ส่องพฤติกรรมนักอ่านออนไลน์ที่คนทำคอนเทนต์ต้องรู้!

ส่องพฤติกรรมนักอ่านออนไลน์ที่คนทำคอนเทนต์ต้องรู้!

       

         "Content is king." วลีนี้ก็ยังคงเป็นวลียอดฮิตที่คนทำคอนเทนต์ และการตลาดล้วนเชื่อมั่นว่า ถ้าคอนเทนต์ดีจริง ยังไงก็มีคนอ่าน!

    แต่ในยุคนี้ที่โลกออนไลน์มีคอนเทนต์หลายอย่างให้เลือกเสพกันเต็มไปหมด ทำให้พฤติกรรมของนักอ่านเปลี่ยนไป จากเดิมที่มีคนอ่านบทความยาวๆ เดี๋ยวนี้เริ่มกลายเป็น "ยาวไปไม่อ่าน" ยกเว้นว่าเนื้อหาจะดีจริงๆ แต่บางทีบทความที่มีเนื้อหายาวๆ และเรียบเรียงได้ดี ก็มีผู้อ่านน้อยคนมากที่จะอ่านทุกตัวอักษร ส่วนใหญ่ก็อ่านแบบข้ามๆ (Skimming) กันหมด วันนี้ เราจะมาส่องพฤติกรรมนักอ่านออนไลน์ในปัจจุบันกันว่า เดี๋ยวนี้เขาอ่านกันยังไง แล้วคนที่ทำ Content หรือเขียนอะไรสักอย่าง ต้องปรับตัวยังไงบ้าง?

  พฤติกรรมของผู้อ่านออนไลน์ในปัจจุบัน!!

  • 55% ของจำนวน Page View ทั้งหมด ได้รับความสนใจเป็นเวลาน้อยกว่า 15 วินาที
  • คอนเทนต์กว่า 60-70% เป็นคอนเทนต์ขายของที่คนไม่อ่าน
  • ในปี 2008 มีผลวิจัยระบุว่า ผู้เข้าชมเว็บจะอ่านเนื้อหาเพียง 20% ของเนื้อหาทั้งหมดในหน้านั้นๆ
  • หัวข้อ หรือวลีที่มีจำนวนคำแค่ 2-3 คำ จะถูกมองข้ามทันทีกว่า 75% ขณะที่หัวข้อที่มีจำนวนคำประมาณ 8 คำ จะได้รับความสนใจเกือบตลอด
  • ปัจจัยเรื่องคำในหัวข้อที่ส่งผลต่อการดึงดูดคน คือ Content Word (85%) และ Functional Word (35%) โดย Content Word คือพวกคำที่เล่าเนื้อหา เช่น ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่ ฯลฯ ขณะที่ Functional Word คือคำเสริมที่เกี่ยวกับรูปประโยค เช่น คำวิเศษณ์, คำสันธาน ฯลฯ จะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
  • รูปแบบการอ่านบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันไม่ใช่จาก "ซ้ายไปขวา" ทั้งหมด แต่เป็นการอ่านในรูปตัวอักษร F ซึ่งบ่งบอกถึงการสำรวจเฉพาะหัวข้อที่สนใจ และอ่านเนื้อหาคร่าวๆ ไม่ได้อ่านทั้งหมด
  • พื้นที่ด้านครึ่งซ้ายของหน้าเว็บ ได้รับความสนใจจากผู้อ่านมากกว่าครึ่งด้านขวา ในสัดส่วน 70% vs 30%
  • ผู้อ่านใช้เวลากว่า 80% ในการสำรวจคอนเทนต์ที่ปรากฏบน Page Fold แรก (ส่วนแรกของเว็บที่ปรากฏขึ้นมา) ขณะที่เนื้อหาที่ต้องเลื่อนลงมาดูนั้นได้รับความสนใจน้อยกว่ามาก
    เวลาเฉลี่ยในการอ่านอีเมลแจ้งข่าวสาร หรือโปรโมชั่นอยู่ที่ราวๆ 51 วินาที
  • ผลสำรวจจากนิตยสาร TIME ในปี 2014 เผยให้เห็นว่า คนที่มี Activity บนโซเชียลเป็นประจำ และชอบแชร์สิ่งต่างๆ มักไม่ค่อยอ่านสิ่งที่ตัวเองแชร์เท่าไหร่ ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ที่มี Activity บนโซเชียลน้อยๆ ที่ทุกลิงก์ที่แชร์มาคือตนเองได้อ่านหมดแล้ว
  • คนยุคนี้อ่าน Content บนโลกออนไลน์มากกว่าการอ่านหนังสือเป็นเล่มๆ ประมาณ 20-30%
  • ผู้อ่านแค่ 10-20% เท่านั้น ที่จะอ่านตั้งแต่หัวข้อจนถึงตอนจบของบทความ

