เคล็ดลับ “สร้างเพจให้ปัง ไม่ต้องเสียตังค์สักบาท”

เคล็ดลับ “สร้างเพจให้ปัง ไม่ต้องเสียตังค์สักบาท”

โลกยุค 4.0 เปิดโอกาสให้คุณสามารถมีธุรกิจ  หรือสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือเสียเงินซื้อโฆษณา ด้วยการสร้างเพจเฟซบุ๊ค ที่เปรียบเสมือนห้างร้านหรือบริษัท ซึ่งการสร้างเพจเมื่อทำจนปังแล้วสามารถสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างคุ้มค่า  โดยที่ไม่ต้องเสียเงินในการลงทุน เหมือนการตั้งบริษัท  หากเรียนรู้ในการบริหารจัดการเพจให้ดี

โลกยุค 4.0 เปิดโอกาสคุณสามารถมีธุรกิจ หรือสร้างตัวตนให้เป็นที่รู้จักได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือเสียเงินซื้อโฆษณาด้วยการสร้างเพจเฟซบุ๊ค  ที่เมื่อเพจคุณปังแล้วสามารถสร้างรายได้คืนกลับมาอย่างคุ้มค่า

การสร้างเพจอันดับแรกต้องตั้งชื่อให้ดีและสื่อความหมายว่าธุรกิจขายอะไรหรือมีความเชี่ยวชาญเรื่องใด โดยมีหลักในการตั้งชื่อมากมาย อาทิ ตั้งเป็นประโยคคำสั่ง  ตั้งเป็นประโยคคำถามในใจ ตั้งเป็นประโยคเชิญชวน  ตั้งเป็นชื่อเฉพาะหรือชื่อแบรนด์  ตั้งเป็น How to  ตั้งเป็นคำตรงกันข้าม  ตั้งเป็นชื่อคน  นำสุภาษิตมาดัดแปลง  ตั้งเป็นประโยชน์ที่ได้รับ  บอกจุดยืนของแบรนด์ ฯลฯ

ช่วงเวลา 10 วันแรกของการทำเพจนั้นยากที่สุด  ควรทำสถิติเพื่อดูแนวโน้มคอนเท็นท์ที่คนชื่นชอบ  คอนเท็นท์ควรมีทุกวันและควรโพสต์เวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อสร้างให้คนจดจำได้   สิ่งสำคัญเจ้าของเพจต้องรู้ทุกกระบวนการแล้วจะสำเร็จ

หากคุณจะทำการตลาดบนเฟซบุ๊ค ควรปั้นเพจให้โตแล้วจึงค่อยขาย โดยการฟีดคอนเท็นท์ที่ให้ความรู้และเข้ากันได้กับเพจ  วีดีโอสั้น ๆกำลังมาแรงควรเปิดด้วยเรื่องที่ต้องการพูดเพื่อดึงคนดู  ภาพโปรไฟล์ช่วยสร้างความประทับใจแรก              ให้ทำตัวเป็นที่ปรึกษาอย่าทำตัวเป็นแม่ค้า          ต้องรู้ว่าคนซื้ออะไรและทำตัวเราเองให้มีราคา คนจะให้คุณค่าเรา   ควรใช้คอนเท็นท์แก้ปัญหาให้ลูกค้า   หากคอนเท็นท์เราสามารถพูดแทนความคิดลูกค้าได้จะปัง  และลับมีดให้คมก่อนตัดต้นไม้ คือ ต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญก่อนขาย

3.การสร้างเพจ อันดับแรกต้องเริ่มจากการตั้งชื่อเพจเสียก่อน  เพจที่ดีต้องสื่อความหมายของธุรกิจได้ว่าขายอะไรหรือมี3.เชี่ยวชาญเรื่องใด  เพราะถ้าชื่อสื่อความหมายเข้าใจและปิดการขายได้ตั้งแต่ชื่อจะดีที่สุด

.กฎการตั้งชื่อเพจให้ปังและปิดการขายด้วยชื่อได้นั้น มีดังนี้

1..ตั้งเป็นประโยคคำสั่งให้โดนใจ เช่น เลิกเป็นมนุษย์เงินเดือนซะ  เลิกอ้าง

2..ตั้งเป็นคำถามในใจ เช่น เที่ยวทั่วไทยไปไหนดี ใครสอนให้โพสต์รูปของกินตอนดึก

3..ตั้งเป็นประโยคเชิญชวน เช่น สอบติดไปด้วยกัน

4.ตั้งเป็นชื่อเฉพาะหรือชื่อแบรนด์ เช่น Jone Salad  Channel

5.ไม่ใช่คำย่อตั้งชื่อเพจ เนื่องจากคำย่อจะทราบเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

6.ตั้งเป็น How to เช่น สอนฟรีเบเกอรี่กินเค้กอย่างไรให้หุ่นเป๊ะ ลงทุนอย่างไรให้มีความสุข

7.ตั้งเป็นคำตรงกันข้าม เช่น เก่งได้แบบคนขี้เกียจ วัยรุ่นก็รวยได้ พูดอังกฤษได้จากเกลียดเป็นเก่ง

8.ตั้งเป็นชื่อคน (เฉพาะผู้มีชื่อเสียง) เช่น อาจารย์บัณฑิต อึ้งรังษี  มามี่ธัญญ่าสอนภาษาให้ลูก

9.เอาสุภาษิตมาดัดแปลง เช่น ปากเป็นเอก by โค้ชหญิง, รักวัวให้ผูกรักลูกให้ทานแคลเซียม

10.ตั้งเป็นประโยชน์ที่ได้รับ เช่น วัยรุ่นก็รวยได้, ภาษาอังกฤษใช้ได้จริง, พูดอังกฤษได้ไม่ต้องไปเมืองนอก

