ปัจจุบันการขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ มือถือ ของขวัญ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันทั้งหลายนั้นไม่ได้มีอยู่แค่ใน
ตลาดนัด ร้านค้า หรือห้างใหญ่ๆ แต่เราจะสามารถพบได้จากโฆษณา ตามเว็บไซต์ หรืออย่างที่เห็นได้ชัดเจนเช่นสังคมในโลกออนไลน์อย่าง Facebook ซึ่งถือเป็นการจับคู่ได้อย่างลงตัวระหว่าง “Social Network กับ ตลาดแฟชั่น”
การทำการธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ต ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีมานานพอสมควร แต่คู่แข่งขันทางการตลาดก็มากขึ้นไปอีกด้วยเพราะสามารถทำได้ง่ายกว่าการเดินหาทำเลบนห้างสรรพสินค้า และจ่ายค่าเช่าที่ที่ราคาสูงขึ้น เช่น ตลาดเสื้อผ้าที่เรา
รู้จักกันดีอย่างแพลตตินัม ค่าเช่าที่ต่อห้องราคาสูงถึง 70,000-200,000 บาทต่อห้องแล้วแต่ทำเลบางรายก็ขาดทุนต้องหาคนเซ้งเพื่อจะมารับช่วงต่อ ส่วนที่ขายได้กำไรนั้นก็มีมาก บางร้านสามารถขายได้ต่อเดือนถึงเจ็ดหลัก เมื่อหักลบต้นทุนแล้วก็เหลือหกหลักกลางๆ ซึ่งถือว่าอยู่ได้สบายๆ จากการสอบถามบรรดาแม่ค้าทั้งหลายในแพลตินัมและประตูน้ำนอกจากจะมีรายได้จาก สาวๆ ขาช็อปในประเทศไทยแล้ว ยังได้ส่งออกไปยังบรรดากลุ่มลูกค้าต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแขก หรืออินเดียที่อุดหนุนสินค้าของไทย ส่วนอีกแหล่งหนึ่งที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทำไปด้วยคือการมีหน้าร้านใน Social Network ควบคู่กัน
การขายของในสังคม Social Network ดังที่เห็นง่ายสุดใน Facebook ตอนนี้พบได้มากมาย แต่ที่ประสบความสำเร็จจริงนั้นอาจยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับปริมาณร้านค้า ทั้งหมดที่มี เนื่องจากคู่แข่งขันสูง ลูกค้าไม่สามารถเห็นสินค้าของจริงได้ ซึ่งส่วนใหญ่แม่ค้าในสังคมออนไลน์จะบอกได้เพียงลักษณะ ความกว้าง ความยาว และถ่ายรูปให้สีใกล้เคียงกับของจริงที่สุด อีกทั้งการตลาดนั้นทำได้ยากกว่า เพราะนอกจากจะต้องทำให้ ชื่อแบรนด์ของสินค้าเป็นที่รู้จักแล้ว ตัวสินค้าควรเป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพต้องดีจริง หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับสินค้า ความนิยมชมชอบก็จะลดลงเนื่องจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตที่มีอย่างรุนแรงและรวดเร็ว อาจจะทำให้การสร้างยอดขายตกลง มากกว่านั้นราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงว่าสินค้าสมกับราคาหรือ ไม่ ถูกกว่าหรือแพงกว่าราคาตามท้องตลาด แม้ว่าเราจะไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ก็จริง แต่เราก็ต้องบวกราคาในส่วนของบรรจุภัณฑ์และการจัดส่งไปรษณีย์เข้าไปด้วย เพราะหลายท่านที่เริ่มทำธุรกิจก็เกิดภาวะ “เข้าเนื้อ” ในส่วนนี้กันมาแล้ว เมื่อลูกค้าสั่งสินค้ามาแล้วการติดตาม การโอนเงิน และความมีวินัยของแม่ค้าในการจัดส่งก็มีความสำคัญ หากท่านละเลยในส่วนนี้ ลูกค้าของท่านอาจจะบ่นที่หน้า wall ของท่านได้ ซึ่งอาจจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือเมื่อมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาเยี่ยมชม
การขายของใน Social Network อาจจะมีความเสี่ยงน้อยกว่าการมีหน้าร้านก็จริง แต่หากการละเลยเอาใจใส่ หรือไม่มีความตั้งใจจริงแล้วไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามก็ประสบความสำเร็จได้ยาก ดังนั้นหากท่านคิดจะทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งจึงควรศึกษาแนวทาง ข้อดี ข้อเสีย และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นให้รอบคอบที่สุด
Credit : www.bejame.com