อินเตอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่นำมาซึ่งประโยชน์อย่างเหลือคณานับสำหรับภาคธุรกิจ ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ทั้งประหยัด รวดเร็ว ไร้พรมแดน และไร้ข้อจำกัดด้านเวลา ทำให้นักธุรกิจสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการใช้เป็น "ช่องทางสำหรับซื้อขายสินค้า" ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
กิจการใหม่ๆ หันมาใช้อินเทอร์เน็ตเป็นที่ลองสนามก่อนเข้าสู่วงการธุรกิจอย่างเต็มตัว เพราะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการจัดตั้งบริษัทขึ้นเอง ขณะที่หลายกิจการยึดการค้าขายทางอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางหลักเลย เรียกได้ว่าอินเทอร์เน็ตสร้างคุณประโยชน์อย่างมหาศาลให้กับวงการธุรกิจทีเดียว หากไม่นับการที่อินเทอร์เน็ตกลายเป็นตลาดซื้อขายสินค้าเลียนแบบที่ใหญ่และปราบปรามได้ยากที่สุดไปเสียแล้ว
เหตุที่ปราบปรามได้ยากส่วนหนึ่งมาจากระบบการรักษาความเป็นส่วนตัวทางอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้ตรวจจับสิ่งผิดกฎหมายได้ยากขึ้นไปอีก ทั้งยังต้องใช้เวลาและความเชี่ยวชาญในการเจาะฐานข้อมูลอีก และแม้จะเจาะข้อมูลได้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกวาดล้างได้หมด เพราะขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ไม่ได้ยุ่งยาก หากเจ้าของไหวตัวทันก็อาจชิงปิดเว็บไซต์ก่อนถูกจับ และยังสามารถเปิดเว็บไซต์ใหม่ได้ทันที
หากผู้กระทำการดังกล่าวอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้นไม่ว่าจะผ่านช่องทางใดย่อมผิดกฎหมายอย่างแน่นอน โทษของการกระทำดังกล่าวตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ของไทยกำหนดไว้ว่า "การจำหน่าย เสนอเพื่อจำหน่าย ให้เช่า นำเข้า เผยแพร่ หรือแจกจ่าย ซึ่งงานที่ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตอันนำมาซึ่งความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ มีอัตราโทษปรับ 10,000-100,000 บาท แต่หากการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นทำเพื่อประโยชน์ทางการค้า จะมีอัตราโทษปรับ 50,000-400,000 บาท หรือจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ" ซึ่งไม่ว่าจะพิจารณายังไงการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางอินเทอร์เน็ตก็เข้าข่ายดังกล่าวอย่างแน่นอน
สิ่งต่อมาที่ควรตระหนักคือ กว่าบุคคลหนึ่งจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาได้แต่ละชิ้น เขาต้องใช้ทั้งความคิดและเวลาในการทุ่มเทสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนั้นๆ ตรงข้ามกับการลอกเลียนแบบที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แถมพอมีของเลียนแบบที่ถูกกว่าของจริงออกมาตีตลาด ก็ทำให้ผลงานที่น่าจะประสบความสำเร็จกลับเป็นตรงกันข้าม ส่งผลให้บุคคลผู้สร้างสรรค์ผลงานเกิดความท้อใจ หรืออาจตัดสินใจเลิกล้มความพยายามไปก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจุบันมีคนซื้อซีดีเพลงของศิลปินลดลงและหันไปซื้อแผ่นผีหรือโหลดทางอินเทอร์เน็ตแทน ดังนั้นยอดขายจริงก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นแม้ว่าผลงานจะเป็นที่นิยมก็ตาม จนอาจทำให้ศิลปินถอดใจออกจากวงการไปก็ได้ ข้อเสียคือหากยังมีการละเมิดลิขสิทธิ์กันอยู่ อีกหน่อยเราอาจไม่เหลือผลงานดีๆ ให้ได้ฟัง ได้ชม รวมไปถึงลอกเลียนแบบก็ได้ เพราะไม่มีศิลปินคนไหนอยากผลิตผลงานออกมาให้ลอกนั่นเอง
นอกจากนี้การที่พ่อค้าหรือแม่ค้าขายของละเมิดลิขสิทธิ์ให้ลูกค้าก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขาดความรับผิดชอบ เพราะของละเมิดลิขสิทธิ์แม้จะมีหน้าตาเหมือนของจริงทุกประการ แต่คุณภาพไม่อาจเทียบกันได้เลย ลูกค้าบางรายเก็บเงินแทบตายเพื่อจะซื้อสินค้าที่ตนใฝ่ฝัน แต่พอเห็นในเว็บไซต์ประกาศลดราคาก็ตัดสินใจสั่งซื้อโดยไม่ทันคิด แต่เมื่อได้ของมาแล้วกลับไม่ใช่สินค้าของจริง แถมคุณภาพก็ไม่ดีอย่างที่คาดหวังอีกด้วย
ที่ร้ายกว่าคือลูกค้าหลายคนหลงเชื่อคำโฆษณาผ่านเว็บไซต์แล้วสั่งซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางปลอมแปลงหรืออาหารเสริมต่างๆ ที่หลอกว่ากินแล้วผอม ขาว สวย ฯลฯ มาใช้ แต่พอใช้ไปก็เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงจนบางรายอาจถึงแก่ชีวิตก็มี สำหรับผู้ขายแล้วโทษหนักสุดก็แค่ปิดเว็บไซต์ ปรับ หรือจำคุกไม่กี่ปี เรียกได้ว่าเทียบไม่ได้เลยกับชีวิตคนบริสุทธิ์ที่ต้องเสียไป