11.บอกจุดยืนของแบรนด์ เช่น บีควิกเต็มที่เพื่อรถเต็มร้อยเพื่อคุณ, บัญชีอย่างง่ายเพื่อเจ้าของกิจการ, ภาษาอังกฤษเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

12.ตั้งเป็นกลุ่มก้อน เช่น เพื่อนรักนักวิ่ง, พ่อบ้านแม่บ้านใจกล้า

13.ใช้ชื่อแบรนด์ไว้ตอนท้าย เช่น อกไก่นึ่งคลีน by ผู้ชายขายอก, แฟชั่นนำเข้า by พรรณี

14.ตั้งชื่อให้สะกดง่ายและออกเสียงไม่ยาก เช่น

15.ตั้งชื่อให้เป็นคำคล้องจอง เช่น เที่ยวไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ไปไงมาไง

16.ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสินค้าหรือบริการ เช่น ปวดอะไรก็หายได้byแพทย์หญิง,,

17.ไม่ควรตั้งชื่อยาวจนเกินไป

18.ไม่ตั้งชื่อซ้ำกับเพจอื่น เพราะเพจคุณจะไม่เป็นที่จดจำ

19.ตั้งเป็นวลีเด็ด เช่น วัยรุ่นสร้างตัว, อัจฉริยะสร้างได้

20.ไม่ตั้งชื่อที่มีความหมายเชิงลบ เพราะคนไม่ชอบ

21.ไม่ตั้งชื่อที่สื่อความหมายแฝง เช่น เรื่องเพศ ศาสนา เพราะเป็นความรู้สึกของคน

10 วันแรกของการทำเพจนั้นยากที่สุด  สำรวจคอนเท็นท์ไหนโดนและดัง

การทำเพจนั้นช่วงเวลา 10 วันของการเริ่มถือว่ายากที่สุด  ควรทำสถิติเพื่อดูทิศทางว่าคอนเท็นท์ใดในเพจมีคนแชร์มากที่สุด  เข้าถึงมากที่สุด และทำต่อไปอีก 10 วัน  เจ้าของเพจต้องรู้ทุกกระบวนการแล้วจะสำเร็จ คอนเท็นท์ควรมีทุกวันและควรโพสต์เวลาเดียวกันทุกวัน สร้างให้คนจดจำได้

 ชื่อเพจที่แนะนำข้างต้นสามารถนำไปดัดแปลงเพื่อให้ถูกจริตและบ่งบอกตัวตน  ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อตั้งชื่อเพจให้สอดคล้อง ว่าอยากให้ใครติดตามเรามากที่สุด เพราะคนแต่ละกลุ่มอาชีพมีความชอบไม่เหมือนกัน  เวลาตั้งชื่อไม่ควรนึกถึงผลประโยชน์ของเราเพียงอย่างเดียว  และในเพจต้องใส่ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดให้ครบถ้วน โดยเฉพาะที่อยู่และเบอร์โทรสำคัญ แต่ชื่อเพจไม่แนะนำให้ตั้งยาวเกินไป  ชื่อเพจกับภาพ Cover Page ต้องปิดการขายได้

 เรื่องที่ควรรู้หากจะทำการตลาดบนเฟซบุ๊ค

1.ปั้นเพจให้โตก่อนแล้วค่อยขาย   แรกเริ่มควรให้คอนเท็นท์ที่ให้ความรู้และเข้ากันกับเพจ ถ้าขายตั้งแต่แรกเพจจะเป๊ก  อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคนอ่านจะเกิดการแชร์  แต่ถ้าเป็นประโยชน์เฉพาะเราเค้าจะไม่แชร์

2.วีดีโอสั้น ๆกำลังมา ไม่ควรเปิดวีดีโอด้วยการแนะนำตัว ควรเข้าประเด็นที่ต้องการสื่อ ดึงคนให้ดูตั้งแต่เริ่ม

3.คนจะตัดสินเราว่าเป็นคนแบบไหนจากภาพโปรไฟล์ เป็นการสร้างความประทับใจแรก

4.ให้ทำตัวเป็นที่ปรึกษา อย่าทำตัวเป็นแม่ค้า  โชว์ความชำนาญของเรา

5.ต้องรู้ว่าคนซื้ออะไร คนไม่ได้ซื้อที่สินค้าแต่ซื้อที่คนขาย แบรนด์  ต้องทำตัวเราเองให้มีราคา   เพิ่มปริมาณคนติดตาม คนจะให้คุณค่าเรา

6.ใช้คอนเท็นท์แก้ปัญหาให้ลูกค้า   หากคอนเท็นท์เราสามารถพูดแทนความคิดลูกค้าได้จะปัง

7.ลับมีดให้คมก่อนตัดต้นไม้ เราต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญก่อนขาย

      การสร้างตัวตนให้คนอื่นจดจำ บางคนมีความคิดว่าต้องทำให้ดูแรง หยาบคาย จึงจะติดกระแสเร็ว ซึ่งมันช่วยให้คนจดจำได้เร็วก็จริง แต่เค้าจะติดภาพลบของคุณ ดังนั้นให้คนอื่นจดจำคุณทั้งทีควรให้เค้าจำในสิ่งที่ดีจะดีกว่า และเมื่อภาพลบฝังไปในหัวของคนแล้วแก้ไขยาก  ดังนั้นการใช้คำในเพจ ตลอดจนการไลฟ์ต่าง ๆควรใช้คำสุภาพ ต้องทำอย่างจริงจัง และบริหารจัดการให้ถูกต้อง เพจคุณจะโตและปังแบบยั่งยืน

ขอบคุณแหล่งที่มา : SCB SME และ คุณหญิง โสรยา คำแก้ว