ข้อดีของระบบ Cloud Computing

• ทำให้บริการต่างๆ เช่น เว็บโฮสติ้ง อีเมลโฮสติ้ง และ VPS มีความเสถียรและมีความเร็วยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
• ทำให้การบริหารจัดการโครงสร้างเป็นไปได้โดยสะดวกและลดการใช้ทรัพยากร
• ทีมงานวิศวกรจากในและต่างประเทศช่วยดูแลระบบคลาวด์
• ระบบคลาวด์มี Resource Pool ขนาดใหญ่  VPS แบบเดิมจะถูกจำกัดด้วยจำนวนทรัพยากร เช่น CPU, Memory, Storage ในเครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่ระบบ Cloud จะไม่มีข้อจำกัดในด้านการเก็บข้อมูล นั่นคือมีพื้นที่ไม่จำกัดจึงสามารถนำข้อมูลทั้งหมดมาเก็บรวมกันอยู่บนระบบ Cloud และทำการกระจายการทำงานไปยังเครื่องทั้งหมดใน Cloud เท่าๆ กัน ทำให้มีการใช้ Disk I/O ซึ่งช่วยให้การทำงานของ VPS โดยเฉลี่ยเร็วขึ้น เนื่องจากเครื่อง server แต่ละเครื่องมีการทำงานที่น้อย
  
  

• VPS บนคลาวด์จะไม่ล่มด้วยปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ปัญหาการเก็บข้อมูลที่ลูกค้าส่วนมากพบเจอนั่นคือ ปัญหาจากการเสียหายจากฮาร์ดแวร์ Harddisk, Power supply ฯลฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้งานของเว็บบนเครื่องนั้นๆ โดยตรง เมื่อนำระบบคลาวด์มาใช้งาน ปัญหาดังกล่าวถูกจัดการให้หมดไปด้วยระบบ High Availability (HA) โดยคลาวด์จะคอยตรวจสอบการทำงานของ OS และ Hardware โดยอัตโนมัติ เมื่อมีการทำงานที่ผิดปกติ ระบบจะทำการ reboot VPS ที่มีปัญหา หรือหากเป็นกรณีที่ Hardware เสีย เครื่องไม่สามารถใช้งานได้ ระบบคลาวด์ก็จะทำการย้าย VPS ไปทำงานบนเครื่องอื่นๆ แทนโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการย้าย
• เส้นทาง Network มีการทำสำรองทุกจุด จุดสำคัญที่มักเกิดปัญหาขึ้นของ Server ที่ใช้ทำ VPS ในระบบเดิมๆ คือ เส้นทาง Network มักมีเพียงสายเดียว แต่ในระบบ Cloud มีการสำรองให้แต่ละเส้นทางมีทางสำรองกรณีเส้นทางหลักเสีย หรือมีความหนาแน่นมากเกินไป และสามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นเมื่อมีความต้องการ ระบบ Distributed Resource Scheduler (DRS) 
• ระบบ DRS มีหน้าที่ในการตรวจสอบ คำนวณ และตัดสินใจ ว่าการทำงานของระบบในส่วนของ VPS มีส่วนใดที่มีค่าเฉลี่ยการทำงานที่หนักมากเกินไป และไม่เกิดความสมดุลอยู่หรือไม่ ซึ่งระบบ DRS มีการทำงานที่ช่วยจัดการ Storage ให้มีการใช้งานเฉลี่ยเท่าๆ กันเพื่อให้ค่าเฉลี่ยการทำงานแต่ละส่วนทำงานหนักเท่าๆกัน เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและการประมวลผลที่ดีเยี่ยม 

Credit : Nineweb.co.th