉันทำไม่ได้’ ลองละทิ้งความเชื่อที่ขีดเขียนควบคุมเหนือชีวิตตัวเอง และคิดทบทวนดูว่าความเชื่อเหล่านั้นเกิดจากอะไร มันคือความจริงหรือสมเหตุสมผลไหม?
4. อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ
คนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการดูเป็นคนมีความรู้ความสามารถ แต่การอยากเป็นฝ่ายถูกเสมอ คือ ปัญหาอัตตาที่ปิดกั้นตัวเราจากศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองจนประสบความสำเร็จ และถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะมีความรู้เรื่องต่างๆ ค่อนข้างกว้างขวาง เราก็ไม่ได้มีเวลาและพลังพอที่จะศึกษาจนเชี่ยวชาญไปหมด ทุกเรื่องได้ ดังนั้นหลายครั้ง เราอาจต้องการความช่วยเหลือจากคนที่เก่งกว่าแทน
คนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าไม่มีใครสามารถเป็นผู้รู้ทุกด้านได้ การปลดล็อกความศักยภาพสูงสุดของตนเองต้องอาศัยความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย ทุกคนมีล้วนมีจุดแข็งในด้านใดด้านหนึ่ง และหากเราช่วยเหลือกัน ทุกคนก็ย่อมได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
5. อย่าเอาแต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม
อาจฟังดูแปลกๆ แต่การคิดถึงความตายและการเข้าใจว่าเวลาของเรามีที่สิ้นสุด คือหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่ดีที่สุดเพื่อไปสู่ความสำเร็จ คนที่ประสบความสำเร็จรู้ว่าไม่มีเวลาไหนดีกว่า ปัจจุบันอีกแล้ว หากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองสู่ความสำเร็จที่วาดฝันเอาไว้ คนที่น่ายกย่องคือ คนที่ลงมือทำโดยไม่รีรอแม้จะต้องล้มลุกคลุกคลาน ไม่ใช่คนที่เอาแต่เฝ้ารอเวลาที่เหมาะเจาะ
การรอคอยทำให้คุณหาข้ออ้างได้เสมอว่าไม่สามารถทำได้ การรอคอยเวลาเหมาะสมจึงเป็นเพียง เรื่องเฟ้อฝันเท่านั้น จะสมบูรณ์แบบหรือเหมาะสมหรือไม่นั้น มันก็อยู่ที่จิตใจของคุณเท่านั้นเอง การลงมือ ทำนั้น เพียงก้าวเล็กๆ ก้าวเดียวก็เพียงพอแล้ว มันคือข้อความที่คุณส่งถึงตัวเองว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณต้อง เดินบนเส้นทางสู่ชีวิตที่ต้องการ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดและจำไว้ว่าไม่มีเวลาไหนจะดีกว่า ตอนนี้ อีกแล้ว
.
ขอบคุณที่มา : sumrej