จุดเริ่มต้นของการประชาสัมพันธ์ออนไลน์ผ่านวิดีโอคลิปนี้เริ่มจากการเกิดของ Youtube (ยู ทูบ) ในปี 2005 ด้วยแนวคิดของผู้ก่อตั้งคือ Chad Hurley (แชด เฮอร์ลีย์) และ Steve Chen (สตีฟ เชน) ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์เพื่อไว้แลกเปลี่ยนวิดีโอคลิปกัน แต่กลับกลายเป็นว่าผู้ใช้นำวิดีโอคลิปไปฝากไว้ที่ Youtube แล้วลิงก์จากบล็อกของตัวเองไปยัง Youtube ทำให้ Youtube เติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นผู้ใช้บริการ Youtube บางรายเริ่มอัพโหลดรายการทีวีของสหรัฐอเมริกาบางรายการเข้าไปอยู่ใน Youtube และมีคนชมจำนวนมาก จึงเริ่มมีบริษัทหลายแห่งหันมาสนใจการทำโฆษณาออนไลน์ด้วยวิดีโอคลิปผ่าน Youtube กันมากขึ้น
ในประเทศไทยก็เริ่มมีวิดีโอคลิปใน Youtube ที่ได้รับความนิยมจนติดอันดับของต่างชาตินั้นคือโฆษณาของ Pantene ชุด สาวใบ้ นอกจากจะใช้วิดีโอคลิปเพื่อการโฆษณาแล้ว ยังสามารถใช้วิดีโอคลิปเพื่อรณรงค์โครงการต่างๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น ปี 2009 Volkswagen ได้ทำโครงการเพื่อสังคมชื่อ Fun Theory โดยให้คนทั่วไปร่วมทำวิดีโอคลิปส่งเสริมให้คนในประเทศสวีเดนนั้นเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมเพื่อให้สังคมและตัวเองดีขึ้น โดยวิดีโอคลิปที่คนร่วมส่งมาใน Youtube ทำให้
เกิดการส่งต่อกันไปและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนอยากมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามต้องจำไว้ว่าไม่ใช่ทุกวิดีโอคลิปบน Youtube ที่จะได้รับการชม การส่งต่อ หรือการบอกเล่าแบบปากต่อปาก เนื่องจากมีวิดีโอคลิปถูกอัพโหลดบน Youtube เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาจทำให้วิดีโอคลิปโฆษณาสินค้าและบริการ
ของเราถูกดูดกลืนไปในคลื่นยักษ์ ของวิดีโอคลิปใน Youtube ที่ มีจำนวนมากจนผู้ชมอาจหาไม่เจอก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นการโพสต์วิดีโอคลิปบน Youtube จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมืออื่นๆ เพื่อทำให้เกิดการกระจายของคลิป เช่นการใช้ บล็อก, Facebook, Twitter หรือการใส่คำบรรยาเพื่อสื่อถึงคลิป รวมถึงการทำ SEO หรือการใช้คีย์เวิร์ดของคลิปให้เหมาะสมเพื่อช่วยให้ค้นหาวิดีโอคลิปใน Youtube ได้ง่ายขึ้น การสร้างวิดีโอคลิปอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเหมือนโฆษณาตามสื่อทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องแบบมืออาชีพ เพียงแต่เนื้อหาในวิดีโอคลิปต้องมีแรงดึงดูดและไม่เหมือนใคร การสร้างเนื้อหาวิดีโอคลิปให้ดีและน่าสนใจอาจช่วยให้เกิดการพูดถึงและส่งแบบปากต่อปาก
เคล็ดลับช่วยให้วิดีโอคลิปเป็นที่นิยม
ปัจจุบันนี้มีเครื่องมือสำหรับติดตามว่าวิดีโอคลิปโฆษณาสินค้าและบริการที่ออกไปได้รับการตอบรับมากแค่ไหน ด้วยการใช้เว็บไซต์มีชื่อว่า Tubemogul และ Vidmatrix สำหรับ ติดตามจำนวนผู้ชม จำนวนผู้แสดงความเห็น และการจัดอันดับ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวจะแสดงการวิเคราะห์เป็นกราฟที่สวยงามได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจอันดับของวิดีโอคลิปได้จากเว็บไซต์ viralvideochart.unrulymedia.com ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของการชมในแต่ละสัปดาห์
Credit : Incquity.com