คู่มือ การสร้างเพจ Facebook แบบฉบับมือใหม่
สำหรับนักธุรกิจที่กำลังเจาะกลุ่ม ตลาดออนไลน์ แล้ว การมี Facebook Page ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ค้นหาลูกค้าใหม่ รวมถึงนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขว้าง
ทั้งนี้หากต้องการให้เพจของเราประสบความสำเร็จ เราก็ควรเริ่มต้นด้วย การสร้างเพจ ให้ดีเสียก่อน
เพื่อให้คุณใช้ประโยชน์จาก Facebook Page อย่างเต็มที่ เรามาดูขั้นตอน การสร้างเพจ ว่ามีวิธีอย่างไรบ้าง? มีจุดไหนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษหรือไม่? แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนสักเล็กน้อยว่า “Facebook Page ไม่ใช่
Facebook Profile” ทั้งสองมีความแตกต่างกัน โดยสามารถอธิบายได้เป็นหัวข้อดังนี้
Facebook Page มีจุดประสงค์เพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ ส่วน Facebook Profile เป็นเหมือนตัวแทนของบุคคล
การติดตาม Facebook Page จะต้องกด Like แต่ Facebook Profile ต้อง Add Friend Facebook Page ไม่จำกัดจำนวนผู้ติดตาม Facebook Profile มีเพื่อนได้สูงสุด 5,000 คน
หลังจากทำความเข้าใจเบื้องต้นกันไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาของ การสร้างเพจ เสียที มาเริ่มกันเลย! ไปที่หน้า Create Page เพื่อเลือกหมวดหมู่ของธุรกิจที่เราต้องการ โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 6 หมวด ได้แก่หมวดธุรกิจหรือสถานที่ท้อ
ถิ่น, หมวดบริษัทหรือองค์กร, หมวดแบรนด์หรือสินค้า, หมวดศิลปิน, หมวดความบันเทิง และหมวดชุมชน
สำหรับใครที่ยังสับสนไม่รู้ว่าควรจัดกลุ่มธุรกิจตัวเองไว้ในหมวดหมู่ไหนหรืออยากเปลี่ยนหมวด ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ใหม่ภายหลัง ขั้นตอนต่อมาคือ กรอกรายละเอียด เป็นส่วนที่สำคัญมาก แนะนำว่าควรใส่ให้ครบทุกช่อง
โดยเราสามารถแบ่งประเภทรายละเอียดออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
2.1 ชื่อเพจ - ควรมีเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำได้ง่าย เมื่อได้ชื่อเพจแล้วก็ต้องตั้ง URL ให้สอดคล้องกัน รวมถึง
ให้มีขนาดสั้นหรือที่เราเรียกกันว่า Vanity URL ให้ง่ายต่อการค้นหา
2.2 ที่อยู่ - หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไม่ใส่รายละเอียดลงไป แต่การใส่ที่อยู่จะทำให้ Facebook สามารถค้นหาตำแหน่งและนำมาใช้เป็นจุด Check-in ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากหากคุณกำลังทำธุรกิจร้านค้าอยู่
2.3 เกี่ยวกับ หรือ About - เปรียบเหมือนการแนะนำตัวให้คนอื่นได้รู้จัก จึงจำเป็นต้องบอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเพจให้ครบถ้วน รวมถึงรายละเอียดของสินค้าหรือบริการเบื้องต้นด้วย
สุดท้ายคือ ตกแต่งหน้าเพจให้สวยงาม เพราะเพจก็เหมือนหน้าร้าน ถ้าไม่น่าสนใจ ไม่ดึงดูดใจ ก็แน่ละว่าคงไม่มีใครเข้ามา ซึ่งส่วนที่เราสามารถตกแต่งได้ก็มีรูป Page Profile และ รูป Cover โดยทั้งสองภาพควรมี Mood & Tone ที่ไปในทิศทางเดียวกัน
อีกสองสิ่งที่ควรมีบนหน้าเพจก็คือ ปุ่ม Call to Action ที่จะกระตุ้นให้คนที่เข้ามาดำเนินการ เราสามารถเลือก
ข้อความให้เข้ากับธุรกิจของเราได้ เช่น ส่งข้อความ ติดต่อเรา หรือเลือกซื้อเลย เป็นต้น และอีกสิ่งคือ การแสดงเวลาตอบข้อความที่ควรขึ้นเป็น “ตอบกลับไวมาก” หรือ “Very Responsive” เพื่อเพิ่มคุณภาพให้กับเพจเรา
ขอบคุณแหล่งที่มา : Facebook