การทำธุรกิจในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำการประชาสัมพันธ์ร้านค้าหรือสินค้าของเราเลย หากรอให้มีลูกค้าเดินเข้ามาพบร้านของเราเองก็คงเป็นไปได้น้อยมาก เมื่อลูกค้ามีความต้องการสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือค้นหาผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อหาร้านค้าที่น่าสนใจในราคาที่พึงพอใจ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ในกรณีการเปิดร้านค้าออนไลน์ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ทำการตลาดเลยร้านค้าคงไม่เป็นที่รู้จัก การตลาดแบบออนไลน์หรือ Digital Marketing จึงเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้
1. Social Network สังคมออนไลน์อย่าง facebook, twitter ไม่มีใครไม่รู้จักในเวลานี้ นับว่าเป็นช่องทางทำการตลาดออนไลน์ที่กว้างขวางและประหยัดที่สุด ทั้งยังเข้าถึงเครือข่ายคนรุ่นใหม่ในยุคออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว แถมวัดผลได้รวดเร็วทันใจอีกด้วย
2. Google Adwords เวลาที่คน search หาสินค้าหรือบริการที่ต้องการใน google หากพบผลการค้นหาตรงกับสิ่งที่ต้องการ ก็จะคลิกเข้าไปดูรายละเอียด โอกาสที่จะซื้อสินค้าก็เป็นไปไม่ยาก ดังนั้นจึงนิยมใช้บริการ Google Adwords กันมาก เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ของตน
3. EDM หรือ Electronic Direct Mail หรือที่เรียกกันอย่างง่าย ๆ ว่า E-Newsletter การส่งอีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า โปรโมชั่น หรือกิจกรรม ข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ไปยังผู้รับ ซึ่งได้ลงทะเบียนรับข่าวสารไว้กับทางเว็บไซต์เป็นการประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงด้วยฐานข้อมูลสมาชิกที่สนใจในบริการนั้นๆ อยู่แล้ว
4. SEO หรือ Search Engine Optimization เป็นการค้นหาด้วยการใช้ keyword เมื่อติดอันดับต้นๆ แล้ว คนก็จะคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์มากขึ้น โอกาสที่เว็บไซต์จะเป็นที่รู้จักก็มีมากขึ้นจามไปด้วย อย่างเช่นเว็บไซต์ ShoppingServiceShop.com ที่วางโครงสร้าง SEO รองรับผู้ประกอบการไว้เป็นที่เรียบร้อยใครที่เปิดร้านค้าออนไลน์กับเว็บไซต์นี้ เมื่อลูกค้าค้นหาชื่อสินค้าที่เป็น keyword ร้านค้าใน ShoppingServiceShop.com ก็จะติดในอันดับต้นๆ
5. Affiliate Marketing เป็นการทำการตลาดออนไลน์ผ่านตัวแทนโฆษณาที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ เมื่อตัวแทนสามารถทำให้คนเข้าเว็บไซต์เรา และสมัครสมาชิกหรือซื้อสินค้า หรือเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่ตกลงกันไว้ก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น นับเป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผล เพราะหากไม่มีคนเข้ามาก็ไม่ต้องเสียอะไร แต่หากมีคนเข้ามาย่อมได้ประโยชน์เกินกว่าค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้ตัวแทนอยู่แล้ว
6. Text-Link Ads การใช้ข้อความเป็นตัวโฆษณาเพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของเรา โดยอาจแฝงไปกับในเนื้อหาเรื่องราวบันเทิง หรือเกร็ดความรู้ต่างๆ เป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก แต่ให้ผลตอบรับที่ดี ถ้าวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
7. Contextual Targeting เป็นการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมายของสินค้านั้นๆ เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายโดยตรง เช่น โฆษณาเครื่องสำอางในเว็บไซต์สำหรับผู้หญิง ทั้งนี้อาจทำโดยการสร้างโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องตรงความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย
เราสามารถเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์หลายๆ วิธีพร้อมกัน เพื่อให้ได้ผลตอบรับจากหลากหลายช่องทางเป็นตัวช่วยทำให้อัตราการเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น และที่สำคัญต้องทำให้ในเว็บไซต์มีความน่าสนใจด้วย เพราะคงเปล่าประโยชน์หากมีคนเข้าเว็บไซต์มาแล้ว แต่ไม่พบอะไรที่น่าสนใจในเว็บไซต์เลย
Credit : www.th.jobsdb.com