สำหรับ นักการตลาดหรือเจ้าของกิจการที่ดูแลการตลาดด้วยตัวเอง คุณรู้ว่าความวุ่นวายในการทำงานในแต่ละวันเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่การประชุมทีมในตอนเช้า การวางแผนกลยุทธ์ ลงมือทำสื่อ ควบคุม ติดตามประสานงาน แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้างาน วัดผลประเมินผล KPI ยุ่งวุ่นวายมากมาย รู้ตัวอีกทีก็หมดวันแล้ว
ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีก็จะมีเครื่องมือที่คอยช่วยนักการตลาดให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำงานง่ายขึ้น ด้วย “Software” ผสานกับกลยุทธ์ต่างๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะหมายถึง การทำ Email Marketing (การตลาดผ่านอีเมล) ร่วมกับ Customer Relationship Management Systems (ระบบการจัดการดูแลลูกค้า)
และการทำ Marketing Automation สามารถช่วยคุณได้ ดังนี้
ในยุคดิจิตัล การทดแทนแรงงานคนด้วยระบบหรือ Software สามารถทำได้ง่ายขึ้น ระบบได้พัฒนาให้สามารถทำงานแทนคนได้หลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล ตอบลูกค้า โพสคอนเท้นต์ และอื่นๆ รวมถึงสามารถลดความผิดพลาดที่เกิดจากคนได้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น
ลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกันไป เราจึงไม่ควรส่งข้อความไปยังลูกค้าแบบเดียวกันทั้งหมด เราคงรู้สึกดีถ้าข้อความที่ถูกส่งหาเรา มีชื่อเราอยู่ มีข้อความระบุถึงตรงกับสิ่งที่เราต้องการ ในวันเวลาที่ถูกต้อง และนั่นคือสิ่งที่ Marketing Automation สามารถทำให้คุณได้
ตัวอย่างเช่น
ทั้งการนำเสนอขายสินค้าให้กับกลุ่มคนที่สนใจและการสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับลูกค้ามักจะใช้เวลานานระดับนึง และคงจะมีเวลาไม่พอที่จะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบ 1:1 ให้ครบทุกคนที่มี ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจอย่างดีให้กับลูกค้า ระบบการตลาดอัตโนมัติผ่านอีเมลหรือ Drip Email Marketing ก็เป็นวิธีการที่ดีที่จะสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับลูกค้า
ตัวอย่างเช่น
Drip marketing (การส่งอีเมลแบบหยดน้ำ) นั้นคือการสื่อสารข้อความที่ใช่ไปยังผู้คนที่ใช่ในเวลาที่ใช่ด้วยระบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใครก็ตามกดติดตามข่าวสารจาก Blog ของคุณ เขาจะได้รับอีเมลต้อนรับตอบกลับทันที และหลังจากนั้น 2-3 วัน เขาก็จะได้รับ content ยอดนิยมที่มีคนอ่านมากที่สุด เป็นต้น
ที่มา : stepstraining.co/wp-content/uploads/2018/02/drip-campaign-01.png
สำหรับการตลาดที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว การทำการตลาดแบบอัตโนมัติจำเป็นต้องทดสอบและพัฒนาอยู่เสมอ ซึ่งระบบนี้ก็สามารถช่วยทำ A/B testing ตรวจสอบและสร้างเงื่อนไขให้ระบบสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้อย่างอัตโนมัติตามการตั้งค่าที่ได้ตั้งค่าไว้
ตัวอย่างเช่น
เราสามารถทดสอบประสิทธิภาพของอีเมล โดยการทำ A/B Testing และดูรายการความสนใจของลูกค้าจากการเปิดอ่านอีเมล กดคลิกลิงก์ต่างๆ ในอีเมล ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถใช้ช่องทางอื่นๆ ในการทำการตลาดและปิดการขายได้ ทั้งทาง SMS และการโทรศัพท์
เจ้าของกิจการในช่วงเริ่มต้นส่วนใหญ่มักจะไม่มีเงินทุน หรือเงินหมุนเวียนมากพอในการจ้างนักการตลาดมาทำงาน เพราะฉะนั้นการทำ Marketing Automation สามารถช่วยสร้างช่องทางที่สามารถสร้าง Lead หรือคนที่มีความสนใจได้อย่างต่อเนื่อง โดยการติดตั้งการใช้งานเพียงครั้งเดียว ซึ่งเจ้าของกิจการสามารถจัดการเวลาและดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมเชื่อว่าหลายๆ คน อาจจะเคยได้ยินคำว่า Marketing Automation มาก่อนบ้างแล้ว แต่คุณอาจจะไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไรจริงๆ ซึ่งนักการตลาดก็ตีความหมายไปได้หลายแนวหลายแบบกันแตกต่างกันไป ซึ่งไม่เป็นไร !
ผมให้คำอธิบายเข้าใจกันง่ายๆ ว่าMarketing Automation สามารถหน้าที่ช่วยทำการตลาดให้ง่ายขึ้น ด้วย “Software” ผสานกับกลยุทธ์ต่างๆ มีอะไรบ้าง ?
หนึ่งในความหมายที่คนเข้าใจกันมากที่สุด คือการสร้าง Lead Generation (หรือการดึงดูดกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้า) ด้วยวิธีการเก็บอีเมลหรือหมายเลขติดต่อลูกค้า เพื่อทำ Email Marketing ในลำดับต่อไป
การลง Content อัตโนมัติบน Platform ต่างๆพร้อมกัน เช่น เว็บไซต์, Facebook, Twitter, Instagram, Pinterest, Google+
– ดูแลลูกค้าอัตโนมัติ ผ่านระบบ Chatbots และ ระบบดูแลลูกค้า (หรือ Customer Relationship Management (CRM))
ที่มา : stepstraining.co/wp-content/uploads/2018/02/drip-campaign-02.png
.
ขอบคุณที่มา : Stepstraining