เหตุผลต่างๆ ที่กล่าวไปอาจเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้ว แต่อีกสิ่งที่เราอาจไม่ได้ตระหนักถึงก็คือการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศอย่างยิ่ง หากมีผู้ขายสินค้าประเภทนี้มากขึ้น โดยเฉพาะทางอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อที่เข้าถึงได้ง่าย ก็ยิ่งทำให้คนทั่วโลกมองประเทศของเราในฐานะของผู้โจรกรรมความคิดรายใหญ่ ที่สำคัญหากบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์มาพบเข้า แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจับผู้กระทำผิดอย่างแท้จริงมาลงโทษได้เพราะกฎหมายระหว่างประเทศที่ซับซ้อน เขาก็อาจบอยคอตไม่ส่งสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายในบ้านเรา หรืออาจถึงขั้นคว่ำบาตรไม่รับสินค้าจากประเทศของเราเลยก็ได้
แม้ว่าการขายสินค้าเลียนแบบทางอินเทอร์เน็ตสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ขายได้ไม่น้อย แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีสินค้าอีกมากมายซึ่งทำรายได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งยังเป็นสินค้าที่ไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย ยกตัวอย่างคร่าวๆ ดังนี้
1. สินค้าเฉพาะกลุ่ม สินค้าที่เจาะเฉพาะกลุ่มไม่ได้เน้นขายบุคคลทั่วไป แม้ว่ากลุ่มผู้ซื้อจะไม่ได้ใหญ่นัก แต่หากเราสามารถทำตลาดได้แล้วรับรองว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแน่นอน เพราะสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่หาซื้อได้ยากในตลาดทั่วไป ตัวอย่างสินค้าประเภทนี้ได้แก่ เครื่องแต่งกายอินเทรนด์สำหรับคนอวบ อุปกรณ์แต่งรถสำหรับคนรักสุนัข สินค้าสำหรับคนชื่นชอบตุ๊กตาบลายธ์ เป็นต้นทั้งนี้สินค้าเฉพาะกลุ่มยังรวมไปถึงสินค้าที่ผู้ซื้อไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน อย่างเช่นสินค้าเกี่ยวกับเรื่องเพศ ที่แม้ว่าบางอย่างอาจไม่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ซื้อส่วนใหญ่อายเกินกว่าจะเปิดเผยตัวตน อินเทอร์เน็ตจึงเป็นช่องทางที่ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวได้
2. สินค้าหายากสินค้าหายาก เช่น แสตมป์หายาก แผ่นเสียงโบราณ พระเครื่องรุ่นดัง เป็นต้น สินค้าประเภทนี้มีผู้ต้องการซื้อเก็บสะสมอยู่แล้ว แต่กว่าจะได้มาบรรดานักสะสมทั้งหลายก็ต้องตระเวนหากันเลือดตาแทบกระเด็น แถมยังได้บ้างไม่ได้บ้างแล้วแต่ว่าใครจะเจอแหล่งหรือโชคดีกว่ากัน ดังนั้นหากเรามีแหล่งที่สามารถซื้อหาของเก่าหรือของหายากเป็นที่ต้องการของตลาดได้แล้วละก็ เราก็สามารถนำมาขายผ่านอินเทอร์เน็ตได้เลย ที่สำคัญสินค้าเหล่านี้ยังเป็นสินค้าที่ทำราคาได้สูงมากอีกด้วย ลองนักสะสมต้องการแล้วละก็ เท่าไรเขาก็ทุ่มไม่อั้นอย่างแน่นอน
3. สินค้าทำมือ สินค้าทำมือเป็นที่นิยมมากโดยเฉพาะในหมู่ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบงานฝีมือ เพราะสินค้าแต่ละชิ้นแต่ละอันมีหน้าตาไม่เหมือนกัน หรือบางอันอาจมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเลยก็ได้ เช่น กระเป๋าผ้าปักลาย สร้อยคอ กำไล งานแกะสลัก ภาพวาด ฯลฯ หากมั่นใจว่ามีความสามารถเฉพาะตัวและฝีมือเข้าขั้น เราก็สามารถนำสินค้าทำมือมาขายผ่านเว็บไซต์ได้ไม่ยาก แถมยังสามารถตั้งราคาให้สูงกว่าต้นทุนได้มากอีกด้วยเพื่อเป็นค่าแรงและค่าไอเดีย แต่ด้วยความที่สินค้าของเรายังไม่เป็นที่รู้จัก ทั้งยังไม่มีองค์กรมารับรองเหมือนสินค้าทั่วไป อาจทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจคุณภาพสินค้าก็เป็นได้ ดังนั้นเราควรจะอธิบายลักษณะ การใช้งาน การเก็บรักษา หรือข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญเกี่ยวกับสินค้าลงในเว็บไซต์อย่างละเอียดหากผู้บริโภคซื้อไปแล้วพอใจ เขาก็อาจบอกต่อหรือแสดงความคิดเห็นในแง่บวกผ่านทางหน้าเว็บไซต์เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้ารายใหม่ด้วยก็เป็นได้
=====================================
ความจริงแล้วมีสินค้ามากมายที่สามารถขายบนอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่จำเป็นต้องลอกเลียนแบบสินค้าของผู้อื่น อีกทั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเว็บไซต์อย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพื่อขายสินค้าอีกด้วย ที่สำคัญคือให้คนอื่นรู้จักเราในนาม "นักสร้างสรรค์" คงจะดูดีกว่าถูกขนานนามว่า "นักเลียนแบบ" อย่างแน่นอน
Credit : Incquity.com