เมื่อพูดถึงการขายสินค้าออนไลน์ในยุคนี้ ที่การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน แน่นอนว่าก็ย่อมมีทั้งผู้ที่ “รุ่ง” และ “ร่วง” แต่ใครล่ะที่อยากร่วงในเส้นทางนี้ เพราะทุกคนล้วนอยากประสบความสำเร็จ อยากขายสินค้าและบริการให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่คุณควรตระหนักก่อนที่จะเปิดร้านหรือขายสินค้าก็คือ เรื่องของกลยุทธ์การตลาด ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำ 5 กลยุทธ์การตลาด ที่คุณไม่ควรพลาดก่อนออกรบ มาบอกเล่าเก้าสิบแก่ว่าที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ที่อยากมียอดขาย “รุ่ง” ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ??
1. สร้างสตอรี่ให้กับแบรนด์
นั่นก็เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่มักจะชอบอะไรที่แตกต่างจากปกติทั่วไป อย่างเช่น แม้ว่าคุณและคู่แข่งจะขายสินค้าหรือบริการที่คล้ายๆ กัน และราคาไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณสามารถค้นหาจุดเด่นของสินค้าหรือบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง และนำมันมาสร้างสตอรี่หรือสร้างเรื่องราว เพื่อชี้ให้เห็นว่าสินค้าหรือบริการของคุณนั้นแตกต่าง และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกว่าคู่แข่งอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น แหล่งผลิตสินค้า ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า เครื่องแบบพนักงานขาย ฯลฯ มันก็จะทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้และจดจำในสินค้านั้นๆ มากยิ่งขึ้น และเกิดการซื้อขายตามมา
2. ทำการตลาดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนจะทำการตลาด อย่างแรกที่คุณควรทำความเข้าใจก็คือ สินค้าหรือบริการของคุณนั้นเหมาะสมกับผู้บริโภคแบบไหน และใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณ เพราะมันคงเปล่าประโยชน์แน่ๆ หากคุณจะนำปลาแซลมอนไปขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่รับประทานมังสวิรัติ ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดง่ายๆ ที่จะทำให้คุณสามารถค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงใจมากที่สุดก็คือ การสร้าง Buyer Persona หรือ ลูกค้าในจินตนาการของคุณขึ้นมา โดยระบุว่าเขาเป็นใคร มีชื่ออะไร เป็นเพศหญิงหรือเพศชาย อายุเท่าไหร่ ประกอบอาชีพอะไร มีรายได้เท่าไหร่ มีความสนใจทางด้านไหน กำลังประสบปัญหาอะไร และเราจะสามารถพบตัวเขา/เธอได้จากที่ไหน ฯลฯ และเมื่อคุณทำข้อมูลในส่วนนี้เสร็จแล้ว คราวนี้มันก็จะทำให้คุณมองเห็นหนทางในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างไรให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแล้วล่ะค่ะ
3. รวมกลุ่มพันธมิตรทางการค้า
การรวมกลุ่มพันธมิตรทางการค้าเพื่อทำการตลาดร่วมกัน นอกจากจะช่วยให้การออกแคมเปญทางการตลาดของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว กลยุทธ์การตลาดวิธีนี้ยังเป็นการใช้ต้นทุนที่ต่ำ แถมยังสามารถเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรที่คุณเลือกก็ควรจะเป็นกลุ่มที่มีลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน เพราะเมื่อแต่ละคนนำสินค้าของตนมาจัดโปรโมชั่นหรือจัดงานขายร่วมกัน ก็จะสามารถดึงกลุ่มผู้บริโภคให้มารวมกันเยอะๆ ได้และเปิดโอกาสให้สินค้าของคุณขายได้มากขึ้น ซึ่งตัวอย่างการรวมกลุ่มพันธมิตรทางการค้าที่ประสบความสำเร็จในการจัดแคมเปญร่วมกันก็เช่น งาน OTOP City และงาน Commart เป็นต้น
4. ทำการตลาดตามแบบ Apple
จุดเด่นของกลยุทธ์การตลาดตามแบบฉบับของ Apple ที่เรามองเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ความภักดีในตราสินค้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าลูกค้าที่ใช้สินค้าแบรนด์ Apple ส่วนใหญ่มักจะไม่เปลี่ยนใจไปหาแบรนด์อื่น และเมื่อมีการใช้สินค้าประเภทหนึ่งแล้ว ก็จะขยายไปสู่สินค้าประเภทอื่นๆ ภายในแบรนด์ด้วย ทั้งนี้สิ่งที่แตกต่างระหว่างกลยุทธ์การตลาดของ Apple และแบรนด์อื่นอย่างแรกก็คือ Apple จะไม่ใช้โฆษณาที่บอกว่าสินค้าของเขาดีอย่างไร แต่จะใช้การบอกเล่าแบบปากต่อปากของลูกค้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวสินค้า นอกจากนั้นสิ่งที่ Apple มุ่งเน้นทำสิ่งนี้เสมอก็คือ การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับตัวลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือร้านค้าของพวกเขา ที่มักจะทำให้เราร้องว้าวได้เสมอ รวมไปถึงการเดินนำหน้าคู่แข่งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่มักจะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ
5. ช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้า
สิ่งหนึ่งที่พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่มักจะพบเจออยู่เสมอก็คือ เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการไปแล้ว เกิดปัญหาหรือเกิดความไม่พอใจตามมา จนเกิดการร้องเรียนหรือคอมเพลน ไม่ว่าจะเป็นการคอมเพลนผ่านทางโทรศัพท์ ผ่านทางอีเมล หรือผ่านทางเว็บบอร์ด หรือหน้า facebook ซึ่ง 2 แบบสุดท้ายนี่แหละค่ะที่อาจจะทำให้ร้านค้าของเราสูญสิ้นความน่าเชื่อถือได้ หากไม่มีการแก้ไขปัญหาให้คลี่คลาย
ทั้งนี้วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ค้าก็คือ การปล่อยให้ลูกค้าสอบถามหรือระบายปัญหาออกมาให้หมด โดยที่คุณอาจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยก็ได้ จากนั้นจึงกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ ถึงแม้ว่าปัญหาบางอย่างอาจจะไม่ใช่ความผิดของเราเองก็ตาม ก่อนจะเสนอตัวในการแก้ไขปัญหาให้แก่ลูกค้าเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แน่นอนว่าหากลูกค้าที่กำลังโมโหอยู่เจอไม้นี้เขา ร้อยทั้งร้อยมักจะจบลงด้วยดี ที่สำคัญยังสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ว่าที่ลูกค้าท่านอื่นที่กำลังตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการจากเราด้วย นอกจากนั้นอีกวิธีที่น่าสนใจในการช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาก็คือ การสร้างบทความแนว How to เพื่อให้ความรู้แก่ลูกค้าและผู้คนทั่วไป วิธีนี้นอกจากจะทำให้คุณได้ใจลูกค้าแล้ว ยังอาจจะสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือ 5 กลยุทธ์การตลาด ที่เราอยากแนะนำให้ว่าที่ผู้ประกอบการมือใหม่นำไปประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของคุณให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
ขอบคุณที่มา : am2bmarketing