     ผู้อ่านที่อ่านบทความนานกว่า 3 นาที จะกลับมายังเว็บไซต์ดังกล่าวบ่อยกว่าผู้ที่อ่านเพียง 1 นาที ถึง 2 เท่า
ข้อมูลข้างต้นคือบทสรุปคร่าวๆ ของพฤติกรรมผู้อ่านบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน แล้วคนทำคอนเทนต์ หรือทำเว็บไซต์ต้องแก้ หรือปรับตัวตรงไหนบ้าง เพื่อให้สอดคล้องกับคนอ่านยุคนี้ ไปดูกัน

  1. วางแผนให้ดีว่าคอนเทนต์ชนิดใดควรอยู่ตรงไหนบนหน้าเว็บ เพื่อกระตุ้นผู้อ่านให้เกิดความอยากดู อยากอ่าน หรือสนใจจะเข้าไปในส่วนอื่นต่อ
  2. ทำให้คอนเทนต์ของตนเองมองเห็นได้ง่าย และชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้อ่าน "เข้ามาแล้วเจอเลย" ไม่ใช่เข้ามาแล้วต้องกดเข้าไปที่อื่นต่อ
  3. สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าสุดๆ ได้ ด้วยการเขียนประเด็นที่เหมาะกับผู้อ่านแบบเฉพาะกลุ่ม ยิ่งเฉพาะมากยิ่งดี หลีกเลี่ยงคอนเทนต์แบบ General Mass เพราะใครๆ ก็ทำได้
  4. ความเป็นมืออาชีพในการเขียน ทั้งการเรียบเรียงประโยค และสะกดคำ (นะคะ/นะค่ะ ใช้กันให้ถูกด้วยนะคะ)
  5. ชั่งน้ำหนักให้ดีระหว่าง คุณภาพ vs ปริมาณ เพราะสองอย่างนี้มีเป้าหมายในการทำที่แตกต่างกัน ถ้าเน้นการทำคอนเทนต์เยอะๆ แต่ไม่มีคุณค่า ก็ต้องปรับเปลี่ยนประเด็นมาทำแบบน้อยๆ แต่โดนทุกอันบ้าง

     แม้พฤติกรรมของผู้อ่านจะเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ทำให้ผู้ผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ต้องปรับตัวตามตลอดเวลา แต่สุดท้ายแล้วถ้าคอนเทนต์ไหนดี และโดนจริงๆ จะเขียนยาวหรือสั้น ยังไงก็มีคนอ่านแน่นอน ดังนั้น ควรใช้เวลากับการตกผลึกไอเดีย หรือประเด็นในการทำคอนเทนต์ให้มากๆ เพื่อสร้าง Value ให้กับชิ้นงาน และเว็บไซต์ของเรามากที่สุด

 

    ที่มา : makewebeasy

โดย :
 1539
ผู้เข้าชม

บทความที่เกี่ยวข้อง

     สำหรับหลายๆ SMEs ในปัจจุบัน เป้าหมายหลักยังไม่เน้นการสร้างแบรนด์ แต่ เน้น การสร้างยอดขาย นั่นคือเจ้าของ SMEs หลายๆคนตั้งเป้าให้ธุรกิจเติบโตด้วยการดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆและหัวใจสำคัญของการผลักดันยอดขายคือ การตลาด วันนี้เราจะมาแชร์ 4วิธี การตลาดที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจคุณให้เติบโตด้วยยอดขาย
Google ได้ประกาศว่า Chrome จะเริ่มการบล็อกเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัยที่เป็น HTTP และจะให้ HTTPS แสดงเป็นค่าเริ่มต้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นั้นก็เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้งานในการท่องเว็บไซต์
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าของเพจ SME สามารถนำเสนอการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตบน Facebook เพื่อให้ลูกค้าได้สนุกกับการช้อปปิ้งและชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยไม่ต้องออกจากอินบ็อกซ์ของ Facebook ด้วยทางเลือกการชำระเงินที่เพิ่มขึ้น ชาวไทยสามารถสนุกกับการซื้อสินค้าอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด โดยไม่ต้องกรอกรายละเอียดการชำระเงินและการจัดส่งซ้ำทุกครั้งที่มีการซื้อสินค้า

Feature SoGoodWeb

SoGoodWeb มีระบบรับชำระเงินแบบใหม่ผ่าน Pay Solution รองรับทุกธนาคารชั้นนำ ทำให้การจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นเรื่องง่าย ช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก
LINE Notify คือ บริการที่คุณสามารถได้รับข้อความแจ้งเตือนจากเว็บเซอร์วิสต่างๆ ที่คุณสนใจได้ทาง LINE โดยหลังเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อกับทางเว็บเซอร์วิสแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจากบัญชีทางการของ “LINE Notify” ซึ่งให้บริการโดย LINE นั่นเอง
เหมาะสำหรับลูกค้าที่เปิดธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง หรือเป็นรายย่อย เป็นระบบจองทัวร์ ที่ช่วยทำให้การจัดการธุรกิจทัวร์ - ทัวร์ท่องเที่ยว ให้เป็นเรื่องง่าย
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์